พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (29)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง 

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

ผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร                                                           

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง   และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”      พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?                     

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า ใน 45 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 22 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

ต่อไปคือ คุณประเสริฐ  ศรีจรูญ                                                                                    คุณบรรจงเป็นสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือน ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2484 แทน พันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ที่ลาออกไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2484  และเป็นญาติพี่น้องกับคุณบรรจง ศรีจรูญที่มีความสนิทชิดเชื้อใกล้ชิดกับท่านปรีดี พนมยงค์ และได้ชักชวนคุณประเสริฐให้เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และคุณประเสริฐถือเป็นสมาชิกคณะราษฎรที่แข็งขันในการปฏิบัติการตัดการสื่อสารในวันก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475คุณประเสริฐเป็นหนึ่งในสี่มุสลิมสมาชิกคณะราษฎร สายพลเรือนที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วย คุณประเสริฐได้เดินทางไปศึกษาที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ซึ่งมีคุณบรรจงและคุณแช่ม พรหมยงค์เดินทางไปด้วย

จากข้างต้น ผู้เขียนประเมินว่า คุณประเสริฐน่าจะมีความสนิทสนมกับท่านปรีดีไม่ต่างจากคุณบรรจงที่ได้กล่าวไปในตอนที่แล้ว จึงขอสรุปว่า การที่คุณประเสริฐได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา น่าจะมีส่วนทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่า “สภาปรีดี”

ต่อไปคือ คุณปราโมทย์ พึ่งสุนทร เดิมชื่อบุญล้อม) “เป็นนักเรียนกฎหมายคนหนึ่งในบรรดานักเรียนกฎหมายอีกหลายคน ที่ได้สมัครเป็นสมาชิกคณะราษฎร อุทิศตนเพื่อเปลี่ยนการปกครองระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบบปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” และ “อยู่ในสายพลเรือนที่ขึ้นกับนายสงวน ตุลารักษ์ และนายซิม วีระไวทยะ ซึ่งพระยามโนปกรณ์นิติธาดาถึงกับเรียกทั้งสองคนนี้ว่าเป็นโมคคัลลาน์-สารีบุตรของหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเลยทีเดียว”  [1]

คุณปราโมทย์ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 ได้เปลี่ยนจากการเลือกตั้งโดยอ้อมมาเป็นการเลือกตั้งโดยตรงตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2479 [2]  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่ได้รับเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 มีจำนวน 91 คน เพิ่มจากเดิมที่มี 78 คน เพราะมีการกำหนดจำนวนผู้แทนราษฎรใหม่ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2479  ดังนั้น จึงต้องมีการแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เพิ่มให้เท่ากับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ตามมาตรา 65 รัฐธรรมนูญ พ.ศ 2475 [3] คณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 ซึ่งรักษาการอยู่จึงได้ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 โดยคุณปราโมทย์เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งเพิม

ส่วนในเรื่องของความสนิทสนมกับท่านปรีดีนั้น มีผู้เขียนข้อความสั้นๆแต่กินความหมายมากไว้ว่า  คุณปราโมทย์ “เป็น ‘มิตรซื่อสัตย์’ ของนายปรีดี พนมยงค์ ตราบจนวาระสุดท้าย….” [4] จากข้างต้น จึงกล่าวได้อย่างแน่นอนว่า การที่คุณปราโมทย์ พึ่งสุนทร ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา ย่อมมีส่วนทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

พันเอก ช่วง  เชวงศักดิ์สงคราม   

 

 

+

 

หลวงชำนาญนิติเกษตร์  (อุทัย  แสงมณี)  

 

 

 

       +

 ชาญ บุนนาค

  +

 

 

 

ชุณฑ์  ปิณฑานนท์  

   +

 

 

 

พลตรี  ไชย  ประทีปะเสน

 

   +

 

 

  ช่วย สุคนธมัต

   +

 

 

 

  ดิเรก ชัยนาม

   +

 

 

 

  เดือน  บุนนาค

   +

 

 

 

พลเรือตรี ถวัลย์  ธำรงนาวาสวัสดิ์ 

   +

 

 

 

พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์  (วัน  จามรมาน)

 

 

+

 

บรรจง  ศรีจรูญ

   +

 

 

 

ประเสริฐ  ศรีจรูญ 

   +

 

 

 

ปราโมทย์ พึ่งสุนทร

   +

 

 

 

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 47 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 24 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 6 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)


[1] กษิดิศ อนันทนาธร, “ปราโมทย์ พึ่งสุนทร : ผู้ให้กำเนิด ‘เทเวศประกันภัย’”  https://www.the101.world/pramote-peungsuntorn/

[2] https://dl.parliament.go.th/handle/20.500.13072/16147

[3] https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2475/A/529.PDF

[4] กษิดิศ อนันทนาธร, “ปราโมทย์ พึ่งสุนทร : ผู้ให้กำเนิด ‘เทเวศประกันภัย’”  https://www.the101.world/pramote-peungsuntorn/

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ณัฏฐ์ ผ่าเกมแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 3 คือดักทาง ยุบสภาปี 68 เป็นศูนย์

นักกฎหมายมหาชนชี้ แก้รัฐธรรมนูญแม้ผ่านวาระ 2 ไม่ยาก แต่ต้องแช่แข็งร่าง 15 วันก่อนขึ้นวาระ 3 ทำเกมยุบสภาไร้ทางเกิดขึ้นภายในปีนี้ ขณะตัวแปรชี้ชะตาอยู่ที่เสียง สว. สีน้ำเงิน ในขั้นสุดท้ายก่อนประชามติ

รัฐสภาประชุมแก้ รธน. 10-11 ธ.ค. เชื่อผ่านวาระสาม สภาสูงไม่ตีตก

ในช่วงวันที่ 10-11 ธันวาคม จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการประชุมรัฐสภาในช่วงการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ

🛑LIVE ‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร

‘ดร.สุวิชา’ เปิดชัดๆ นิด้าโพล เลือกตั้ง’69 พลิกล็อก.!? พรรคต่อพรรค-ภาคต่อภาค อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ.2568

การเรียนประวัติศาสตร์ สำคัญต่อเรื่องการเมือง-นโยบายหรือไม่ 'เอ็ดดี้' มีคำตอบ

ไม่มีชาติใดกำหนดอนาคตได้ ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาจากไหน ประเทศที่มองอดีตไม่ออก จะถูกครอบงำโดยผู้นำที่อ้างประวัติศาสตร์ผิดๆ