ฮามาสขู่สังหารตัวประกัน ขณะที่อิสราเอลตรึงกำลังปิดล้อมฉนวนกาซาได้แล้ว

กลุ่มฮามาสซึ่งจับผู้คนประมาณ 150 คนไปเป็นตัวประกันในการโจมตีอิสราเอลตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ ขู่ว่าจะสังหารตัวประกัน หากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลยังคงปูพรมใส่ชาวกาซาโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

ชายชาวปาเลสไตน์ช่วยเหลือเด็ก ท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่ถูกทำลายโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ในเมืองกาซา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม (Photo by Eyad AL-BABA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566 กล่าวว่า กลุ่มฮามาสซึ่งจับตัวประกันได้ประมาณ 150 คนนับตั้งแต่การบุกรุกภาคพื้นดินและในจำนวนนี้เป็นเด็ก, คนชรา และคนหนุ่มสาวจากงานเทศกาลดนตรีแห่งหนึ่งในอิสราเอลซึ่งมีผู้เสียชีวิตราว 270 ราย ประกาศกร้าวว่าจะสังหารตัวประกันเป็นการตอบโต้ หากอิสราเอลไม่หยุดโจมตีทางอากาศใส่ชาวกาซาโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า

ขณะที่อิสราเอลสามารถปิดล้อมฉนวนกาซาได้เกือบทั้งหมดในวันจันทร์ พร้อมตัดช่องทางเสบียงอาหาร, น้ำ และไฟฟ้า ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมจะเลวร้ายยิ่งขึ้นในพื้นที่ปิดล้อมซึ่งมีประชากร 2.3 ล้านคน

สหประชาชาติแสดงความกังวลกับประเด็นปิดล้อมดังกล่าว และเตือนว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายอยู่แล้ว จะเลวร้ายลงไปอีก พร้อมเตือนว่าการปิดล้อมที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพลเรือนโดยการลิดรอนสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดของคนเหล่านั้น ถือเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

900 ราย คือตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดในอิสราเอล และจากการตอบโต้ด้วยการโจมตีฉนวนกาซาอย่างดุเดือด ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาเพิ่มเป็น 687 ราย

ขณะที่กลุ่มฮามาสซึ่งกองทัพอิสราเอลประเมินว่าได้ส่งนักรบประมาณ 1,000 คนบุกข้ามชายแดนมาคร่าชีวิตพลเรือน กล่าวในแถลงการณ์ว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้คร่าชีวิตตัวประกันไปแล้ว 4 ราย พร้อมย้ำเตือนเชิงข่มขู่ว่า "การกำหนดเป้าหมายโจมตีต่อประชาชนของเราโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า อิสราเอลต้องเผชิญกับการสูญเสียชีวิตตัวประกันพลเรือน 1 คนเป็นการตอบโต้"

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เปรียบพฤติการณ์ป่าเถื่อนของกลุ่มฮามาสเทียบเท่ากับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอซิส) และกล่าวว่าอิสราเอลวางแผนโจมตีกลุ่มฮามาสครั้งใหญ่ ด้วยสรรพกำลังทั้งหมดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังให้คำมั่นที่จะเสริมกำลังแนวรบอื่นๆ ทางตอนเหนือเพื่อต่อสู้กับกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนเช่นเดียวกัน

อิสราเอลเสริมทหารกองหนุนจำนวน 300,000 นายเข้าร่วมปฏิบัติการขับไล่นักรบฮามาสออกจากพื้นที่ชายแดนให้ได้ และล่าสุดสามารถสังหารนักรบฮามาสได้แล้ว 1,500 รายในเมืองทางตอนใต้และชายแดนรอบฉนวนกาซาซึ่งกองทัพยึดคืนได้จากการสู้รบอันทรหดใกล้ดินแดนปาเลสไตน์

ชาวปาเลสไตน์เตรียมพร้อมสำหรับการถูกโจมตีภาคพื้นดินครั้งใหญ่ของอิสราเอลที่มีเป้าหมายเพื่อเอาชนะกลุ่มฮามาสและปลดปล่อยตัวประกัน ซึ่งฮามาสยังคงยืนหยัดจะสู้รบต่อไป และปฏิเสธการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกัน

ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันซึ่งเคลื่อนย้ายเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดและเรือรบอื่นๆ ของตนเข้าใกล้อิสราเอลมากขึ้นเพื่อแสดงการสนับสนุน ระบุว่า สหรัฐอเมริกาไม่มีแผนที่จะร่วมแทรกแซงในความขัดแย้งนี้ แต่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายฝ่ายในความพยายามช่วยเหลือตัวประกัน

สหรัฐฯ ยังรายงานอีกว่าพลเมืองของตนเสียชีวิต 11 รายและสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง และเน้นย้ำว่าจะสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และอิตาลี

นอกจากมหาอำนาจตะวันตกทั้งห้า ประเทศอื่นๆ ก็รายงานว่ามีพลเมืองถูกสังหาร, ลักพาตัว หรือสูญหาย ทั้งบราซิล, กัมพูชา, แคนาดา,ไอร์แลนด์, เม็กซิโก, เนปาล, ปานามา, ปารากวัย, รัสเซีย, ไทย และยูเครน

ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศของสมาชิกสหภาพยุโรปซึ่งจะจัดการเจรจาฉุกเฉินในวันอังคาร ได้ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอลและปาเลสไตน์เข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อหาทางออกของวิกฤตการสู้รบที่มีแนวโน้มบานปลาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาตรการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรปที่จะเริ่มบังคับใช้เดือนหน้าอาจทำให้อุตสาหกรรมเหล็กของไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันได้ในเร็ว ๆ นี้

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 สหภาพยุโรปจะเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าภายใต้มาตรการปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน (CBAM) ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้า ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระบวนการผลิตของสินค้า[ EU [Source]] โดยในระยะแรกคาดว่า CBAM จะส่งผลกระทบต่อ 3.8% ของสินค้าส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรปในปี 2569 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท

เนทันยาฮู ขออภัยโทษคดีคอร์รัปชันของตนเองอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งถูกตั้งข้อหาคอร์รัปชัน ได้ยื่นคำร้องขออภัยโทษอย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีไอแซค แฮร์ซอกของอิสราเอล

อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ร่วมหารือแผนสันติภาพกาซาระยะที่ 2

ผู้ไกล่เกลี่ยในตะวันออกกลางอย่าง อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ได้พบปะกันที่กรุงไคโรเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาระยะที่สองของสหรัฐฯ การประชุมมีหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอียิปต์และตุรเกียเข้าร่วมด้วย ตามรายงานของสถานีข่าวอัล-คาเฮรา นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อัลดุลเราะห์มาน อัล-ธานี แห่งกาตาร์ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน