ชาวสิงคโปร์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งซึ่งนายกรัฐมนตรี ลอว์เรนซ์ หว่องเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่ครั้งแรกของเขาต่อฝ่ายค้านที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของประเทศ

ผู้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งทั่วไปที่หน่วยเลือกตั้งในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม (Photo by Roslan RAHMAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า สิงคโปร์จัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแห่งการค้าแห่งนี้ที่เผชิญกับความยากลำบากในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปั่นป่วนจากนโยบายของสหรัฐฯ
พรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ของลอว์เรนซ์ หว่องซึ่งมุ่งมั่นสานต่ออำนาจในการนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองในขณะที่ต้องใช้มือที่แข็งกร้าวในการปราบปรามผู้เห็นต่าง ได้รับการคาดหมายว่าจะรักษาเสียงข้างมากในรัฐสภาได้อย่างง่ายดาย
หว่องซึ่งสวมชุดสีขาวทั้งชุด เดินทางมาถึงศูนย์ลงคะแนนเสียงในเวลาประมาณเที่ยงวัน โดยมีภรรยาของเขาตามมาด้วย
หลังจากลงคะแนนเสียงแล้ว เขาก็ออกไปโดยไม่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
หว่องซึ่งได้รับความนิยมหลังรับบทบาทเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการโควิดของสิงคโปร์ เข้ารับตำแหน่งต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงเมื่อปีที่แล้ว
หว่องกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาต้องการอำนาจที่เข้มแข็งเพื่อนำสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการค้าอย่างหนัก เอาชนะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากนโยบายภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เรียกเก็บ
เขาเตือนว่าสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากทรัมป์เดินหน้าใช้ภาษีที่เขาประกาศไปแล้ว และจำเป็นต้องเปิดกว้างและแข่งขันเพื่อรับมือกับผลกระทบดังกล่าว
"ดังนั้น ผมจึงบอกกับชาวสิงคโปร์ทุกคนว่า โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ นี่ไม่ใช่การพนัน นี่คือครอบครัวของคุณ อนาคตของคุณ สิงคโปร์ของเรา" เขากล่าวระหว่างหาเสียง
นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า พรรคกิจประชาชนถือเป็นสถาบันที่มั่นคงของสิงคโปร์ในการรับมือกับวิกฤตมาช้านาน แต่ความวุ่นวายเรื่องภาษีศุลกากรเมื่อเร็วๆ นี้อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในตอนนี้
"เนื่องจากการเลือกตั้งทั่วไปในสิงคโปร์มักมุ่งเน้นไปที่ประเด็นในท้องถิ่น จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่ภูมิรัฐศาสตร์จะกำหนดการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เว้นแต่ชาวสิงคโปร์จะรู้สึกถึงผลกระทบโดยตรงและเป็นรูปธรรมต่อค่าครองชีพ, ความมั่นคงในการทำงาน หรือเศรษฐกิจโดยรวม" นักวิเคราะห์กล่าวกับเอเอฟพี
เสียงข้างมากของพรรคกิจประชาชนในสภานิติบัญญัติสภาเดียวของสิงคโปร์ถือเป็นบรรทัดฐานในภูมิทัศน์ทางการเมืองของเกาะที่ร่ำรวยแห่งนี้ จนฝ่ายค้านและผู้สนับสนุนจะถือว่าการได้ที่นั่งเพิ่มอีกไม่กี่ที่นั่งถือเป็นชัยชนะที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของพรรคกิจประชาชนกำลังถูกท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีเสียงดังขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งอายุน้อยซึ่งดูเหมือนจะเปิดรับทางเลือกการเมืองใหม่ๆ
ในปี 2020 กลุ่มฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่างพรรคแรงงาน ได้ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ โดยชนะ 10 ที่นั่งจากทั้งหมด 93 ที่นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4 ที่นั่งก่อนหน้านี้
พรรคแรงงานซึ่งมีแนวโน้มทางการเมืองดีขึ้น หวังว่าจะสร้างโมเมนตัมนั้นต่อไปด้วยรายชื่อผู้สมัครที่มีเสน่ห์หลายคน รวมถึงทนายความชั้นนำ
พรรคฯได้ดึงดูดฝูงชนจำนวนมากในการชุมนุมระหว่างการหาเสียง เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ แต่จำนวนที่มากขนาดนั้นแทบจะไม่เคยส่งผลให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งในอดีตเลย
ผู้สมัครพรรคแรงงานวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ขึ้นภาษีสินค้าและบริการท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และยืนกรานว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรมากพอที่จะควบคุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในประเทศ
พวกเขายังกล่าวอีกว่าจำเป็นต้องมีสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านเพิ่มขึ้น เพื่อที่พรรคกิจประชาชนจะได้ไม่ทำอะไรตามใจโดยไม่รับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม พรรคกิจประชาชนชี้ให้เห็นถึงเงินหลายพันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ที่ใช้จ่ายไปกับการช่วยเหลือประชาชนเพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมถึงการแจกเงินสดและคูปองซื้อสินค้า
สิงคโปร์มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 2.75 ล้านคน ซึ่งจะเลือกสมาชิกรัฐสภา 97 คน
เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งแจ้งต่อสื่อท้องถิ่นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 50% ได้ออกมาใช้สิทธิเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ก่อนเที่ยงวัน
ทั้งนี้ คูหาเลือกตั้งเปิดทำการเวลา 08.00 น. และปิดทำการในเวลา 20.00 น.โดยคาดว่าจะประกาศผลบางส่วนได้ในเวลาประมาณเที่ยงคืน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
7 พ.ย.'นายกฯ หนู' เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ
นายกฯ อนุทิน เตรียมเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ 7 พ.ย. นี้ ฉลอง 60 ปีมิตรภาพ จ่อลงนามความร่วมมือ 2 ฉบับด้านเศรษฐกิจ-สาธารณสุข
‘สหฟาร์ม-คอบบ์’ ลงนามดีลยุทธศาสตร์ เสริมแกร่งส่งออกไก่ไทย ฝ่าความท้าทายการค้าโลก
ความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับคอบบ์ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทย ไม่เพียงแต่ด้านพันธุกรรมสัตว์ แต่ยังรวมถึงระบบการจัดการฟาร์ม เทคโนโลยีการเลี้ยงที่ทันสมัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของตลาดโลก
'นายกฯสิงคโปร์' โทรยินดี 'อนุทิน' ย้ำสองประเทศเดินหน้าความร่วมมือ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลอว์เรนซ์ หว่อง ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดี


