'เงื่อนไขหรือเงื่อนตาย'

และก็ยินดีกับรองประธานสภาทั้ง ๒  ท่านด้วย คือ

-"นายปดิพัทธ์ สันติภาดา" พรรคก้าวไกล รองประธานสภา คนที่ ๑ และ

-"นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" พรรคเพื่อไทย รองประธานสภา คนที่ ๒  ซึ่งไม่มีผู้เสนอแข่งเช่นกัน

เป็นอันว่า "สารตั้งต้น" สู่การเดินหน้าตามกลไกรัฐสภาชุดใหม่

ก้าวไกล-เพื่อไทย "ล้มบนฟูก" ได้สวยงาม!

ส่วน "ขั้นตอนต่อไป" คือ การโหวตเลือก "นายกฯ คนที่ ๓๐" คือวันที่ ๑๔ กรกฎา.

ซึ่งตรงวันทลายคุกบัสตีย์ของการปฏิวัติฝรั่งเศสและวันเกิด "พรรคไทยรักไทย" ที่เป็น "เพื่อไทย" วันนี้

"นายพิธา-ก้าวไกล" ด้วยเสียงตุนในกระเป๋าจาก ๘ พรรค ๓๑๒ เสียง จะไปได้สวย จนถึงตำแหน่งนายกฯ คนที่ ๓๐ หรือไม่?

ก็ต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.อย่างน้อยอีก ๖๔ เสียง เพื่อให้ถึง "กึ่งหนึ่ง" ของสภาทั้งสอง คือ ๓๗๖ เสียงขึ้นไป ตามรัฐธรรมนูญกำหนด นั่นจึงจะถึงฝั่งฝัน

ก็ขอให้พิธาโชคดี ตามฤกษ์ปฏิวัติฝรั่งเศส

ได้เข้าไปทำหน้าที่ "ปฏิรูปคือปฏิวัติ" ชนิด "ถอนราก-ถอนโคน" ตามพิมพ์เขียว "แยกชาติ-ล้มสถาบัน" ของไอ้จานกับไอตี๋สมมโนรสเถิด

นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ

เพราะดู "ข้อแลกเปลี่ยน" สู่การตกลง ของการยกตำแหน่งประธานสภาให้ "พรรคที่ ๓" นั้น

"ก้าวไกล-เพื่อไทย" ระบุเป็นเงื่อนไข ดังปรากฏในข้อที่ ๔ ของแถลงการณ์ ว่า

พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยืนยันร่วมกันให้ความเห็นชอบกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน ซึ่งรวมถึง

-การนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง และ

-การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ

ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม, ร่างพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก

และร่างพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ

"กฎหมายสำคัญที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอ" มีอะไรบ้างล่ะ?

ก็มีทั้งสิ้น ๔๕ ฉบับ ๑ ใน ๔๕ ก็คือ "ยกเลิก/แก้ไข มาตรา ๑๑๒"!

รวมทั้ง สุราเสรี โสเภณีก้าวหน้า LGBTQ ก้าวไกล

แล้วยังให้ยกเลิกการห้ามฆ่าสัตว์ใหญ่ในวันพระ

ยกเลิกการห้ามดื่ม, ห้ามจำหน่ายสุราในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้ขาย/ให้ดื่มสุราได้ ๒๔ ชั่วโมง

และเพื่อความเสมอภาค.....

ให้พระสงฆ์, นักบวช เข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งได้!

ทั้งการแยกแผ่นดินปกครอง โดยรูปแบบให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทำหน้าที่ "นายกฯ จังหวัด" ทั้งประเทศ ไม่ต้องขึ้นกับมหาดไทย

นี่คือส่วนหนึ่งของ "กฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน"

ที่ "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ตกลงจะร่วมกันผลักดันให้ผ่านความเห็นชอบของสภา

ส่วนเรื่องนิรโทษกรรม

ใครที่ถูกดำเนินคดี ตั้งแต่ช่วง ๒๐ พฤษภา.๕๗ ก่อนพลเอกประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจประเทศ ๒ วัน คือก่อน ๒๒ พฤษภา.และต่อจากนั้่นเรื่อยมา

ก้าวไกลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ แต่ไม่นิรโทษฯ ให้เจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งรัฐบาล คสช.ขณะนั้น

กับคำถามที่ว่า.....

แล้วผู้ต้องคดีชุดก่อนๆ รวมทั้งพวกที่หนีไปอยู่ต่างประเทศล่ะ จะนิรโทษฯ ด้วยมั้ย?

ก้าวไกล "อมเม็ด" ไว้ว่า...

"สามารถพิจารณาขยายการคืนความยุติธรรมไปก่อนหน้าปี ๕๗ และกำหนดเกณฑ์สำหรับการกลั่นกรองคดีดังกล่าวได้"

Mr.โทนี่กับ Ms.มาลีโกลเด้น ค่อยมีความหวังหน่อย     กระมิดกระเมี้ยนแบบนี้ดีแล้ว

ขืนทำโฉ่งฉ่างเหมือนตอนเหมาเข่ง แทนที่จะได้กลับอย่างเท่ๆ จะกลายเป็น "โทนี่เอ๋ง" ซะก่อน

แล้วสนธิสัญญาปฏิรูปกองทัพที่ "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ตกลงกันจะดันให้ผ่านสภา มันมีอะไรบ้างล่ะ?

