เวเนซุเอลาร้องสหประชาชาติ ประณามสหรัฐฯขโมยเรือบรรทุกน้ำมัน

เวเนซุเอลาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กรณีสหรัฐอเมริกาขโมยเรือบรรทุกน้ำมันที่ยึดได้ในทะเลแคริบเบียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา (Photo by KAMIL KRZACZYNSKI and Federico PARRA / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า รัฐบาลเวเนซุเอลาได้ร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เกี่ยวกับกรณีที่สหรัฐอเมริกายึดเรือบรรทุกน้ำมันของพวกตนในทะเลแคริบเบียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และขอให้ประณามพฤติกรรมนั้นว่าเป็นการขโมย

รัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กดดันเวเนซุเอลามาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ด้วยการเสริมกำลังทางเรือครั้งใหญ่ พร้อมกับการโจมตีรุนแรงต่อเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 95 ราย

ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา กล่าวอ้างว่าการระดมกำลังทหารสหรัฐฯ จำนวนมากเข้ามาใกล้ประเทศของเขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการโค่นล้มตัวเขาและมุ่งหมายขโมยน้ำมันจำนวนมหาศาลของเวเนซุเอลาภายใต้ข้ออ้างของการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด

สัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังอเมริกันยังได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาลำหนึ่ง ซึ่งกล่าวกันว่าขนส่งน้ำมันในตลาดมืดโดยละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และรัฐบาลวอชิงตันยอมรับตรงๆว่าตั้งใจที่จะยึดสินค้าไว้

ในจดหมายถึงซามูเอล ชโบการ์ นักการทูตจากสโลวีเนียซึ่งดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รัฐบาลการากัสเรียกร้องให้องค์กรดังกล่าวประณามสิ่งที่เรียกว่า "การกระทำเยี่ยงโจรสลัดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ, การใช้กำลังทหารอย่างผิดกฎหมายต่อเรือเอกชน และการขโมยสินค้าที่ได้มาจากการค้าระหว่างประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย"

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปล่อยตัวลูกเรือที่ถูกลักพาตัวไปอีกด้วย

ทั้งนี้ น้ำมันเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดของเวเนซุเอลา แต่มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้เวเนซุเอลาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขายในตลาดมืดในราคาที่ต่ำกว่าปกติ โดยส่วนใหญ่ส่งให้จีน.