พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (32)

 

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490  เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489  ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาวตราบที่ยังบังคับใช้บทเฉพาะกาลอยู่ 

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร                                                           

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489                                 

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง  และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง      และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี”  พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?              

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า ใน 50 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 26 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 7 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

ต่อไปคือ พลโท ประจนปัจจนึก                                                                                    พลโท พระประจนปัจจนึก (พุก มหาดิลก) ไม่ได้เป็นสมาชิกคณะราษฎร และไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว แต่ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ตั้งแต่มีการแต่งตั้งครั้งแรกในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 จากนั้น ท่านก็ไม่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เพราะท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรถึง 10 สมัยตั้งแต่วันที่  12 กันยายน 2477 - 24 มิถุนายน 2487

จนเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา หลังรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ท่านก็ไมได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ จนกระทั่งหลังรัฐประหาร 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ที่คณะรัฐประหารที่มีจอมพล ป. พิบูลสงครามอยู่เบื้องหลัง ทำการรัฐประหารยึดอำนาจตัวเอง และแต่งตั้งให้ตัวเองกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และนำรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 กลับมาใช้อีก ท่านพลโท ประจนปัจจนึก จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 อีกครั้ง และได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรถึง 11 สมัย ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2494 - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501  สังเกตได้ว่า ท่านได้ดำรงรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงก่อนและในขณะที่ที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเรืองอำนาจทางการเมืองช่วงแรก (พ.ศ. 2477-2487) และเมื่อปรีดี พนมยงค์ขึ้นมามีอำนาจทางการเมืองจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา และในช่วงหลังจอมพล ป. พิบูลสงครามทำรัฐประหารตัวเองและขึ้นมามีอำนาจและประกาศใช้รัฐธรรมนูญตามที่ตนต้องการ ท่านก็กลับมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงครามหนีออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 และจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัขต์ ท่านก็ยังดำรงตำแหน่งทางประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไปจนเกิดรัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501

จากที่กล่าวมา น่าจะพอสรุปได้ว่า ถึงแม้ว่า ท่านพลโท ประจนปัจจนึกจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา แต่ก็ไม่มีส่วนที่จะทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”  และท่านน่าจะจัดอยู่ในพวกที่ไม่ใช่พวกปรีดี เพราะท่านมีแนวโน้มที่จะได้รับความไว้วางใจจากกองทัพโดยรวมมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกองทัพภายใต้จอมพล ป. หรือจอมพลสฤษดดิ์

ต่อไปคือ พลตรี  ประยูร  ภมรมนตรี */**

พลตรีประยูร ภมรมนตรี เป็นสมาชิกคณะราษฎรสายพลเรือน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งคณะผู้ก่อการตั้งแต่แรกเริ่มพรัอมๆกับปรีดี พนมยงค์ (ต่างฝ่ายต่างอ้างว่า ตนเป็นผู้ริเริ่มจนปรีดีฟ้องร้องหนังสือที่กล่าวถึงประเด็นนี้ของพลตรีประยูร)   ท่านดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว  (28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 – 6 ธันวาคม พ.ศ. 2476) และดำรงตำแหน่งคณะกรรมการคณะราษฎร (คณะรัฐมนตรี คณะที่ 1) (28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475) [1] และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (10 ธันวาคม 2475 – 1 เมษายน 2476) [2] และรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (1 เมษายน 2476 – 20 มิถุนายน 2476) ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

จากนั้นท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีไม่ประจำกระทรวงอีกครั้งในคณะรัฐมนตรีคณะใหม่ คณะที่ 9 (วันที่ 21 ธันวาคม 2481 – 7 มีนาคม 2485)  ที่มีพันเอก หลวงพิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม) */**  เป็นนายกรัฐมนตรี (ครั้งแรก) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2484  คณะรัฐมนตรี คณะที่ 9 ได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรี  ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ต่อมา ในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 10  (7 มีนาคม 2485 – 1 สิงหาคม 2487) ที่มีจอมพล แปลก พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

จากนั้น ท่านถึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาจนกระทั่งเกิดรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 หลังรัฐประหาร 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ที่จอมพล ป. พิบูลสงครามใช้ให้พลเอกเผ่า ศรียานนท์ทำรัฐประหารตัวเอง พลตรีประยูรก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 อีกครั้ง ต่อมาวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2495 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นตำแหน่งทางการเมืองตำแหน่งสุดท้าย โดยทั้งสองตำแหน่งนี้อยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรีชื่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม  ส่วนตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 นั้น ท่านดำรงตำแหน่งจนกระทั่งลาออกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500               

นอกจากนี้ ในกรณีร่างรัฐธรรมนูญของหลวงประดิษฐ์มนูธรรมที่นำกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ หลังวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 และเค้าโครงเศรษฐกิจหลวงของหลวงประดิษฐ์มนูธรรมที่นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี พลตรีประยูรก็อยู่ฝ่ายที่ไม่แสดงความเห็นหรือไม่ก็ไม่เห็นด้วย

จากข้างต้น จึงน่าจะกล่าวได้ว่า การที่พลตรีประยูร ภมรมนตรีได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาไม่น่ามีส่วนทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”

ผลล่าสุดคือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

  แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี  เดชาติวงศ์

   +

 

 

 

ร.อ. กำลาภ  กาญจนสกุล ร.น.

   +

 

 

 

พ.ท.  ก้าน  จำนงภูมิเวท 

 

   +

 

 

แก้ว  สิงหะคเชนทร์

 

 

 

     +

หลวงกาจสงคราม

 

   +

 

 

พลเรือตรี กระแส  ประวาหะนาวิน  สรยุทธเสนี

 

 

 

+

 

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

 

  +

 

 

เขียน  กาญจพันธุ์ 

 

 

 

     +

พลโท จิระ  วิชิตสงคราม

 

 

 

     +

จรูญ สืบแสง

    +

 

 

 

จิตตะเสน ปัญจะ

 

  +

 

 

พันโท เจือ  สฤษฎิ์ราชโยธิน 

 

 

 

     +

จำรัส สุวรรณชีพ

   +

 

 

 

จินดา จินตนเสรี

   +

 

 

 

จำลอง ดาวเรือง

   +

 

 

 

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล  เสรีเริงฤทธิ์) 

 

   +

 

 

ไต๋ ปาณิกบุตร

   

 

+

 

ถวิล อุดล

   +

 

 

 

ทัน พรหมิทธิกุล

   +

 

 

 

พระยานลราชสุวัจน์  (ทองดี  นลราชสุวัจน์) 

 

 

 

       +

พระนิติการณ์ประสม  (สงวน  ชัยเฉนียน)

 

 

 

      +

ปพาฬ  บุญ-หลง

   +

 

 

 

หลวงประสิทธิ์นรกรรม (เจี่ยน  หงสประภาส)

   +

 

 

 

ประทุม  รมยานนท์

 

 

+

 

พันตำรวจเอก พระพิจารณ์พลกิจ

   +

 

 

 

พึ่ง ศรีจันทร์

   +

 

 

 

มิ่ง  เลาห์เรณู

   +

 

 

 

สุกิจ นิมมานเหมินท์

 

 

 

       +

ไสว อินทรประชา

 

 

 

       +

พันโท พระอภัยพลรบ  (ชลอ  อินทรัมพรรย์)

   +

 

 

 

หลวงอรรถกัลยาณวินิจ  (เอื้อน  ยุกตะนันทน์)

 

 

 

     +

อรุณ  แสงสว่างวัฒนะ

 

 

 

    +

    เฉลียว ปทุมรส

   +

 

 

 

   หลวงขาญสงคราม

 

 

 

      +

พันเอก ช่วง  เชวงศักดิ์สงคราม   

 

 

+

 

หลวงชำนาญนิติเกษตร์  (อุทัย  แสงมณี)  

 

 

 

       +

 ชาญ บุนนาค

  +

 

 

 

ชุณฑ์  ปิณฑานนท์  

   +

 

 

 

พลตรี  ไชย  ประทีปะเสน

 

   +

 

 

  ช่วย สุคนธมัต

   +

 

 

 

  ดิเรก ชัยนาม

   +

 

 

 

  เดือน  บุนนาค

   +

 

 

 

พลเรือตรี ถวัลย์  ธำรงนาวาสวัสดิ์ 

   +

 

 

 

พระยานิติศาสตร์ไพศาลย์  (วัน  จามรมาน)

 

 

+

 

บรรจง  ศรีจรูญ

   +

 

 

 

ประเสริฐ  ศรีจรูญ 

   +

 

 

 

ปราโมทย์ พึ่งสุนทร

   +

 

 

 

พันเอก ทวน  วิชัยขัทคะ

   +

 

 

 

เธียรไท  อภิชาตบุตร์

   +

 

 

 

พลตรี  ปลด  ปลดปรปักษ์  พิบูลภานุวัธน์

 

  +

 

 

 พลโท ประจนปัจจนึก

 

  +

 

 

 พลตรีประยูร ภมรมนตรี

 

  +

 

 

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 52 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 26 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี  5 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 9 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 12 ท่าน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

[1] https://www.soc.go.th/?page_id=2096

[2] https://www.soc.go.th/?page_id=2113

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยก้าวใหม่ : ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง เดินหน้าขับเคลื่อนธนู4 ดอก กับโอกาสปักธง แจ้งเกิดเลือกตั้ง 69

“พรรคไทยก้าวใหม่”ที่มี ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนักการศึกษาชื่อดัง-อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหัวหน้าพรรคถือเป็นอีกหนึ่งพรรคการเมืองใหม่ที่เปิดตัวมาก่อนการยุบสภาฯ

จบเลือกตั้ง 8ก.พ.2569 อนุทิน นายกฯรอบสอง

รายการ ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด สัมภาษณ์พิเศษซินแสชื่อดังที่ทุกคนรู้จักกันดี ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย-อดีตสมาชิกวุฒิสภา

‘เท้ง’กลัวไม่ได้ตั้งรัฐบาล

กกต.เผยรับสมัคร สส.ทั้ง 400 เขตเรียบร้อยดี เตรียมรับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อวันอาทิตย์นี้ เตือนประชาชนโพสต์ข้อความผิด กม.เลือกตั้ง เจอคุก 10 ปี

‘อภิสิทธิ์’ ขอคะแนน กทม. ชี้ 2 เดือน กระแส ปชป. ดีขึ้น ย้ำการเมืองสุจริต

หัวหน้าประชาธิปัตย์ระบุ กระแสตอบรับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นบวก ย้ำไม่มีใครเป็นเจ้าของประชาชน ตั้งคำถามเลือกตั้ง กทม. สองรอ

'อนุทิน' ห้อยเหรียญพระนเรศวรบุกกรุงเก่า ขึ้นสแตนด์เชียร์ลุ้นจับเบอร์ผู้สมัคร สส.อยุธยา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยา เดิน