ญี่ปุ่นเรียกตัวทูตจีนเข้าพบกรณีพิพาทเครื่องบินขับไล่

รัฐบาลโตเกียวเรียกตัวเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบจากกรณีเครื่องบินทหารจีนล็อกเรดาร์เครื่องบินขับไล่ของญี่ปุ่น ในเหตุการณ์ขัดแย้งล่าสุดที่ปะทุขึ้นตั้งแต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแสดงความเห็นสนับสนุนไต้หวัน

ธงชาติญี่ปุ่นและธงชาติจีน (Photo by Kazuhiro NOGI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างจีนและญี่ปุ่นจนเป็นเหตุให้รัฐบาลโตเกียวเรียกตัวเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบ ท่ามกลางความไม่พอใจของรัฐบาลปักกิ่งที่ปะทุขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่นแสดงความเห็นสนับสนุนไต้หวัน

เมื่อเดือนที่แล้ว ทาคาอิจิเสนอแนะว่าญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงทางทหารในกรณีที่จีนโจมตีเกาะไต้หวันที่ปักกิ่งอ้างสิทธิ์และยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะยึดครองด้วยกำลัง

ล่าสุด เครื่องบินรบ J-15 จากเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงของจีน ได้ล็อกเรดาร์เครื่องบินญี่ปุ่นสองครั้งในน่านน้ำสากลใกล้เกาะโอกินาวา ตามรายงานของญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์

แม้ไม่มีความเสียหายหรือการบาดเจ็บใดๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเปิดเผยเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่กองทัพเรือจีนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เครื่องบินญี่ปุ่นได้เข้าใกล้พื้นที่ฝึกของกองทัพเรือจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่าและก่อให้เกิดปัญหา, ส่งผลกระทบต่อการฝึกตามปกติของฝ่ายจีนอย่างร้ายแรง และเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการบิน

แถลงการณ์ระบุว่าคำกล่าวอ้างของรัฐบาลโตเกียวนั้นขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง และแจ้งให้ญี่ปุ่นหยุดใส่ร้ายป้ายสีทันที

มิโนรุ คิฮาระ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ญี่ปุ่นได้ลาดตระเวนด้วยเครื่องบินรบ F-15 เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการละเมิดน่านฟ้าที่อาจเกิดขึ้น

"คำกล่าวอ้างของจีนที่ว่าเครื่องบินของกองกำลังป้องกันตนเองได้ขัดขวางการบินอย่างปลอดภัยของเครื่องบินจีนนั้นไม่มีมูลความจริง" โฆษกฯระบุ

ก่อนหน้านี้ ทาเคฮิโระ ฟูนาโกชิ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศญี่ปุ่นได้เรียกตัวอู๋ เจียงห่าว เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบเมื่อวันอาทิตย์ และได้ประท้วงอย่างหนักแน่นว่าการกระทำที่อันตรายเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง

กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นระบุต่อมาว่า ฟูนาโกชิเรียกร้องอย่างแข็งขันให้รัฐบาลจีนรับรองว่าการกระทำที่คล้ายคลึงกันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก

นายกฯหญิงของญี่ปุ่นกล่าวในวันเดียวกันว่า ญี่ปุ่นจะตอบโต้อย่างใจเย็นและเด็ดเดี่ยว

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศจีนได้ปฏิเสธการประท้วงดังกล่าว และได้ยื่นประท้วงตอบโต้แล้ว

ทั้งนี้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับไต้หวันของทาคาอิจิเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ได้สร้างความเดือดดาลให้กับรัฐบาลปักกิ่ง

จีนได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด ขณะที่กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับนักแสดงและภาพยนตร์ญี่ปุ่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรือญี่ปุ่นและจีนได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งรอบหมู่เกาะพิพาทที่ญี่ปุ่นปกครองในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นจุดชนวนความขัดแย้งมายาวนาน

นอกเหนือจากรายงานข่าวว่าได้ต่ออายุการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นแล้ว จีนยังคงไม่ประกาศใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น เช่น การควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก

แต่หนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ขั้นตอนการขออนุญาตส่งออกแร่ธาตุหายากของจีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า ไปยังบริษัทญี่ปุ่นนั้นใช้เวลานานกว่าปกติ

โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ" และเสริมว่ามาตรการควบคุมที่มีอยู่ของจีนกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก.