กัมพูชาจำคุกชายไต้หวัน 2 คน ฐานแกล้งว่าถูกลักพาตัว

ชายไต้หวัน 2 คนถูกตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี หลังทำคอนเทนต์ออนไลน์ในสีหนุวิลล์ และเผยแพร่เหตุการณ์ที่เสมือนว่าตนเองถูกลักพาตัว

Chen Neng-Chuan (ที่ 3 จากขวา) และ Lu Tsu-hsin (ที่ 2 จากขวา) ยืนอยู่กับตำรวจกัมพูชาในระหว่างการแถลงข่าวที่จังหวัดพระสีหนุ หลังถูกจับในข้อหาเผยแพร่เนื้อหาวิดีโอเกี่ยวกับการลักพาตัวปลอม เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ (Photo by Handout / Preah Sihanouk Provincial Administration / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 กล่าวว่า อินฟลูเอนเซอร์ชายชาวไต้หวัน 2 คน ได้แก่ Chen Neng-Chuan อายุ 31 ปี และ Lu Tsu-hsin อายุ 34 ปี ถูกจับกุมหลังจากพวกเขาโพสต์วิดีโอบนเฟซบุ้กที่อ้างว่าตนเองถูกควบคุมตัวและถูกทุบตีโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อาคารแห่งหนึ่งในสีหนุวิลล์ของกัมพูชาเมื่อต้นสัปดาห์

ศาลจังหวัดพระสีหนุระบุในคำแถลง กล่าวว่า "ชายชาวต่างชาติสองคนข้ามาในกัมพูชาเพื่อผลิตวิดีโอที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทด้านการค้ามนุษย์, การคุมขังด้วยการทรมาน, การข่มขืนใจ และการค้าอวัยวะมนุษย์"

ศาลวินิจฉัยว่า พวกเขามีความผิดในข้อหายุยงให้เกิดความวุ่นวายต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ในการพิจารณาคดีเมื่อวันพฤหัสบดี

ชาวไต้หวันทั้งสองถูกตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี และสั่งปรับรวมกันประมาณ 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 72,000 บาท)

หน่วยปกครองประจำจังหวัดกล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ผลิตวิดีโอที่มีเนื้อหาปลอมซึ่งส่งผลต่อเกียรติ, ความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงในพื้นที่

ที่ผ่านมามักมีรายงานข่าวในวงกว้างเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชา โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกล่อลวงมากระทำอาชญากรรมมักเป็นชาวจีนและไต้หวัน รวมทั้งประเทศอื่นๆประปราย เพื่อให้มาทำงานด้านการหลอกเอาเงินเหยื่อผ่านกิจกรรมออนไลน์

สำนักข่าวกลางไต้หวันอธิบายเรื่องราวซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการจับกุมว่า ชายคนหนึ่งถ่ายทอดสดวิดีโอเมื่อคืนวันจันทร์ โดยอ้างว่าตัวเองได้บุกเข้าไปในเมืองร้างสีหนุวิลล์ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการล่อลวงคนมาทำอาชญากรรมออนไลน์

ในวิดีโอดังกล่าว ดูเหมือนว่าเขาถูกไล่ล่าและทุบตีโดยบุคคลที่ไม่เปิดเผยตัว ในขณะที่วิดีโอถัดมาตัวเขาอ้างว่าบุคคลนั้นหลบหนีไปแล้ว

จากนั้น มีวีดีโอต่อเนื่องที่เขาแสดงอาการบาดเจ็บและอธิบายว่าถูกปล้น, ถูกพันธนาการ, ถูกทุบตี และถูกทำร้ายร่างกายด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ในการเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก จนท้ายที่สุดมีการพิสูจน์ว่าเรื่องราวดังกล่าวเป็นเพียงการสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาเท่านั้น

ปีที่แล้ว องค์การสหประชาชาติระบุในรายงานว่าผู้คนหลายแสนคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังถูกแก๊งอาชญากรขู่เข็ญและทำร้ายให้ดำเนินการหลอกลวงทางออนไลน์

หลายคนเต็มใจที่จะเข้าสู่วงจรเหล่านั้น แต่หลายคนตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์และเผชิญกับการละเมิดร้ายแรง เช่น การทรมาน หรือความรุนแรงทางเพศ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีอี เตือนภัย 'มิจฉาชีพ' ลวงทำ 'ใบขับขี่ออนไลน์' ระวังสูญเงิน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “กรมการขนส่งทางบก เปิดรับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ DLT License ใบขับขี่เร่งด่วน” รองลงมาคือเรื่อง “ก.ล.ต. เปิดแพลตฟอร์มลงทุนใหม่ ให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร”

ยกมติรัฐสภาโลก เตือนรัฐบาล ลูบหน้าปะจมูก นานาชาติจะมองไทยเป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เมื่อผู้แทนจากรัฐสภาจากทั่วโลกมากถึง 2 ใน 3 ให้ความสนใจร่วมกันในการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ

รัฐบาลเร่งปราบโกงออนไลน์! ผู้หญิงวัยทำงานตกเป็นเหยื่อพุ่ง

พบคดีหลอกลวงออนไลน์พุ่งไม่หยุด รัฐบาลใช้กฎหมาย DPS คุมเข้มแพลตฟอร์ม ฝ่าฝืนเจอโทษ เตือนประชาชนตรวจสอบก่อนทำธุรกรรมออนไลน์