กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนทุกภาครวมทั้ง กทม.และปริมณฑล รับมือพายุฤดูร้อนช่วง 7-9 มี.ค. ส่งผลให้มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางพื้นที่
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 1 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2561 เรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 มีนาคม 2561)" ความว่า ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคมนี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในวันถัดไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในช่วงวันและเวลาดังกล่าว สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
    ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ โดยจะเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันที่ 7 มีนาคม 2561 ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่
    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
    พยากรณ์อากาศในรอบสัปดาห์ ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 4-7 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 มี.ค.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 4-6 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
    ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 4-7 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 มี.ค.จะมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส 
    ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 4-6 มี.ค. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 4-6 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 4-6 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 4-6 มี.ค. มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 มี.ค.มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.