นายกฯหญิงญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดครั้งแรกกับผู้นำเอเชียกลาง

นายกรัฐมนตรีหญิงของญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดครั้งแรกกับผู้นำเอเชียกลาง 5 ประเทศ ในขณะที่รัฐบาลโตเกียวกำลังแข่งขันเพื่อเพิ่มอิทธิพลในภูมิภาคที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้

นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่น (ขวา) และประธานาธิบดีคัสซิม-โจมาร์ต โตคาเยฟ ของคาซัคสถาน จับมือกันหลังจากแลกเปลี่ยนแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือ ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม (Photo by Franck ROBICHON / POOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสองวันที่กรุงโตเกียว ร่วมกับบรรดาผู้นำจาก 5 ชาติเอเชียกลาง อันได้แก่ คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน

เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้า 5 ชาติเอเชียกลางเหล่านี้เคยร่วมประะชุมสุดยอดที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพมาแล้วที่วอชิงตัน

อีกทั้งในปีนี้ บรรดาผู้นำประเทศในเอเชียกลางยังเคยจัดการประชุมสุดยอดแยกกันกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย, ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานสหภาพยุโรป

เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ญี่ปุ่นก็สนใจทรัพยากรธรรมชาติอันมหาศาลของภูมิภาคนี้ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันการกระจายแหล่งที่มาของแร่หายากและลดการพึ่งพาจีน

โทโมฮิโกะ อูยามะ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองเอเชียกลาง กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลโตเกียวยังตามหลังคู่แข่ง การประชุมสุดยอดครั้งนี้จึงมีความสำคัญสำหรับญี่ปุ่นในการเพิ่มบทบาทของตน

"ทรัพยากรธรรมชาติกลายเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเคลื่อนไหวของจีนเกี่ยวกับแร่หายาก" อูยามะกล่าวกับเอเอฟพี โดยอ้างถึงมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดซึ่งรัฐบาลปักกิ่งนำมาใช้ในปีนี้

ระหว่างการประชุมสุดยอด คาดว่าทาคาอิจิและผู้นำทั้งห้าจะจัดตั้งกรอบความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยมีเป้าหมายที่จะใช้เทคโนโลยีในการสำรวจแหล่งแร่ในเหมืองที่ยังไม่ได้พัฒนา ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ธุรกิจนิกเคอิ เอเชีย

นอกจากนี้ รัฐบาลโตเกียวยังวางแผนที่จะให้การสนับสนุนการพัฒนาเส้นทางทะเลแคสเปียน ซึ่งเป็นเครือข่ายโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อกับยุโรปโดยไม่ต้องผ่านรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไมนิจิ ชิมบุนและสื่ออื่นๆ

รัฐบาลโตเกียวได้สนับสนุนให้ธุรกิจญี่ปุ่นลงทุนในภูมิภาคนี้มานานแล้ว แต่จนถึงขณะนี้พวกเขายังคงระมัดระวังอยู่

ในปี 2024 อดีตนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะวางแผนที่จะเยือนคาซัคสถานเพื่อจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำภูมิภาคทั้งห้า แต่เขาต้องยกเลิกการเดินทางในนาทีสุดท้ายเพื่อจัดการกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เยือนกรุงอัสตานาในเดือนมิถุนายน และจีนซึ่งมีพรมแดนติดกับคาซัคสถาน, คีร์กีสถาน และทาจิกิสถาน ได้นำเสนอตัวเองในฐานะพันธมิตรทางการค้าหลัก โดยลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

แม้อดีตดินแดนสาธารณรัฐโซเวียตเหล่านี้ยังคงมองรัฐบาลมอสโกเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ แต่ก็หวาดหวั่นกับบทบาทการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า พื้นที่สำคัญที่ญี่ปุ่นจะให้ความสนใจ ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากร, การช่วยเหลือด้านการลดการปล่อยคาร์บอน และความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากแร่หายากแล้ว คาซัคสถานยังเป็นผู้ผลิตยูเรเนียมรายใหญ่ที่สุดของโลก, อุซเบกิสถานมีแหล่งสำรองทองคำขนาดใหญ่ และเติร์กเมนิสถานอุดมไปด้วยก๊าซธรรมชาติ ส่วนคีร์กีซสถานและทาจิกิสถานซึ่งเป็นประเทศภูเขาก็กำลังค้นพบแหล่งแร่ใหม่ๆ เช่นกัน แต่การใช้ประโยชน์จากแหล่งสำรองขนาดใหญ่เหล่านี้ยังคงเป็นเรื่องยากในประเทศยากจนที่มีภูมิประเทศทุรกันดารและห่างไกล.

เพิ่มเพื่อน