
สนามการเลือกตั้ง กทม.คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังว่างเว้นมานานกว่า 9 ปี เห็นได้จากการเปิดรับสมัครผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพฯ หรือ ส.ก. เมื่อ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา บรรดาผู้สมัครอิสระ ผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองแห่กันมาสมัครแบบมืดฟ้ามัวดิน
แต่ที่น่าจับตามองคือ บรรดาผู้สมัคร ส.ก.จากพรรคการเมือง ซึ่งขนกันมาลงสนามสู้ศึกชิงชัยกันแบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่
โดยเฉพาะ "พรรคพลังประชารัฐ" ที่รอบนี้หวังจะดึงกระแสจากคะแนนจากคนรุ่นใหม่ New voter มาอยู่ในมือให้ได้ ผู้สมัครหลายคนจึงเรียกว่าใหม่แกะกล่อง แต่ไฟแรงไม่เบา
อย่างเช่นผู้สมัคร ส.ก.เขตจอมทอง "มินทร์ ลักษิตานนท์" นักลงทุนอิสระและนักวางกลยุทธ์การท่องเที่ยวเพื่อเศรษฐกิจ วัย 32 ปี แว่วมาว่าถูกส่งรายชื่อเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้าย ภายใต้การผลักดันของ "อ้น ทิพานัน ศิริชนะ" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจอมทอง เจ้าของสโลแกน #ให้อ้นดูแล
สำหรับรุ่นใหม่คนนี้ ถือว่าตรงตามคอนเซ็ปต์ ในการเนรมิต "จอมทอง" ให้เป็นแลนด์มาร์กด้านแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพราะดีกรีการศึกษาที่จบด้านการท่องเที่ยวมาโดยตรง และเคยร่วมวางแผนการท่องเที่ยวในระดับประเทศมาแล้ว! นั่นเอง
อีกทั้งหนุ่ม "มินทร์" ยังมีความกระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนแปลง พัฒนาจอมทอง ให้ดีกว่าที่เคยเป็นมา ด้วยศักยภาพของพื้นที่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ประกอบกับวิถีชุมชนดั้งเดิมสามารถนำมาผสมผสานให้กลายเป็นจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว อาทิ วัดวาอาราม โบราณสถาน เส้นทางท่องเที่ยวในคลองต่างๆ ที่เชื่อว่าดึงเม็ดเงิน สร้างรายได้กระจายลงสู่ชุมชน ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
นอกเหนือจากการดูแลด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ภายใต้สโลแกน #ให้มินทร์ดูแล และหากได้รับโอกาสจะเข้าไปพลิกโฉมการทำงานในสภาฯ กทม.ให้ตอบโจทย์คนเมืองอีกด้วย
แม้พื้นที่ดังกล่าวจะไม่ใช่ของง่าย แต่ด้วยกระแสการเมืองที่เปลี่ยนไป อย่าได้ประมาทกระแส "คนรุ่นใหม่" อาจจะปาดหน้าแซงชนะเข้าป้ายได้เช่นกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’
ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย
'ทำอะไรต่อ?'
หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
'ไม่ตรงกับความจริง'
ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา
“ขอบคุณทุกน้ำใจ”
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน
ไม่ยอมป่วย
ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
มีแต่คนรัก
ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ


