กัญชาในคิด 'กะลาครอบ'

"นอนดึก-ตื่นสาย" ตามสไตล์แก่แต่ขี้เกียจไปหน่อย เลยอดฟังสด

"ชลน่าน" เบิกฤกษ์ยุทธการ "เด็ดหัวสอยนั่งร้าน" เมื่อเช้าวาน (๑๙ ก.ค.๖๕) ที่สัปปายะสภาสถาน

ความจริงก็ตื่นอยู่หรอก

แต่นั่งงัวเงียโงกหงับบนที่นอน หงึกหงักอยู่ซักพัก ก็ล้มแผละ "หลับไปใหม่" เลยอดดูตอนนายกฯ ประยุทธ์ "เด็ดหัวชลน่าน" โชว์

ต้องบอกว่า "เสียดายจริงๆ"!

เพราะเมื่อไล่ดูข่าวตามหลัง อู๊ยยยย หวาดเสียว..หวาดเสียว ตอนนายกฯ "ศอกกลับ" ชลน่าน

โชะเดียว...คนโค้งคำนับสวย "หน้าแหก"

แต่ที่แตกเลือดกระฉูด กลับเป็นไอ้ทรราชที่เหลือแต่ "ถุงน้ำเลว" ซึ่งกั้นม่านชักใยอยู่ดูไบโน่น

ไปว่าลุงตู่โง่ ลุงตู่ก็เลยยักเงี่ยงเข้าให้ว่า....

 “นายกฯ ไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด เหมือนบางคน ที่ท่านบอกฉลาดที่สุด แต่ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้?"

สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะไปเลยมั้ยล่ะ

และที่ชลน่านรำทวนริษยาใส่นายกฯ "๘ ปี ประยุทธ์  ประเทศพินาศ ล้มเหลว ล้าหลัง"

นั่นแค่นายกฯ ถีบเบาๆ ชลน่านหน้าก็ไถล หัวคะมำ ไปนั่งบ่นอู้อี้เหมือนถูกผีอำแก้ขวยอยู่คนเดียวในมุมประมุขฝ่ายแค้น

นายกฯ ก็เลยให้โอวาท "หัวหน้านั่งร้านแม้ว" แต่ใฝ่ทางต่ำ แบบผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตา ประมาณว่า

 “ผมไม่อาจจะกล่าวอ้าง ว่าผมทำได้ดีที่สุด เก่งที่สุด  ผมไม่เคยพูดอย่างนั้น ท่านตีความกันเอง

หลายอย่างที่ท่านพูดมาไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผมยืนยันไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่มีความก้าวหน้า...การจัดอันดับลดลง ต้องดูสาเหตุ

มันลดลงตรงไหน กี่ข้อ และอะไรดีขึ้น อะไรแย่ลง  เพราะอะไร ท่านเป็นบุคลากรทางการแพทย์ฉลาดอยู่แล้ว  โชคดีที่ผมไม่ได้ไปรักษาอะไรกับท่าน

ท่านว่าผมมีอาการพิการทางสมอง ผมโชคดี ถ้าเป็นก็รักษากับท่านไม่ได้"

"หลายเรื่องที่ท่านพูดมา การใช้กลไกทหารมาทำงาน  ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันจำเป็นต้องใช้

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกสมัยใครเป็นนายกฯ (สมัยทักษิณ-เปลว) เอามาเป็นประโยชน์ได้มั้ย ถ้าไม่ละเมิดคนอื่นก็ใช้ประโยชน์ได้

ผมใช้กลไก สมช.ซึ่งมีกลไกตรงนี้อยู่แล้ว และกลไกเหล่านี้ก็มีรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอยู่ทั้งหมด

คุณบริหารไม่เป็นเอง........

คุณไม่ใช้ เพราะคุณไม่เข้าใจทหาร ทุกวันนี้ที่อยู่ ถ้าไม่มีตำรวจหรือทหารดูแล ท่านจะนั่งอยู่ตรงนี้ได้มั้ย จะนั่งแบบนี้ได้มั้ย?                

เศรษฐกิจพังยับเยิน ข้าวของแพง ถ้าท่านเอาแบบนี้มาพูด ท่านจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ลองเสนอมา ท่านจะช่วยตรงไหน?

วันนี้ ผมช่วยตั้งแต่ ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง  แก้ไขปัญหาความยากจน หนี้ครัวเรือน หนี้ครู หนี้ กยศ. ท่านเคยทำมั้ย อดีตเคยทำมั้ย?

โครงการพวกนี้ ประชาชนทุกข์ยาก ได้ดำเนินการอะไรไปบ้าง ใช้จ่ายงบประมาณไปประเภทไหนบ้าง ให้กลับไปดูบ้างวันนี้ สิ่งที่เรียบเรียงมาขั้นต้น ได้จ่ายเงินมากพอสมควร"

"ที่ระบุว่าเศรษฐกิจแย่ไปหมด จริงๆ แล้วบางส่วนมีปัญหา บางส่วนก็ดีขึ้น โดยเฉพาะราคาพืชผลการเกษตร ดีขึ้นทุกตัว เกษตรกรพอมีใจ

แต่สิ่งที่ยังไม่ดี ก็ต้องแก้ที่ต้นทาง ดูแลต้นทางการผลิต รวมแปลง จดทะเบียนขึ้นทะเบียนจีไอ

อะไรก็แล้วแต่ สมัยก่อน ผมไม่เห็นเคยพูดกัน ไม่มีรัฐบาลไหนเคยพูดเลย แต่ผมทำ

การกู้มาเต็มเพดานประชาชนได้ประโยชน์ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด ๕๕ ล้านบัญชี เคยให้ประชาชนแบบนี้มั้ย?"

 “ผมไม่ได้ให้แบบซื้อเสียง ผมให้เฉพาะกลุ่มคนที่มีปัญหา ให้เขาอยู่รอด พัฒนาไปสู่ความพอเพียง และความยั่งยืน

ความยั่งยืน นั่นคือหลักการรัฐบาล เราดูแลไม่ให้ป่วย ไม่ให้เสียชีวิต ท่านลองหาสิ่งที่ดีๆ มองด้วยสายตาสองข้าง  หูสองหู จะได้เห็นอะไรที่ดีๆ บ้าง

สรุปแล้ว สิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด 'ไม่ใช่ข้อเท็จจริง' ทั้งหมด และไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง ผมจำเป็นต้องพูดตรงนี้  เพราะท่านพูดว่า 'ผมทำอะไรไม่ได้สักเรื่อง'

ผมจำเป็นต้องชี้แจง ขอให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าแรงมา ผมก็พยายามจะแรงให้น้อยกว่าท่านหน่อย เพราะผมรู้อยู่แล้ว ว่าท่านต้องการให้ผมโมโห

ต้องให้เกียรติกันด้วยคำพูด และต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่น ตัวเองถึงจะได้เกียรติ

ถ้าโจมตีในลักษณะการให้ร้าย พูดจาส่อเสียด พูดจาดูแล้วไม่ใช่สุภาพบุรุษ ผมไม่อยากฟังในสภานี้ แต่ผมให้เกียรติสภา ให้เกียรติท่านประธาน และให้เกียรติสมาชิกทุกคน

ผมจำเป็นต้องชี้แจงแบบนี้.......

เพราะผ่านมาชั่วโมงหนึ่งเต็มๆ ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง  100% หลายอย่างดี หลายอย่างกำลังทำ กำลังแก้ไข

แม้ สมช.ที่ตั้งขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำงานด้านเศรษฐกิจ ใช้คนอื่นไม่เป็นหรือไง...ไปดูสิครับ คำสั่งที่ตั้งมา มีสักกี่คนที่เป็นทหารอยู่ในนั้น

ในเมื่อ สมช.มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงและดูแลภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ทุกๆ เรื่อง หน้าที่คือการกำหนดยุทธศาสตร์เดินหน้า ในสถานการณ์ที่มีความไม่มั่นคงมาเกี่ยวข้อง

ถ้าท่านทำงานไม่เป็น ไม่รู้เรื่องตรงนี้ ท่านก็พูดแบบที่ท่านพูดนั่นแหละ

ผมทราบดีว่า ท่านชื่นชมหลายคนที่ทำงานมาก่อนว่าดีกว่าผม นั่น..นี่ ไม่เป็นไรครับ ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน  ขอบคุณครับสวัสดี"

แหม...นายกฯ ก็ ใจร้ายจัง

ขึ้นต้น เด็ดหัว "ชลน่าน" ตวัดอีกฉับตอนท้าย "หัวนายใหญ่" ก็กระเด็นตามกัน ทั้งนายและลูกน้อง!

เป็นอันว่านายกฯ ผ่านด่าน "ดาบหยั่งเชิง" ของฝ่ายแค้นเมื่อวานไปแบบชิลๆ รอไปพบ "ด่านสังหาร" ในวันที่  ๒๒ ก.ค.อีกที

แต่ดูเหมือนฝ่ายแค้นก็รู้ว่านายกฯ หนังเหนียว "หมากัดไม่เข้า" เป้าใหญ่ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย จึงอยู่ที่ "ภูมิใจไทย" ตัว สกัดแผน "แลนด์สไลด์" ของเพื่อไทยเขาละ

ทำลาย "ภูมิใจไทย" ได้สำเร็จ เท่ากับทำลายแผน "ลุงตู่อยู่ต่อ" ได้สำเร็จ เพราะขาดแนวร่วมสำคัญ

และนั่น "ทางโล่ง" ให้ขบวนการ "แดง+ส้ม" เข้า "ยึดครองประเทศ" แล้วการ "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน" ก็จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือ

ไทยจะเป็น "สถานีรบ" ให้สหรัฐฯ-ยุโรป ในศึกชิงความเป็นจ้าวอาณาจักร "เอเชีย-แปซิฟิก" กับจีนทันที!

ตีงูต้องตีที่หัว......

