ข้าว 'ชาวนาขายเอง' หายไปไหน?


เพิ่มเพื่อน    

            สนช.นี่.........

          ยอมเป็น "เกือก" ให้รัฐบาลไปทุกเรื่อง ก็ระวัง มันจะเสื่อม "เร็ว" กว่ากำหนดนะ!

            ผมว่าไม่เข้าท่าเลย

            วันนี้ ออกกฎหมาย พรุ่งนี้ ยอมให้ คสช.ยกเลิก มาตรานั้น-มาตรานี้ "ตามตัณหา-อารมณ์"

            ขืนเป็นแบบนี้บ่อยๆ ทั้ง สนช.-คสช.นั่นแหละ จะเข้าสูตร

            "ของแท้ต้องมีเกี๊ยะทับ"!

            การบ้าน-การเมืองว่าด้วยรัฐบาลเลือกตั้งในอนาคตน่ะ ดูตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ "บทเฉพาะกาล"

            ก็ชัดเจนว่า คสช.ต้องการแบบไหน-อย่างไรใน ๕ ปีแรกของรัฐบาลเลือกตั้ง

            เมื่อมีแผนอนาคตอยู่แล้ว........

            กรธ.ก็ของรัฐบาล สนช.ก็ของรัฐบาล ทำไมไม่คุยกันให้ครบวงจร ก่อนร่างพิมพ์เขียวออกมาเป็น "กฎหมายลูก" แต่ละฉบับล่ะ?

            ไม่ใช่เขียนจนเสร็จ เช่น พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

            ส่งให้ สนช.พิจารณาแล้ว

            แต่ละ สนช.มีทั้งเซียนถือแส้และถือใบสั่ง ก็กลั่นและกรองกันทุกมาตรา ชนิดขึ้นขาหยั่ง ก่อนจะผ่านเป็นกฎหมายแล้ว

            วันดี-คืนดี.........

            ยอมให้ "เจ้าสำนักตั๊กม้อ" คสช.ใช้กำลังภายใน ประทับฝ่ามือ สลายวิญญาณ มาตรานั้น-นี้ สลายเป็นฝุ่นไปซะงั้น

            ทำน่ะ...มันทำได้

            แต่เหมือนถ่มน้ำลายลงพื้น แล้วเลีย ชาวโลกเขาหยัน!

            นายกฯ ประยุทธ์นั้น

            ชาวบ้านพอใจความสัตย์ซื่อ และความตั้งใจทำงานเพื่อบ้าน-เพื่อเมือง

            ยิ่งตอนนี้ พืชพันธุ์แห่งงาน เริ่มผลิยอด แตกตา.......

            จะเป็นนายกฯ ตามบทเฉพาะกาลอีกซักเทอม ใครจะไปรังเกียจ-รังงอนอะไร

            แต่ที่จะเป็นไม่ได้และไม่ได้เป็น ก็เพราะการชักเข้า-ชักออกของตัวเองบ่อยๆ เรื่องหนึ่ง

            กับเรื่องความไม่โปร่งใสของบิ๊กๆ และคนที่บิ๊กๆ เอาเข้ามาเดินตอมหน้า-ตอมหลัง ทำหน้าที่ "เป็นมือ" ให้ นั่นอีกอย่างหนึ่ง

            นานๆ ไป ทั้งข้าราชการ ทั้งนักธุรกิจ วาณิช พ่อค้า เขาจะออกปาก...........

            นักการเมืองกับนักการทหาร เมื่อเข้ามาในวงจร "งบประมาณแผ่นดิน" ในฐานะรัฐบาล

            พันธุ์เดียวกันเปี๊ยบ!

            ช่วงนี้ เป็นช่วงปลายปี มีสิ่งหนึ่งที่หายไป

            จำกันได้มั้ย ว่าอะไรที่มันหาย?

            เสียงด่ารัฐบาล เรื่อง "ข้าวราคาตกต่ำ" นั่นไงล่ะ!

            จากพิษ "ข้าวจำนำเกวียนละหมื่นห้า" ยุคยิ่งลักษณ์ขายไม่ออก ล้นบ้าน-ล้นเมือง ๓-๔ ปีที่ผ่าน

            ทั้งข้าวเปลือก-ข้าวสาร ผวากันไปทั้งตลาดไทย-ตลาดโลก จนข้าวที่ "ทักษิณริ-ยิ่งลักษณ์ยำ" ทำให้ข้าวไทยหมดราคา

            จนปีที่แล้ว.........

            เกิดนวัตกรรมเป็นมิติดิ้นหนีตาย "ชาวนาขายตรง"

            พ่อค้า-คนกลาง กดราคาช่างหัวมัน

            ชาวนาสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ร่ายตำนานแต่ละหมู่บ้านเป็นแบรนด์ กรอกถุงขายเองก็ได้

            "ชาวนาขายตรง" ปลุกตลาดตื่นโดยพลันทั้งประเทศ เหมือนตื่นตูนวิ่งเบตง-แม่สาย "พันล้าน" ตอนนี้

            แทบทุกยูนิตสังคม รวมทั้งรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานราชการ และองค์กรเอกชนน้อย-ใหญ่

            ช่วยซื้อ-ช่วยขาย

            "ช่วยชาวนา" สีเอง-ขายเองกันคึกคัก จากมือชาวนา ถึงปากคนกิน บริสุทธิ์-สะอาด-ปลอดสาร

            ขายทั้งออนไลน์ ขายทุกหน-ทุกแห่ง เท่าที่ชาวนาปรารถนาจะขาย

            จนเกิดดรามาการเมือง "นางห้อย-นางโหน" เกรงจะตกกระแสแด๊ะแด๋ออกมาสร้างภาพ ซื้อข้าวชาวนาไปขายมั่ง

            เจ็บชาวนาที่ซ้ำซากนั้น........

            นายกฯ ประยุทธ์ ลงมือล้างขี้ยิ่งลักษณ์เรื่องข้าวจำนำ แล้วปรับกลไกตลาดข้าวคืนระบบ

            ไม่ต้องการให้เจ็บนั้น เป็น "เจ็บประจำ" ที่ไม่เคยมีใครนำไปสู่การแก้ไข

            ดังนั้น เมื่อ "ฤดูเก็บเกี่ยว" ปีนี้ เวียนมา ด้วยมาตรการนายกฯ ตู่ ถึงยังจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่า......

            ทั้งพารา....เงียบฉี่!?

            ไม่มีเสียงร้องจากชาวนา ไม่มีเสียงด่าจากผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย ไม่มีเสียงร่ายตำราจากนักวิชาการ

            ไม่มีเสียงพล่ามพล่านจากนักการเมือง ไม่มีเสียงผู้รู้แม่งมันทุกเรื่องจากสื่อวิจารณ์ และนักต่อต้านตลอดศก

            โซเชียลมีเดียก็เงียบ ในดรามาข้าว!

            เพราะอะไรล่ะ?  

            ก็ไม่รู้สินะ.......

            เอาล่าสุด ถึงศุกร์ ๒๒ ธันวา ๖๐ ราคาข้าวเปลือก "ตลาดกลาง" จากตัวเลข "สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร" มีดังนี้

            ประเภท "ข้าวนาปรัง"

            พันธุ์ สุพรรณบุรี ความชื้น ๑๕% โรงสีไฟโชครุ่งเรือง พรหมพิราม พิษณุโลก ๗,๔๐๐ บาท/เกวียน

            พันธุ์ หอมปทุมธานี ๑ ความชื้น ๑๕% โรงสีสินทรัพย์ถาวร เมือง สุพรรณบุรี ๑๐,๗๕๐ บาท/เกวียน

            ประเภท ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ๑๐๕

            ท่าข้าว ธ.ก.ส.เมือง ขอนแก่น ๑๕,๘๐๐ บาท/เกวียน

            ตลาดกลางพืชไร่ เมือง ศรีสะเกษ ๑๔,๘๐๐ บาท/เกวียน

            โรงสีไฟไทยเจริญวัฒนา เมือง อำนาจเจริญ ๑๕,๔๑๐ บาท/เกวียน

            โรงสีกิจทวียโสธร เมือง ยโสธร ๑๕,๐๐๐ บาท/เกวียน

            โรงสีสหพัฒนา สะตึก บุรีรัมย์ ๑๕,๕๐๐ บาท/เกวียน

            โรงสีเต็กเฮง จอมพระ สุรินทร์ ๑๔,๐๐๐ บาท/เกวียน

            โรงสีสหกรณ์การเกษตรสุวรรณภูมิ ร้อยเอ็ด ๑๕,๐๐๐ บาท/เกวียน

            ด้วยกลไกตลาด บวกการบริหาร-จัดการที่ถูกต้องของรัฐบาล มันจึงสะท้อน "ภาวะจริง" เช่นนี้

            โดยที่ไม่ต้อง "รับจำนำ (เอาไปกินกัน) ทุกเมล็ด"

            วันนี้ ฤดูเก็บเกี่ยวมาถึง และกำลังจะผ่านไป.....

             จึงไม่มีเสียงใครออกมา "ด่าเช็ด" เพราะข้าวขายไม่คุ้มเหมือน "การเมืองเลือกตั้ง" คุมกลไกตลาดข้าวอย่างตะก่อน!

            จึงมาถึงนิยามที่ว่า ใครก็ได้ เพียงเป็นคน........

            ขอไม่โกง จริงใจต่อประชาชน สุจริตต่อชาติ ยึดสถาบันเป็นหลัก และมีวิสัยทัศน์

            มันจะระบบไหน สนใจไปไย

            ก็แค่ชื่ออุปโลกน์เรียกกันไป และโกงกันฉิบหาย เอาที่ "สัจจะ-จริงใจ" ไม่เอาประโยชน์ชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัวไว้ก่อน

            ได้แค่นี้.........

            ดีกว่าประชาธิปตูด-ธิปไตยกินได้ ที่ชาวบ้านไม่ได้กิน พวกนักเลือกตั้งนั่นแหละกินกันเอง ดังประจักษ์ "ทั้งโลก" ทุกวันนี้

            ราคาส่งออก "ข้าวหอมมะลิ" ของไทย ณ ขณะนี้ ชาวนาจงรู้ไว้

            เฉลี่ยตันละ ๘๐๐ เหรียญสหรัฐฯ

            ๑ เหรียญสหรัฐฯ ตีซะว่า ๓๒ บาท ตันละ ๘๐๐ เหรียญ เอา ๓๒ X ๘๐๐ ก็เท่ากับว่า

            ข้าวหอมมะลิ "ส่งออก" วันนี้ ตันละ ๒๕,๖๐๐ บาท!

            ก็ดีใจแทนชาวนา ถ้าราคาข้าวเปลือกยืนระดับหมื่นขึ้นไปต่อเนื่องซัก ๔-๕ ปี พี่น้องชาวนาก็พอจะยิ้มได้

            ไม่ใช่เห็นราคาดี เฮละโลทำนากันเหมือนยางอีกล่ะ

            ยางที่ราคาดำดิ่งทุกวันนี้

            รู้กันตั้งแต่ตอน "ทักษิณ-เนวิน" ส่งเสริมปลูกทั้งประเทศโน่นแล้ว ว่าลงท้าย หายนะมันต้องเกิดแน่!

            แต่เรื่องข้าว อยากให้ส่งเสริม.....

            ไม่ใช่ส่งเสริม "ปูพรม" ปลูกข้าว แต่อยากให้รัฐบาลส่งเสริมระบบ "ชาวนาขายตรง" เหมือนปีที่แล้ว

            มันกำลังจะดี ที่ปัญหา "สอนให้คนคิด"

            คือสอนให้ชาวนา จากคิดเฉพาะปลูก แตกหน่อคิด มาทำการตลาด สร้างแบรนด์ สร้างระบบขาย

            และระบบเหล่านั้น ด้วยปริมาณและราคา จะแตกหน่อคิดไปต่อยอดเรื่อง "คุณภาพข้าว"!

            ทำให้ชาวนาได้ตระหนัก ข้าวปลอดสาร ข้าวผลิตวิถีธรรมชาติ ข้าวพันธุ์ดั้งเดิม รักษารากเหง้าเอาไว้

            ถึงได้น้อย ตลาดต้องการ ราคาหนัก คุ้มค่ากว่าทำข้าวเชิงปริมาณ ได้มาก แต่ราคาน้อย!

            ตอนต้นเดือน เห็น "อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี" เปิดโครงการชักชวนคน "กินข้าวใหม่-ปีใหม่" ส่งเสริมชาวนาอีกทาง

            ก็ลืมไปแล้ว ว่าวันไหน ไปเปิดกินข้าวใหม่กันที่ไหนบ้าง?

            พอดี เมื่อวาน (๒๔ ธ.ค.) อ่านข่าวเจอ.......

            "นายศิริ จิระพงษ์พันธ์" รมว.พลังงาน นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดฯ นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณฯ

            และนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานบริหารและผู้จัดการใหญ่ ปตท.

            ไปทำพิธีเปิดโครงการ "ปีใหม่ ข้าวใหม่...อิ่มท้อง อิ่มใจ ช่วยชาวนา" ที่ปั๊ม ปตท.หลักเมืองถาวรพาณิชย์ สุพรรณบุรี

            จำได้ว่า ปีที่แล้ว.......

            ๑ ในหลายสิบ-หลายร้อยองค์กร ที่เปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าว-นำสินค้าเกษตรไปขายได้เองฟรี นั้น มี ปตท.ด้วย

            ปีนี้ ชาวนาขายได้ราคาพอใจ ไม่มีใครกรอกถุงออกขายเอง ผมแอบเสียดาย ที่ "ระบบขายตรง" โดยชาวนาจะหายไป

            แต่เมื่อเห็น ปตท.สืบสาน-รักษาตลาด "ชาวนาขายตรง" ไว้ให้ต่อเนื่องก็ดีใจ

            ที่เปิดพื้นที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศกว่า ๑,๕๐๐ ปั๊ม ให้ชาวนานำข้าวเข้าไปวางขายได้

            และปีนี้ ยังซื้อข้าวจากกลุ่มเกษตรกรอีก ๑ ล้านกิโล ในราคากิโลละ ๓๕ บาท ทำเป็นข้าวถุงขนาด  ๕๐๐ กรัม

            มอบเป็น "ของขวัญปีใหม่" แก่ทุกคนที่เข้าไปใช้บริการในปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๑  มกราคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป!

            ทำดี ก็นับว่าดี.....

            แต่ที่ ปตท. "ทำดีต่อเนื่อง" โดยรักษาพื้นที่ตลาด "ข้าวขายเอง" ไว้ให้ชาวนาตลอดไปเช่นนี้ ต้องอนุโมทนาเลยเชียว

            ช่วยกันครับ .......

            ใครมีพื้นที่ เจียดให้เป็นพื้นที่ "ตลาดเกษตรกรขายเอง" มากๆ นอกจากช่วยขายแล้ว

          ยังช่วยชาวไร่-ชาวนา "ได้คิด" ต่อยอดจากผลิตเอง ไปสู่ขายเองด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"