'วรเจตน์' วอนไม่ควรหยิบ112โจมตี 'ปิยบุตร' เผยนิติราษฎร์เสมือนยุบไปแล้ว!


เพิ่มเพื่อน    

19 มี.ค. 61 - นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์  ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหนังสือ "ประวัติศาสตร์ความคิดนิติปรัชญา"  ที่ห้องจี๊ด เศรษฐบุตร(LT.1)คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เมื่อวานที่ผ่านมา ถึงกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มธ. และสมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ว่านายปิยบุตรเป็นลูกศิษย์ เสียดายที่ออกจากมหาวิทยาลัยไปทำงานการเมือง เสียดายความสามารถทางวิชาการ หากยังอยู่ในมหาวิทยาลัยจะทำงานวิชาการมาก เป็นคนตามความคิดตนได้ใกล้ชิด 

"ก่อนที่จะไปทำงานการเมืองได้มาคุยกับผม พร้อมบอกเหตุผล ทำให้เห็นว่าเขาต้องการอยากเห็นการเปลี่ยแปลงทางการเมืองให้ประชาชนมีโอกาสเลือกมากขึ้น ผมเคารพความคิดเขา ในแง่ความสัมพันธ์ คณะนิติราษฎร์ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมากในปี 2557 โดยเฉพาะการเสนอการลบล้างผลพวงรัฐประหาร และการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมถูกทำร้าย แม้เวลาผ่านไปหลายปี แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจ ที่เสนอให้ทำโดยเปิดเผยทางสาธารณะ มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน คนที่ตำหนิ จะเอาเป็นเอาตายกับผม  ไม่เคยรู้หรือว่า กฎหมายนี้เคยถูกแก้มาแล้ว แต่จะแก้อย่างไรเป็นเรื่องที่สังคมต้องมาพูดกัน มาพิจารณากัน"นายวรเจตน์ กล่าว

นายวรเจตน์ กล่าวต่อว่าเมื่อเรื่องนี้ถูกนำมาเป็นเครื่องมือมาทำลายทางการเมือง แต่มาทำให้สร้างสรรค์ขึ้นไม่ดีกว่าหรือ แม้ข้อเสนอตกไปก็เป็นไปตามกลไกลกฎหมาย ในปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลงการบังคับใช้ในเรื่องนี้ คือ คนที่สั่งคืออัยการสูงสุด แล้วทำไมไม่คง   ไม่อย่างเดิม แสดงว่าที่เสนอไปมีเหตุมีผลใช่หรือไม่ ซึ่งก็เหมือนกฎหมายทำแท้ง ที่มีทั้งผู้ที่ไม่มีปัญหาทางข้อกฎหมายเพราะไม่ได้ท้อง แต่บางคนมีปัญหากับข้อกฎหมาย ซึ่งมีข้อจำกัด มีปัญหา แต่พอพูดเรื่องนี้ มักถูกอ้างด้วยเรื่องหลักศีลธรรม ธรรมมะ ทั้งที่มิติการมองมีมากกว่านี้เยอะ 

"นิติราษฎร์ก็มีบทบาทต่อเนื่อง แต่ก็ได้รับผลกระทบ เว็บไซต์ถูกปิด เราเลยไม่ทำ เพราะเห็นว่าเสียพลังงานก็ปล่อยไป รวมทั้งตนมีคดี อาจทำให้บทบาทลดลงไป ไม่รู้อนาคตจะทำอะไรต่อไปอะไรหรือไม่ ตนก็ชราไปเรื่อยๆ ต้องให้คนอื่นมาทำต่อ นิติราษฎร์จึงเสมือนยุบตัวลงไป" สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าว

สมาชิกกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าวว่าการไปร่วมงานทางการเมืองของนายปิยบุตร คนหนุ่มต้องการผจญภัย เห็นการเปลี่ยนแปลง ส่วนตนไม่ต้องผจญภัยเพราะอยู่เฉยๆก็มีภัยมา อย่าเรียกพรรคอนาคตใหม่ว่าพรรคนิติราษฎร์ไม่ใช่ ตนไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่ความสัมพันธ์ครู อาจารย์ เพื่อน มันตัดไม่ได้ เวลาไปงานศพเจอนักการเมืองก็ยกมือไหว้ พูดคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนก็มีจุดยืนอยู่ ข้อเสนอที่นิติราษฎร์เสนอ ไม่เกี่ยวพันกับพรรคอนาคตใหม่ ถ้าเห็นว่าเป็นข้อเสนอดีนำมาทำ ก็ยินดี ไม่เฉพาะพรรคนี้แต่รวมถึงพรรคการเมืองอื่นด้วย 

"เรื่อง112 ไม่ควรมาโจมตีปิยบุตร หากเห็นว่าไม่ถูกต้องก็ชี้มาที่ผมหรือนิติราษฎร์ก็ได้ ปิยบุตร ขาดจากนิติราษฎร์ไปแล้วเพราะไปทำงานการเมือง แต่นิติราษฎร์คือทางวิชาการ แต่ละคนยืนคนละบทบาทแล้ว สื่อทำอะไรบางอย่าง ไม่ควรมโน ไม่เคารพต่อคนอ่าน ไม่มืออาชีพ แม้ผมเสียดายปิยบุตรแต่ก็เคารพเขา เมื่อเข้าสู่การเมืองจะเจออีกหลายอย่างที่ไม่เคยเจอในชีวิต โดยเฉพาะการเมืองไทย สังคมไทยไปต่อไม่ได้ ถ้าไม่ปรับกติกา ไม่ขจัดสิ่งที่คลางแคลงใจคนจำนวนมาก เช่นเรื่อง2มาตรฐานก็ไปต่อไม่ได้"นายวรเจตน์ กล่าวและว่าอย่างไรก็ดี นายปิยะบุตร อีกแง่ก็ต้องชมเชยเป็นเล่นการเมือง ในฐานะนักการเมือง ไม่ใช่ใช้เสื้อคลุมในคราบนักวิชาการ ซึ่งไม่ควรเป็นแบบนั้น เพราะสถานะต่างกัน  

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนมีรัฐบาลใหม่มาตรา 44 แสดงอิทธิฤทธิ์ได้หรือไม่ นายวรเจตน์กล่าวว่า แสดงได้ แต่ไม่ได้อยู่ที่ตัวหนังสืออย่างเดียว ยังอยู่ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆอีกด้วย การใช้ตอนมีรัฐธรรมนูญชั่วคราวกับขณะนี้ ต่างกันเยอะ ตอนนี้อยู่ที่บริบทการเมือง ซึ่งคนจะใช้อำนาจก็ต้องคิดเยอะ ควรใช้หรือไม่ แล้วศาลจะเห็นอย่างไร

เมื่อถามว่ามาตรา 44 ยกเลิกการเลือกตั้งได้หรือไม่นายวรเจน์ตอบว่า ถ้าพูดตามหลักกฎหมาย คือใช้ได้ เพราะอำนาจมีไปถึงก่อนมีรัฐบาลใหม่ เราสมมุติได้หมด แต่อาจไม่เกิดในโลกความเป็นจริง สมมุติมีการเลือกตั้งแล้ว แต่มาใช้หลังเลือกตั้ง แล้วองค์กรศาลจะรับได้หรือไม่ โอกาสที่ถูกตีความก็อาจถูกตีความว่าใช้ไม่ได้ องค์กรที่ตีความ มีสิทธิตีความลดทอนลง ตนไม่ใช่องค์กรที่บังคับใช้กฎหมาย ถ้าถึงจุดไม่ยอมรับอาจกระทบไปถึงเรื่องอื่นก็ได้ที่เราไม่รู้ แม้มีอำนาจแต่ไม่ได้ใช้ง่ายๆ เขาก็คงคิดจะใช้และใช้เพื่ออะไร อธิบายได้หรือไม่ โดยบริบทที่มีรัฐธรรมนูญ  2560แล้ว อยู่ที่บริบท การที่อัยการไม่ฟ้องจากการชุมนุม ก็พอบ่งฟ้องอะไรบางอย่างแล้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"