ที่สำคัญๆ คร่าวๆ นะ......

๑.แจกใบแดงนายพล หลังเกษียณ ๗ ปี ห้ามเป็นรัฐมนตรี

๒.ริบอำนาจ ผบ.เหล่าทัพ ใช้ระบบ "เสนาธิการร่วม" เพื่อป้องกันรัฐประหาร

๓.ยกเลิก "สภากลาโหม" ว่ามีอำนาจเหนือรัฐบาลพลเรือน

๔.ตั้งผู้ตรวจการกองทัพที่มาจากสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการทำงานของกองทัพ

๕.ยกเลิก "ศาลทหาร"

๖.ลดกำลังพลลง ๓๐-๔๐%

-โดยลดจำนวนนายพลเหลือ ๔๐๐ นาย

-ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนทหารกองประจำการหรือพลทหาร

-ควบรวมสำนักปลัดกลาโหมเข้ากับกองบัญชาการกองทัพไทย

๗.โอนการถือครองที่ดินกองทัพกลับมาเป็นของกรมธนารักษ์ แล้วจัดสรรที่ดินให้ประชาชน

๘.ยุบ กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร)

๙.ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกในจังหวัดชายแดนใต้

๑๐.ยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคง ๒๕๕๑

ต่อจากนี้สำคัญ.........

เท่าที่ฟังนักข่าวถามอาจารย์วันนอร์เกี่ยวกับความเห็นในข้อตกลงของ "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ว่า

"รวมถึงออกกฎหมายยกเลิก/แก้ไขมาตรา ๑๑๒ ด้วยหรือไม่" ซึ่งอาจารย์วันนอร์บอกว่า "ไม่"

แต่ในกฎหมาย ๔๕ ฉบับ ที่ก้าวไกลเตรียมเสนอเข้าสภานั้น มันหราอยู่ในนโยบายก้าวไกล

วันนี้จะยกมาเป็นแซมเปิล วันหลังจะเอารายละเอียดที่เป็นตัวร่างกฎหมายซึ่งก้าวไกลทั้งผลัก-ทั้งดันเข้าสภา ตั้่งแต่สมัยที่แล้วมาให้ดู

ตามข้อเสนอของการยกเลิก พ.ร.บ.ความมั่นคงของก้าวไกล รายละเอียด มีว่า

-ลดโทษของกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ให้มีความสอดคล้องกับหลักสากล

โดยให้เหลือเพียง จำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีพระมหากษัตริย์

จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณี พระราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

และโทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาจะถูกลดลงจากโทษจำคุก ๐-๒ ปี เหลือแค่โทษปรับ

-ย้ายกฎหมายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ออกจาก "หมวดความมั่นคง" ให้เป็นความผิดที่ยอมความได้

-โดยกำหนดให้ "สำนักพระราชวัง" เป็นผู้มีสิทธิแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว

-บัญญัติใหม่ในกฎหมาย ให้คุ้มครองกรณีการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตหรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

-ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับเหตุยกเว้นความผิดและเหตุยกเว้นโทษสำหรับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา

-แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ ห้ามไม่ให้นำสู่การดำเนินคดีกับผู้ใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหรือติชมโดยสุจริต

-แก้ไข พ.ร.บ.คอมพ์ ไม่เปิดช่องให้ตีความอย่างกว้างขวางไปถึงการจำกัดการแสดงความเห็นทางออนไลน์

เนี่ย....

เท่ากับแก้รัฐธรรมนูญ หมวด ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ เป็นแบ่งแยกได้

และหมวด ๒ เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ให้ละเมิดได้ โดยอ้างสิทธิการวิพากษ์-วิจารณ์

และให้เป็นคดี "ยอมความได้"

ดึงพระมหากษัตริย์ลงมาเป็นคู่กรณีกับประชาชน โดยใครจะไปแจ้งความตามมาตรา ๑๑๒ ไม่ได้

ต้องให้พระมหากษัตริย์โดยสำนักพระราชวังเท่านั้น เป็นคู่กรณี

สรุป คือ ก้าวไกลจะแก้หรือเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ นำหมวด ๑ หมวด ๒ ออกจาก "หมวดความมั่นคง"!

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว.......

ท่านคิดว่า พิธาจะได้รับเสียงโหวตจาก ส.ส.และ ส.ว.ถึง ๓๗๖ เสียงขึ้นไป เพื่อให้เป็นนายกฯ คนที่ ๓๐ หรือไม่?

นั่นก็ยังไม่สำคัญเท่ากับว่า.....

ตราบใด "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ยังเป็นปาท่องโก๋

ตราบนั้น......

"รัฐบาลใหม่" ในสภาพ "ปาท่องโก๋" จะเกิดได้หรือไม่?         

คนปลายซอย