เซเลนสกีขอโอกาส ภายหลังทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือยูเครน

โวโลดีมีร์ เซเลนสกียืนยันว่ายังต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องและร่วมมือภายใต้ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กำลังกล่าวปราศรัยต่อประชาชนผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในกรุงเคียฟ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม (Photo by Handout / UKRAINIAN PRESIDENTIAL PRESS SERVICE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าแสดงจุดยืนในสงครามยูเครน ด้วยการระงับความช่วยเหลือทางทหารที่เคยสนับสนุนรัฐบาลเคียฟของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ภายหลังความขัดแย้งเรื่องข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย

ในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะครั้งแรกนับตั้งแต่ทรัมป์ระงับความช่วยเหลือดังกล่าวต่อยูเครน เซเลนสกีกล่าวว่าการทะเลาะวิวาทต่อสาธารณะของเขากับทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นเรื่องน่าเสียดาย และให้คำมั่นว่าจะลงนามข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญกับสหรัฐฯอย่างที่เคยดีลไว้

เขายังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทั้งทางทะเลและทางอากาศเพื่อเป็นก้าวแรกในการยุติสงครามสามปีกับรัสเซีย

การล่มสลายอย่างน่าตกตะลึงของพันธมิตรสงคราม 'เคียฟ-วอชิงตัน' ได้เกิดขึ้นอย่างเปิดเผยตั้งแต่ข้อพิพาททางโทรทัศน์ระหว่างเซเลนสกีและทรัมป์ที่ห้องทำงานรูปไข่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นการระงับความช่วยเหลือทางทหารอย่างกระทันหัน

"ทีมของผมและตัวผมพร้อมที่จะทำงานภายใต้การนำอันแข็งแกร่งของประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืน" เซเลนสกีกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย และเสริมว่า "การประชุมของเราในกรุงวอชิงตันที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ไม่ได้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง"

ในคำปราศรัยตอนเย็นตามปกติของเซเลนสกี เขาบอกกับชาวยูเครนว่า เขาได้สั่งให้หัวหน้าฝ่ายกลาโหมและหน่วยข่าวกรองของเขาติดต่อกับพันธมิตรในสหรัฐฯ เพื่อรับข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการระงับความช่วยเหลือ

การตัดสินใจอย่างกระทันหันของทรัมป์เมื่อวันจันทร์ในการหยุดให้ความช่วยเหลือยูเครนทำให้รัฐบาลเคียฟและยุโรปหลายชาติเกรงว่าอเมริกาจะหันเหออกจากพันธมิตรและหันไปหารัสเซียแทน

ภายหลังคำสั่งดังกล่าว รัฐบาลมอสโกยกย่องการตัดสินใจของทรัมป์ โดยชี้ว่าเป็นทางออกที่อาจผลักดันให้ระบอบเคียฟเข้าสู่กระบวนการสันติภาพได้

สหภาพยุโรป ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย กำลังดิ้นรนเพื่อเสริมการสนับสนุนเซเลนสกีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยุโรปยังคงหวั่นเกรงอนาคตของความร่วมมือด้านการป้องกันกับสหรัฐฯ ที่อาจพังครืนตามยูเครน เพราะจุดยืนนั้นต่างกันทั้งในเรื่องการยุติสงครามและสมาชิกภาพนาโตที่ยูเครนต้องการ

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เสนอแผนการระดมเงินราว 800,000 ล้านยูโร สำหรับการป้องกันของยุโรป

ขณะเดียวกัน ฟรีดริช เมิร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนต่อไปกล่าวว่า เขาจะสนับสนุนการอนุมัติแพ็คเกจช่วยเหลือยูเครนมูลค่า 3,000 ล้านยูโรทันทีเป็นวาระเร่งด่วน หลังจากแพ็คเกจถูกระงับไว้ในกระบวนการรัฐสภา

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปจะจัดการประชุมสุดยอดฉุกเฉินในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อเสริมสร้างการสนับสนุนร่วมกันของยุโรปต่อยูเครน

โปแลนด์ตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจของอเมริกาเกิดขึ้นโดยไม่ได้ปรึกษากับพันธมิตรนาโต และผลกระทบดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วที่ศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์อาวุธและความช่วยเหลือสำหรับยูเครนที่โปแลนด์เป็นเจ้าภาพ

"รายงานที่เข้ามาจากชายแดนและจากศูนย์กลางของเรา ยืนยันการประกาศของฝ่ายสหรัฐ" นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์กล่าว

นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู ของฝรั่งเศสกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาในกรุงปารีสว่า "รถไฟทั้งขบวนที่บรรทุกเสบียงของสหรัฐสำหรับยูเครน ถูกหยุดและป้องกันไม่ให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง"

นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า การหยุดชะงักของสหรัฐส่งผลกระทบต่ออาวุธมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ในกระบวนการส่งไปยังยูเครน

สัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีเดินทางไปวอชิงตันเพื่อลงนามข้อตกลงแร่ธาตุมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ แต่ข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวหลังจากที่เขาเผชิญหน้ากับทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์

เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลของเขาพร้อมที่จะลงนามข้อตกลงที่ให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติและแร่ธาตุของยูเครนได้อย่างเป็นสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใดหรือในรูปแบบใดก็ได้ตามที่สะดวก

ยูเครนยังแสวงหาการรับประกันความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย แต่เนื่องจากสหรัฐคัดค้านการเข้าร่วมนาโต รัฐบาลเคียฟจึงหันไปใช้มาตรการอื่นที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกแทน.

เพิ่มเพื่อน