ผลงานเศรษฐกิจ’บิ๊กตู่’สุดบู่ 46% มองด้านลบ


เพิ่มเพื่อน    

22 เม.ย.2561 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือไม่ ใน 3 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561?”  โดยสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 1,250 หน่วยตัวอย่าง ซึ่งเมื่อถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – มีนาคม 2561) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 45.92% ระบุว่า เศรษฐกิจแย่ลง รองลงมา 37.52% ระบุว่า เท่าเดิม 16.24% ระบุว่า เศรษฐกิจดีขึ้น และ 0.32% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายหรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละด้านที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังดำเนินอยู่ พบว่า ด้านเพิ่มรายได้ ประชาชนส่วนใหญ่ 52.08% ระบุว่า เท่าเดิม รองลงมา 25.28% ระบุว่าแย่ลง  21.76% ระบุว่า ดีขึ้น และ 0.88% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านลดค่าครองชีพ (ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 47.76% ระบุว่า เท่าเดิม รองลงมา 33.76% ระบุว่าแย่ลง 18.08% ระบุว่าดีขึ้น และ 0.40% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านลดภาระหนี้สิน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 62.32% ระบุว่าเท่าเดิม รองลงมา 25.92%ระบุว่าแย่ลง 10.08% ระบุว่าดีขึ้น และ 1.68% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ   ด้านเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน (ซื้อง่ายขายคล่อง) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 44.80% ระบุว่าเท่าเดิม รองลงมา 39.84% ระบุว่าแย่ลง 14.72% ระบุว่าดีขึ้น และ 0.64% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (เช่น ที่อยู่อาศัย  ระบบคมนาคม การสื่อสารหรือโทรคมนาคม ระบบไฟฟ้าและประปา) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 47.60% ระบุว่าเท่าเดิม รองลงมา 37.52% ระบุว่าดีขึ้น 14.16% ระบุว่าแย่ลง และ 0.72% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

สำหรับระดับความสุขจากนโยบายหรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปัจจุบัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 57.92% ระบุว่ามีความสุขเท่าเดิม เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อก่อน เศรษฐกิจเหมือนเดิม ไม่ได้แย่ลงและก็ไม่ได้ดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่านโยบายหรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อประชาชน รองลงมา 21.12% ระบุว่า มีความสุขลดลง เพราะ สภาวะเศรษฐกิจ แย่ลง ไม่มีอะไรดีขึ้น มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินเพิ่มขึ้น แต่รายได้ลดลง ขณะที่บางส่วนระบุว่าไม่เคยได้รับประโยชน์จากนโยบายหรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เลย และ 20.96% ระบุว่า มีความสุขเพิ่มขึ้นเพราะ สภาพทางการเงินดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น การคมนาคมต่าง ๆ ดีขึ้น เศรษฐกิจค่อนข้างดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น และมีความชื่นชอบนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อนโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – มีนาคม 2561) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 49.44% ระบุว่าไม่เชื่อมั่น เพราะนโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ได้ช่วยประชาชนทุกระดับอย่างแท้จริง เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และรัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ขณะที่บางส่วนระบุว่าเป็นโครงการที่ไม่ต่อเนื่อง  และเป็นโครงการระยะสั้น รองลงมา 42.24% ระบุว่า เชื่อมั่น เพราะ นโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือ เป็นโครงการที่ดี ทำให้หลาย ๆ อย่างดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่า มีผู้นำที่ดีและมีความเข้มแข็ง และ 8.32% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคาดหวังต่อเศรษฐกิจไทย หลังจากที่มีการเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 58.96% ระบุว่าคาดว่าจะดีขึ้น เพราะต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจากมีความมั่นใจต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดใหม่น่าจะมีแนวทางใหม่ๆ ในการบริหารประเทศได้ดีกว่านี้ รองลงมา 16.88% ระบุว่าเหมือนเดิม เพราะ ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่แก้ยาก ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา และต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ อย่างร่วมด้วยจึงจะดีขึ้นไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว ขณะที่บางส่วนระบุว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็เหมือนเดิม 5.92% ระบุว่า คาดว่าจะแย่ลง เพราะ เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และจะไม่มีความต่อเนื่องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และ 18.24% ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ     
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"