ฉะนั้น ที่ฝ่ายค้านหมายเด็ดหัวจริงๆ คือ "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" รัฐมนตรีสาธารณสุข

การ "ปลดล็อกกัญชา" จากยาเสพติด "ห้ามมี-ห้ามเสพ" ไปเป็น "พืชสมุนไพรทางยา" และ "ทางเศรษฐกิจ" ประชาชนปลูกได้ ใช้ได้ ภายใต้เงื่อนไขข้อกฎหมายกำหนด

คะแนนนิยมภูมิใจไทยพุ่งพรวด!

พุ่งที่ไหนไม่ว่า แต่พุ่งใน "ภาคอีสาน" นี่ซี ฝ่ายที่ยอมไม่ได้-ทนไม่ได้ คือ "เพื่อไทย" และ "ก้าวไกล" ที่หวังจะกวาด ส.ส.อีสาน

แผนยึดครองอำนาจประเทศ สู่การ "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน" จะสำเร็จหรือล้มเหลว ก็อยู่ที่ภาคอีสานนี่แหละ

นรกส่ง "ครอบครัวใหญ่" มาเพื่อแลนด์สไลด์ แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง ส่งภูมิใจไทยลงมาเป็น "ก้างชิ้นใหญ่" ขวางคอ

ดังนั้น ยุทธการ "ไล่หนู ตีงูเห่า" ภาค ๒ จึงเกิดขึ้นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ที่ยกเรื่องกัญชามาชนิด "ดับเครื่องชน"

เรื่องกัญชานี่ พูดกันตรงๆ มีทั้งคุณ-ทั้่งโทษ เหมือนพืชสมุนไพรอีกหลายแสน-หลายล้านชนิด มันอยู่ที่ว่ามนุษย์จะชาญฉลาดและ "นำมาใช้" ด้วยเจตคติแบบไหน?

ฉะนั้น ใครจะพูดแบบไหนก็ไม่ผิด จะบอกว่า มีคุณ มีมูลค่าทางยาและทางเศรษฐกิจ มันก็ใช่

จะบอกว่า มันเป็นยาเสพติด มีโทษ อันตราย มันก็ใช่

สรุป กัญชา ไม่ดี-ไม่เลว จะดีหรือจะเลว อยู่ที่เจตคติของคน

ผมได้ยินพวกรุ่นใหม่ ค่ายก้าวหน้า-ก้าวไกล คือพวก  ๓ นิ้วนั่นแหละ เรียกคนต่อต้านการล่วงละเมิดสถาบันว่า "พวกกะลาครอบ"

ผมว่า พวกที่ต่อต้านการนำกัญชาขึ้นมาใช้ นั่นแหละพวก "กะลาครอบ" ตัวจริง!

สังคมโลกวันนี้ สู่ยุคนวัตกรรม นวัตกรรมจะเกิดได้ ต้องเริ่มจาก "วิจัย-พัฒนา"

การ "วิจัย-พัฒนา" คือการออกจาก "กะลาครอบ" ที่ติดยึดแค่ว่า "กัญชาเป็นยาเสพติด" มาชั่วตาปี-สีตาชาติ

ฉะนั้น การที่นายอนุทิน "กล้า" บุกเบิก นำกัญชาจากยาเสพติด ก้าวข้ามแค่สูบ-แค่เสพ ไปสู่การ "วิจัย-พัฒนา" เป็นยารักษาโรค เป็นพืชทางเศรษฐกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม

มาถูกทางแล้ว เพียงแต่เพิ่งเริ่ม ฉะนั้น การแต่งเติม ลงตะไบ ควบคุมในด้านไม่เป็นคุณ ต้องรีบ

รัฐบาลและนายอนุทิน สามารถฝ่าด่าน "อิจฉา" ทางการเมือง และการ "เตะตัดขา" ทางเลือกตั้งไปได้

อนาคต การแปลงค่ากัญชา "พืชเสพติด" ไปเป็น "พืชทางยาและทางเศรษฐกิจ" ผ่านการ "วิจัย-พัฒนา"

ไทยจะรวยแบบผู้เปิดศักราช

และจะเป็น "ต้นแบบ" ให้อีกหลายๆ ประเทศ ที่จนจ่ออยู่กับคำว่ายาเสพติด ไม่กล้าคิด-ไม่กล้าพัฒนา "ต่อยอด"!

"ก้านไอ ใบเสลด เม็ดขี้ตา" อยากลอง ก็ลอง

แต่ตรงเฉพาะ "แม่ดอกกัญชา" เท่านั้น อย่าเชียว  เพราะสารเสพติดที่นำไปแปลงเป็นยามันอยู่ตรงนั้น

ที่สุทิน "อัศวินนั่งร้านทักษิณ" ยำรัฐมนตรีอนุทินเมื่อวาน ก็ยำไป แต่ถ้าภูมิใจไทยไปร่วมเพื่อไทย กัญชาจากยาเสพติดก็จะเป็นทองไปเอง

เหมือนธรรมนัส ตอนอยู่รัฐบาล สุทินเรียกแป้ง แต่พอมาร่วมฝ่ายค้าน สุทินเรียกทอง

ก็เป็นคนแบบนี้ กี่ปี..กี่ปี จึงได้แต่ "เทียมแอก-เทียมไถ" ทำนาให้โจร!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’

๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'

เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”

เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม

มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”

“มิตรในยามยาก”

“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้

‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’

แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก