ครม.สัญจร "เพชรสมุทรคีรี" "บิ๊กตู่" เคลียร์ใจประมง


เพิ่มเพื่อน    

        ชีพจรลงเท้ากันอีกครั้ง สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ "ครม.สัญจร" ครั้งที่ 2 ของปี 61 ระหว่างวันที่ 5-6 มี.ค. ซึ่งครั้งนี้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยกทีม ครม.ลงไปที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดที่ทำอุตสาหกรรมประมงและส่งออกอาหารทะเลสำคัญของประเทศ

        งานนี้บิ๊กตู่เน้นลงพบกลุ่มแรงงานประมงและเอ็นจีโอของ จ.สมุทรสาคร เพื่อทำความเข้าใจการดำเนินการของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย หรือไอยูยู หลังก่อนหน้านี้ชาวประมงบางส่วนไม่พอใจกับการแก้ไขปัญหาไอยูยูของรัฐบาล ที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมงในหลายๆ เรื่อง

        บิ๊กตู่จึงใช้โอกาสนี้เน้นการอธิบายถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาของไทย ที่หากมีการละเลยก็จะมีผลต่อการค้าขายกับต่างประเทศด้วย พร้อมกันนี้ยังได้พบปะกับแรงงานชาวไทยและแรงงานต่างด้าว ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ซึ่งถือว่ามีความสำคัญในอุตสาหกรรมประมงของไทย

        โดยบิ๊กตู่ได้เยี่ยมชมมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ดูการดำเนินการของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวอย่างในการประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมดูการพัฒนาสมุทรสาครให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารทะเล ก่อนลงดูธนาคารปูม้า แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย ที่องค์การสะพานปลา

        พร้อมกันนี้บิ๊กตู่ได้เดินพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ของกลุ่มแรงงานอย่างเป็นกันเอง พร้อมขอให้แรงงานต่างด้าวไปขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย เพื่อให้สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ ขณะที่แรงงานทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาต่างให้กำลังใจบิ๊กตู่ในการทำงาน พร้อมมอบดอกกุหลาบให้อีกด้วย 

        แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการขึ้นทะเบียนแรงงานที่มีการรายงานบิ๊กตู่ในวันนี้ ดูจะล่าช้าไม่สำเร็จทันใจบิ๊กตู่เท่าที่ควร ด้วยเครื่องสแกนม่านตาที่ยังมีไม่เพียงพอ ทำเอาบิ๊กตู่หงุดหงิดถึงขั้นทุบโต๊ะใส่อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมประกาศถ้ายังขึ้นทะเบียนกันไม่เสร็จภายในเดือน มิ.ย. ก็จะไม่ผ่อนผันให้อีกแล้ว

        และนอกจากเรื่องการประมงที่รัฐบาลให้ความสำคัญแล้ว การลงพื้นที่ครั้งนี้ดูบิ๊กตู่จะพูดย้ำเป็นพิเศษกับกลุ่มแรงงานไทยและประชาชน ถึงเรื่องการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยย้ำว่าการเลือกตั้งกำลังจะมาถึง อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการเลือกตั้งคือกลไกของประชาธิปไตย แต่ทุกคนต้องมีความรู้ว่าจะเลือกใคร จะต้องเลือกคนที่มีหลักการ มีวิธีการทำงานที่ยั่งยืน และอย่าไปเลือกคนที่ให้อะไรสั้นๆ เพราะจะทำประเทศล่มสลาย

        ขณะเดียวกันบิ๊กตู่ได้เปิดเวทีพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่นเหมือนเช่นทุกครั้ง โดยครั้งนี้ได้เชิญผู้นำท้องถิ่นในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 หรือ "เพชรสมุทรคีรี" ได้แก่ จ.เพชรบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.สมุทรสาคร และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาร่วมหารือแนวทางการพัฒนากลุ่มจังหวัดและรับฟังข้อเสนอแนะ โดยเวทีนี้ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ตบเท้าเข้าร่วมคึกคัก อาทิ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายยุทธพล อังกินันทน์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นต้น

        ขณะที่กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ นายชัยยะ อังกินันทน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี, นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ เป็นต้น 

        โดยประเด็นการหารือและข้อเสนอของกลุ่มจังหวัด เช่น การพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันตก โครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ยุทธศาสตร์ประตูสู่ภาคใต้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โครงการป้องกันน้ำท่วมด้วยการทำฟลัดเวย์ เป็นต้น

        นอกจากนี้ ในวันที่ 6 มี.ค. บิ๊กตู่จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการและงบประมาณสนับสนุนต่างๆ ให้กลุ่มจังหวัด ก่อนเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จ.เพชรบุรี

        อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่เพชรสมุทรคีรีครั้งนี้ บิ๊กตู่ได้ใจชาวประมงและชาวบ้านไปพอสมควร เพราะนอกจากจะได้ทำความเข้าใจเรื่องไอยูยูด้วยตนเองแล้ว ยังได้พบกับแกนนำพรรคการเมือง เพื่อสานสัมพันธ์กันไว้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นผลดี ก่อนสนามเลือกตั้งจริงจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้!.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"