พรรครัฐบาลสิงคโปร์ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอบชัยชนะอย่างถล่มทลายให้กับพรรครัฐบาลสิงคโปร์ที่ครองอำนาจมายาวนาน ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง มีอำนาจชัดเจนในการนำพาประเทศฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจโลก

ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์จากพรรคกิจประชาชน (Photo by Roslan RAHMAN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า พรรคกิจประชาชน (พีเอพี) ของลอว์เรนซ์ หว่อง ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายและทำให้ตัวเขาลบคำสบประมาทในฐานะผู้นำหน้าใหม่ พร้อมนำพาประเทศและประชาชนเดินหน้าฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจโลก

หลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น พรรคกิจประชาชนคว้าที่นั่งไปได้ 87 ที่นั่งจากทั้งหมด 97 ที่นั่งในสภานิติบัญญัติ โดยได้คะแนนเสียงรวม 65.57% จากผู้ลงคะแนนเสียงทั้งหมดกว่า 2.4 ล้านคน

"ชาวสิงคโปร์มอบอำนาจที่เข้มแข็งให้พรรคกิจประชาชนในการบริหารประเทศ"

"ผลการเลือกตั้งจะทำให้สิงคโปร์อยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้นในการเผชิญกับโลกที่ปั่นป่วนวุ่นวายนี้" หว่องกล่าวในการแถลงข่าวไม่กี่ชั่วโมงหลังจากประกาศผลอย่างเป็นทางการ พร้อมเสริมว่าผลการเลือกตั้งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของความไว้วางใจ, ความมั่นคง และความเชื่อมั่นในรัฐบาล

หว่องเผชิญการทดสอบสนามใหญ่เป็นครั้งแรกกับฝ่ายค้านที่กระแสนิยมกำลังฟื้นตัว และเรียกร้องให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแสดงการสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เกิดจากนโยบายภาษีศุลกากรที่เข้มงวดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แม้พรรคกิจประชาชนซึ่งนำพาประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดหลายทศวรรษที่อยู่ในอำนาจ มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าปราบปรามผู้เห็นต่าง แต่ก็ยังรักษาเสียงข้างมากที่ชัดเจนในสภานิติบัญญัติได้อย่างง่ายดายมาตลอด

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความโดดเด่นของพรรคฯถูกท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ แต่การลงคะแนนเสียงครั้งนี้ทำให้ความนิยมของพรรคฯกลับมาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2020

หว่องได้รับความนิยมหลังจากเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านโควิดของสิงคโปร์ และเมื่อปีที่แล้ว หว่องเข้ารับตำแหน่งต่อจากลี เซียนลุง ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าซึ่งเป็นบุตรชายของลี กวนยู นายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งประเทศหลังการแยกตัวกับมาเลเซียในปี 1965

หว่องเคยเตือนว่าสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากทรัมป์เดินหน้าเก็บภาษีศุลกากรอย่างที่เขาได้ประกาศไว้ และสิงคโปร์จำเป็นต้องเปิดกว้างและแข่งขันมากขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบเหล่านั้น

เขายังกล่าวอีกว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอาจต้องมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของสิงคโปร์ครั้งใหญ่

ทั้งนี้ เสียงข้างมากที่ท่วมท้นของพรรคกิจประชาชน กลายเป็นบรรทัดฐานในภูมิทัศน์ทางการเมืองของสิงคโปร์

แต่ในช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคฯกลับต้องเผชิญกับเรื่องราวขัดแย้งมากมาย

ลี เซียนลุงอยู่ในความขัดแย้งอันขมขื่นกับลี เซียนหยาง ผู้เป็นน้องชายซึ่งสนับสนุนฝ่ายค้านอย่างแข็งขันและได้ขอสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองในอังกฤษ

ข้อพิพาทในครอบครัวที่ดำเนินมายาวนานนี้มุ่งเน้นไปที่ข้อกล่าวหาที่ลี เซียนหยางกล่าวอ้างว่าพี่ชายของเขาพยายามขัดขวางการรื้อถอนบ้านพักของครอบครัวเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากมรดกของลี กวนยู ซึ่งลี เซียนลุงเองได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น

เมื่อปีที่แล้ว เอส. อิสวารัน อดีตรัฐมนตรีคมนาคมถูกจำคุกในข้อหาทุจริตรับสินบน และในปี 2023 ประธานรัฐสภาและส.ส. หญิงต้องยื่นใบลาออกเพราะมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว

ในเวลาเดียวกัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเปิดรับทางเลือกทางการเมืองใหม่ๆมากขึ้น

ในปี 2020 กลุ่มฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอย่างพรรคแรงงาน ได้ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ โดยชนะ 10 ที่นั่งจากทั้งหมด 93 ที่นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 4 ที่นั่งก่อนหน้านี้

พรรคแรงงานซึ่งมีแนวโน้มทางการเมืองดีขึ้น หวังว่าจะสร้างโมเมนตัมนั้นต่อไปด้วยรายชื่อผู้สมัครที่มีเสน่ห์หลายคน รวมถึงทนายความชั้นนำ