จอห์น ลี ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำคนต่อไปของฮ่องกงตามคาด

จอห์น ลี อดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงที่มีบทบาทในการปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ได้รับการตัดเลือกให้เป็นผู้นำคนใหม่ของฮ่องกง

จอห์น ลี (ซ้าย) และ เจเน็ท ผู้เป็นภรรยา (ขวา) เฉลิมฉลองหลังจากที่ จอห์น ลี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำคนใหม่ของฮ่องกง โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลจีน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม (Photo by Peter PARKS / AFP)

เอเอฟพีรายงานจากฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2565 กล่าวว่า การคัดเลือกผู้นำฮ่องกงคนต่อโดยคณะกรรมการจากจีนแผ่นดินใหญ่ เสร็จสิ้นลงแล้วในวันอาทิตย์ ด้วยชัยชนะแบเบอร์ของ จอห์น ลี อดีตผู้นำเบอร์ 2 และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกง

จอห์น ลี วัย 64 ปี เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเพียงคนเดียวในการรับคัดเลือกเพื่อสืบทอดตำแหน่งผู้นำคนใหม่แทน แคร์รี แลม ที่กำลังจะหมดวาระในเดือนมิถุนายน

ลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงที่โดนคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ เนื่องจากบทบาทในการปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีภาระอันหนักอึ้งต่อจากนี้ในการนำพาฮ่องกงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังต้องเผชิญผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองและการควบคุมโรคระบาดที่เลวร้ายกว่า 2 ปี

แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับย่อของฮ่องกงจะระบุไว้ว่า การคัดเลือกผู้นำสูงสุดจะเป็นการลงคะแนนเสียงแบบสากล แต่ฮ่องกงก็ไม่เคยเป็นประชาธิปไตยจริงๆตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นที่มาของความคับข้องใจและการประท้วงของสาธารณชนมานานหลายปี นับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบคืนให้กับจีนในปี 2540

ผู้นำคนใหม่ได้รับเลือกจาก "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มบุคคล (ชั้นสูงและได้รับการยอมรับจากจีนแผ่นดินใหญ่) 1,461 คน หรือคิดเป็นประมาณ 0.02% ของประชากรทั้งหมดในฮ่องกง

หลังทำการลงคะแนนลับในช่วงสั้นๆ เมื่อวันอาทิตย์ ผลคะแนนปรากฎว่า กว่า 99% (1,416 คน) ลงคะแนนให้ลีได้รับการคัดเลือก ขณะที่อีก 8 คนไม่เห็นชอบในการลงคะแนนให้ลี

รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ออกมายกย่องผลลงคะแนนที่เกือบเป็นเอกฉันท์ครั้งนี้ว่า "ฮ่องกงได้ผู้นำคนใหม่ที่ได้รับการยอมรับและเห็นชอบในระดับสูง"

ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนกำลังหล่อหลอมฮ่องกงในแบบเผด็จการของตนเอง โดยรัฐบาลจีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงเพื่อขจัดความขัดแย้ง หลังเกิดการประท้วงเรื่องประชาธิปไตยครั้งใหญ่และมีการใช้ความรุนแรงเมื่อสามปีก่อน และเปิดตัวระบบการตรวจสอบทางการเมือง "เฉพาะผู้รักชาติเท่านั้น" เพื่อรับประกันว่าใครก็ตามที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำของฮ่องกง จะต้องเป็นผู้ภักดีต่อจีนแผ่นดินใหญ่อย่างแท้จริง

ฮ่องกงยังคงต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการควบคุมโรคระบาดที่เข้มงวดกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเมืองแห่งศูนย์กลางทางธุรกิจเสียหาย และทำให้ประชาชนและภาคธุรกิจต่างๆ ต้องถูกตัดขาดจากนานาชาติ ทั้งๆที่หลายประเทศคู่แข่งทางเศรษฐกิจทยอยเปิดประเทศกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

จอห์น ลี จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นวันครบรอบ 25 ปีที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้แก่จีน ซึ่งจีนตกลงเห็นพ้องให้ฮ่องกงสามารถรักษาเสรีภาพและเอกราชบางประการไว้ได้เป็นเวลา 50 ปี ภายใต้สูตรการปกครองของแบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ".