'โซมาลิแลนด์' กระชับสัมพันธ์ไต้หวัน ทำ 'โซมาเลีย-จีน' กริ้ว

รัฐมนตรีต่างประเทศโซมาลิแลนด์เดินทางเยือนไต้หวันพบกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน เมื่อวันพุธ ยกเป็นความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในแอฟริกาและเอเชีย รัฐบาลโซมาเลียจวกเป็นการละเมิดอธิปไตย ส่วนจีนประณามเป็นความพยายามแบ่งแยกดินแดน

ภาพจากสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 เอสซา เคย์ด โมหะมัด (ซ้าย) เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน (Photo by Handout / Presidential Office / AFP)

รายงานเอเอฟพีวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 กล่าวว่า รัฐบาลไต้หวันปูพรมแดงต้อนรับเพื่อนใหม่ที่มีสถานะแบบเดียวกัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามแสดงตัวตนบนเวทีโลกมากขึ้นของไต้หวัน ในช่วงยามที่จีนช่วงชิงพันธมิตรทางการทูตไปได้แล้วหลายประเทศ ทั้งสองดินแดนสถาปนาความสัมพันธ์กันโดยตั้งสถานทูตเมื่อปี 2563 ทำให้ทั้งจีนและโซมาเลียโกรธ

โซมาลิแลนด์ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากโซมาเลียระหว่างสงครามกลางเมืองปี 2534 แต่ประชาคมระหว่างประเทศยังไม่ให้การรับรอง ส่วนไต้หวันเป็นดินแดนปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่จีนถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน และขู่ว่าพร้อมจะใช้กำลังทางทหาร หากไต้หวันประกาศเอกราช

เอสซา เคย์ด โมหะมัด รัฐมนตรีต่างประเทศโซมาลิแลนด์ กล่าวระหว่างเข้าพบประธานาธิบดีไช่เมื่อวันพุธว่า ความสัมพันธ์ระหว่างโซมาลิแลนด์และไต้หวันเป็น "ความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่พิเศษระหว่างสองนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในแอฟริกาและเอเชีย"

"การเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเป็นมิตรระหว่างประเทศของเราทั้งสอง" รัฐมนตรีโซมาลิแลนด์กล่าวระหว่างการเดินทางเยือนไต้หวันในระดับรัฐมนตรีครั้งแรก "มาตรการบีบบังคับหรือคุกคามทั้งหมดที่ปฏิเสธความร่วมมือระหว่างหุ้นส่วนระหว่างประเทศ มีส่วนน้อยมากต่อการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงปลอดภัยที่ภูมิภาคและโลกต้องการ"

ด้านรัฐบาลโซมาเลียตำหนิการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวันกับโซมาลิแลนด์ว่าเป็น "ความพยายามที่ประมาทเลินเล่อ" ในการละเมิดอำนาจอธิปไตยของโซมาเลีย ส่วนรัฐบาลจีนกล่าวหาไต้หวันว่าแบ่งแยกดินแดนและแสดงออกอย่างสิ้นหวัง

จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวตอบคำถามที่กรุงปักกิ่งเกี่ยวกับการเยือนของรัฐมนตรีโซมาลิแลนด์เมื่อวันพุธว่า ไต้หวันกำลังพยายามแบ่งแยกดินแดน และยังกระพือไฟเพื่อบ่อนทำลายเอกราชและเอกภาพของประเทศอื่นๆ

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา นิการากัวเป็นประเทศล่าสุดที่ละทิ้งความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันแล้วหันมาสถาปนาความสัมพันธ์กับจีน ทำให้เหลือเพียง 14 ประเทศที่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน อย่างไรก็ดี บางประเทศให้ไต้หวันตั้งสำนักงานการค้าที่ทำหน้าที่เสมือนสถานทูต และตอนนี้หลายชาติตะวันตกก็โอบรับไต้หวันมากขึ้นเพื่อตอบโต้จีน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขำไม่ออก! อดีต รมว.กต. โวรัฐบาลอิ๊งค์เจรจาสหรัฐ-จีน กดดันกัมพูชาเคารพข้อตกลงสันติภาพได้สำเร็จ

"มาริษ" แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชาให้เคารพข้อตกลง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ-สื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง

ไทยหวังพึ่งจีนได้หรือไม่ ในกรณีถูกสหรัฐฯกดดัน 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ

ไทยสามารถหวังพึ่งจีนในมิติของการสนับสนุนทางการทูตและเศรษฐกิจเพื่อคานอำนาจได้ แต่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงในปัญหาชายแดนกับกัมพูชา