วอชิงตันและเคียฟกล่าวว่าข้อตกลงใดๆ ที่จะยุติสงครามกับรัสเซียในที่สุดต้องธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของยูเครนอย่างเต็มที่ ภายหลังการเจรจาที่สร้างสรรค์ระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ, ยูเครน และยุโรปในเจนีวา

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ขวา) และอันเดรย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะทำงานประจำสำนักงานประธานาธิบดียูเครน แถลงข่าวหลังการเจรจาลับเกี่ยวกับแผนการของสหรัฐฯ ที่จะยุติสงครามยูเครน ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน (Photo by Fabrice COFFRINI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 กล่าวว่า ยูเครนและสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่ไปหารือกันที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเรื่องแผนการยุติสงครามกับรัสเซียที่ถูกแก้ไขและออกแบบโดยรัฐบาลวอชิงตันเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลมอสโก
ภายหลังการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ, ยูเครน และยุโรปซึ่งเริ่มต้นขึ้นจากข้อเสนอของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข้างรัสเซีย ตัวแทนจากรัฐบาลวอชิงตันและเคียฟระบุว่า คณะผู้เจรจาได้ร่าง "กรอบสันติภาพที่ได้รับการปรับปรุงและขัดเกลา" พร้อมยืนยันว่าข้อตกลงใดๆ ที่จะยุติสงครามกับรัสเซียในที่สุดต้องธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของยูเครนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ให้เวลายูเครนจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายนในการอนุมัติแผนการยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อเกือบ 4 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเต็มรูปแบบ
แต่รัฐบาลเคียฟกำลังพยายามแก้ไขร่างที่เรียกร้องอย่างแข็งกร้าวหลายประการของรัสเซีย โดยแผน 28 ข้อกำหนดให้ประเทศที่ถูกรุกรานต้องสละดินแดน, ลดจำนวนกองทัพ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมนาโต
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า "การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์, มุ่งเน้นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการบรรลุสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน"
"ข้อตกลงใดๆ ในอนาคตจะต้องธำรงไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตยของยูเครนอย่างเต็มที่และนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและยุติธรรม ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันต่อไปตามข้อเสนอที่จะสรุปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แม้ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์แยกต่างหากว่าการเจรจาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ แต่ในทางกลับกันการโจมตีด้วยโดรนของรัสเซียในเมืองคาร์คิฟของยูเครน ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอีก 4 ราย
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงความคืบหน้าอย่างมหาศาลหลังจากการประชุมกันมาทั้งวัน ขณะที่อันเดรย์ เยอร์มัค หัวหน้าคณะผู้แทนยูเครน บอกกับผู้สื่อข่าวว่าทั้งสองฝ่ายมี "ความคืบหน้าที่ดีมาก"
คณะผู้แทนยูเครนอ้างถึงร่างแผนฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่ได้เผยแพร่ โดยกล่าวว่าสะท้อนถึงลำดับความสำคัญส่วนใหญ่ของยูเครนแล้ว
รูบิโอซึ่งมีคณะผู้แทนประกอบด้วยจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของทรัมป์ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าภารกิจเพื่อจำกัดขอบเขตความขัดแย้งได้คืบหน้าไปอย่างมาก
"ผมบอกคุณได้เลยว่าประเด็นที่ยังเปิดอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินแก้ไข" เขากล่าว พร้อมเสริมว่า "ผมเชื่ออย่างจริงใจว่าเราจะบรรลุได้"
รูบิโอเน้นย้ำว่าข้อตกลงขั้นสุดท้ายใดๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดี และมีบางประเด็นที่ต้องดำเนินการต่อไป ก่อนที่จะพยายามนำรัสเซียเข้ามา
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยโจมตียูเครน กล่าวว่า "ผู้นำของยูเครนไม่ได้แสดงความกตัญญูต่อความพยายามของเราเลย" พร้อมกับกล่าวหาประเทศในยุโรปว่าไม่ได้ดำเนินการมากพอที่จะหยุดยั้งสงคราม แต่ไม่ได้ประณามรัสเซียโดยตรง
ไม่นานหลังจากนั้น ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า ประเทศของเขารู้สึกขอบคุณสหรัฐอเมริกา และรู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว สำหรับความช่วยเหลือที่ช่วยชีวิตชาวยูเครน
ท้ายที่สุดแล้ว รูบิโอกล่าวว่าเขาคิดว่าทรัมป์ค่อนข้างพอใจกับรายงานที่มอบให้เขาเกี่ยวกับความคืบหน้าที่เกิดขึ้น
เมื่อถูกถามว่าเขาเชื่อว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในวันพฤหัสบดีหรือไม่ รูบิโอตอบว่า "กำหนดเส้นตายคือเราต้องการทำให้เรื่องนี้สำเร็จโดยเร็วที่สุด"
"ผมคิดว่าเรามีความคืบหน้าอย่างมาก ผมรู้สึกมั่นใจมากว่าเราจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ในระยะเวลาที่เหมาะสมและในเร็วๆ นี้" รูบิโอกล่าว
แผนของสหรัฐฯ ถูกร่างขึ้นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากพันธมิตรยุโรปของยูเครนซึ่งต้องการให้เสียงของพวกเขาได้รับการรับฟังและเพื่อสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลเคียฟ
"ยูเครนต้องมีเสรีภาพและสิทธิอธิปไตยในการเลือกชะตากรรมของตนเอง พวกเขาได้เลือกชะตากรรมในยุโรปแล้ว" เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานสหภาพยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ พร้อมเน้นย้ำว่า "บทบาทศูนย์กลางของสหภาพยุโรปจะต้องสะท้อนออกมาอย่างเต็มที่ในแผนสันติภาพใดๆ"
ผู้นำหลายคนได้ต่อสายหาทรัมป์ในวันอาทิตย์ หนึ่งในนั้นคือนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักรซึ่งออกมาระบุว่าตัวเขาและทรัมป์เห็นพ้องต้องกันว่า "เราทุกคนต้องทำงานร่วมกันในช่วงเวลาสำคัญนี้เพื่อนำมาซึ่งสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ร่วมหารือแผนสันติภาพกาซาระยะที่ 2
ผู้ไกล่เกลี่ยในตะวันออกกลางอย่าง อียิปต์ กาตาร์ และตุรเกีย ได้พบปะกันที่กรุงไคโรเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกาซาระยะที่สองของสหรัฐฯ การประชุมมีหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอียิปต์และตุรเกียเข้าร่วมด้วย ตามรายงานของสถานีข่าวอัล-คาเฮรา นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด บิน อัลดุลเราะห์มาน อัล-ธานี แห่งกาตาร์ ก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน


