สหรัฐอนุมัติขายอาวุธพร้อมบริการแก่ไต้หวันล็อตสองอีก 100 ล้าน$

รัฐบาลสหรัฐอนุมัติขายอาวุธยุทโธปกรณ์และบริการมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ แก่ไต้หวัน เพื่อรักษาและปรับปรุงระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตของเกาะไต้หวัน จีนคัดค้านและประณามว่าบ่อนทำลายความสัมพันธ์ พร้อมขู่จะใช้มาตรการตอบโต้

รายงานรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 อ้างคำแถลงจากสำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงในการป้องกันประเทศ (ดีเอสซีเอ) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า ดีเอสซีเอได้ส่งเอกสารรับรองที่จำเป็นต่อสภาคองเกรสแล้ว ภายหลังกระทรวงการต่างประเทศอนุมัติการขายอาวุธและบริการนี้ ตามคำร้องขอของสำนักผู้แทนที่ทำหน้าที่เสมือนสถานทูตของไต้หวันประจำกรุงวอชิงตัน

แถลงการณ์ของดีเอสซีเอกล่าวว่า การยกระดับระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตจะช่วยปรับปรุงความมั่นคงของผู้รับ และช่วยในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง, สมดุลทางทหาร, เศรษฐกิจ และความเจริญในภูมิภาคนั้น ข้อเสนอการขายนี้ยังสอดคล้องกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคง, เศรษฐกิจ และผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐ ด้วยการสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องของผู้รับในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย และรักษาขีดความสามารถในการป้องกันที่น่าเชื่อถือ

รอยเตอร์กล่าวว่า ผู้ทำสัญญาหลักในข้อตกลงนี้คือบริษัท เรเธียนเทคโนโลยีส์ และบริษัท ล็อกฮีดมาร์ติน

กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันแสดงความยินดีอย่างสูงกับการตัดสินใจของสหรัฐ "ในการเผชิญหน้ากับการกระทำที่ยั่วยุและการขยายทางทหารอย่างต่อเนื่องของจีน ประเทศของเราจะรักษาความมั่นคงของชาติด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่ง และยังคงกระชับความเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดระหว่างไต้หวันกับสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"

ซาเวียร์ ชาง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวในแถลงการณ์ที่แสดงความ "ซาบซึ้ง" ที่สหรัฐอนุมัติการขายอาวุธและบริการมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์แก่ไต้หวัน ว่านี่เป็นการขายอาวุธให้แก่ไต้หวันครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับตำแหน่ง และเป็นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งระหว่างไต้หวันกับสหรัฐ

กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า การตัดสินใจขอซื้อระบบมิสไซล์แพทริออตใหม่จากสหรัฐเกิดขึ้นระหว่างการพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2562 คาดว่าข้อตกลงนี้จะเริ่มมีผลภายใน 1 เดือน

รัฐบาลไบเดนอนุมัติการขายอาวุธล็อตใหญ่ครั้งแรกแก่ไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยรวมถึงการอนุมัติขายระบบปืนใหญ่อัตตาจร เอ็ม109เอ6 ขนาด 155 มม. จำนวน 40 หน่วย

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวง แถลงที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคารว่า จีนคัดค้านและประณามการขายอาวุธล่าสุด ซึ่งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและไต้หวันอย่างร้ายแรง รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน จีนจะใช้มาตรการที่หนักแน่นและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

จีนอ้างว่า เกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และพร้อมจะผนวกคืนหากไต้หวันพยายามประกาศเอกราช รัฐบาลจีนในยุคของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กดดันไต้หวันหนักขึ้นทั้งทางทหาร, เศรษฐกิจ และการทูต นับตั้งแต่ไช่ อิงเหวิน ซึ่งปฏิเสธหลักการจีนเดียว ขึ้นเป็นประธานาธิบดีไต้หวัน

ปีที่ผ่านมา ไต้หวันรายงานว่าเครื่องบินรบของจีนรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (เอดีไอซี) ของไต้หวัน 969 ครั้ง โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปี และเพิ่มขึ้นจากราว 380 ครั้งในปี 2563 เริ่มต้นปีนี้กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า เครื่องบินจีน 52 ลำเข้าเอดีไอซีในช่วง 2 วันของเดือนมกราคม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ

"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง