ชอบของ World Class ในราคาตำบล

ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ ช่วงบรรยากาศสงครามกลางซอยสุขุมวิทซอย 11 (ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องไร้สาระ และเป็นเรื่องไม่ควรให้ราคาก็ตาม) ผมขออนุญาตสวมหมวกคนขี้บ่น และในฐานะอดีตพระบวชเข้าพรรษา (ศิษย์วัดบวรฯ) วันนี้ขอเป็นการเทศน์กันและกัน ถึงแม้บางคนอาจถือว่าเป็นเรื่องเล็ก เรื่องไร้สาระ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ต้องมีคนพูดออกมาครับ

ทุกอย่างที่ผมพูดในวันนี้มาจากคอนเสิร์ต Taylor Swift ที่สิงคโปร์ครับ ผมขอถือโอกาสตรงนี้ยกนิ้วและปรบมือให้กับสิงคโปร์ที่ Make a Deal กับฝ่าย Swift ให้เธอจัดคอนเสิร์ตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเทศของเขา แทนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

บางคนได้ข่าวนี้ไปด่า แสดงความไม่พอใจกับสิงคโปร์ ว่าเอาเปรียบประเทศอื่น เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ แทนที่เจอยกนิ้วให้ ก็กลายเป็นยกนิ้วกลางให้ ด่าอะไรได้ก็ด่า บางคนก็บอกว่าสร้างระบบผูกขาด ดูถูกประเทศอื่น บางคนก็บอกว่าไม่ต่างกับให้สินบน Swift สารพัดต่างๆ นานาก็พูดออกมาครับ

ผมขอบอกว่า ก่อนจะด่าคนอื่น ก่อนจะกล่าวหาใคร โปรดมองตัวเองก่อนเลย

ถ้ามองตัวเองแล้วไม่เห็นอะไร อย่างน้อยตั้งคำถามเสียก่อน ที่สิงคโปร์ทำแบบนี้ได้ เพราะเขาเห็นแก่ตัวหรือ? ผมบอกเลยว่า สำหรับเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ถ้าไม่เห็นแก่ตัวจะเป็นผู้นำประเทศทำไมครับ? สิ่งที่สิงคโปร์ทำ ไทยเราทำไม่ได้ อย่าไปหลอกตัวเองว่าที่เราไม่ทำเพราะเราเป็นประเทศเห็นอกเห็นใจเพื่อนพ้อง เห็นอกเห็นใจเพื่อนบ้าน ถ้าพูดและคิดแบบนี้ก็มองโลกสวยต่อไป

ไทยเราทำแบบสิงคโปร์ไม่ได้ (ในเรื่องนี้) เพราะเรามองโลกระดับอินเตอร์ไม่เป็น เรายังมองโลกผ่านสายตาไทย ที่อยากให้ทุกคนรักเรา อยากให้ทุกคนเป็นเพื่อนกับเรา ดังนั้นไปประชุมที่ไหน เวทีอะไร เรามักจะเป็น The Good Boy/Girl เรามักจะตัดสินใจในทางที่ “เหมาะสม” “สมควร” เพราะไม่อยากให้คนประณาม แต่ผมไม่ได้หมายความว่า ตามเวที หรือการประชุมต่างๆ เราควรก้าวร้าวเพื่อก้าวร้าว หรือพูดอะไรก็ได้ ผมเชื่อมั่นในความสามารถของไทยในเวทีโลก

ที่ผมบอกว่าสิงคโปร์ดึง Swift มาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศเขาได้ และไทยทำไม่ได้ เพราะลองเอาไปคิดดูครับ ไม่ว่าคุณจะรักรัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดไหนก็ตาม นายกฯ คนปัจจุบัน (หรือนายกฯ คนก่อน) ประกาศว่า เราจะใช้งบประมาณร้อยกว่าล้านบาทให้ Swift มาจัดคอนเสิร์ตในไทย และจะเว้นภาษีหลายชนิดที่ Swift ต้องจ่ายในการจัดคอนเสิร์ตด้วย นายกฯ จะไม่โดนด่าหรือครับ?

คนจะออกมาด่าทั้งวี่ทั้งวัน ทางซ้ายบ้าง ทางขวาบ้าง จะโดนด่าทุกหนทาง จากทุกมุม (รวมถึงหนังสือพิมพ์ฉบับนี้) ด่าแล้วด่าอีก ด่าไม่หยุด “เอาเงินภาษีเราไปทำอะไร?” “ทำไมไม่สนับสนุนศิลปินไทย?” “อยากดูเองเหรอ?” “ลูกอยากดูเหรอ?” “ควรเอาเงินภาษีไปแก้ปัญหาคนยากจนดีกว่า” โดนด่าประเภทเสียทั้งคน เสียทั้งหมา

และสิ่งที่น่าทุเรศกว่านั้นคือ ถ้ารัฐบาลไทยไม่ฟัง คือก้มหน้า Make a deal กับฝ่าย Swift เหมือนที่สิงคโปร์ทำนั้น กว่าครึ่งหนึ่งที่ด่าจะขอตั๋วฟรี

งานที่ผมทำอยู่ ณ ตอนนี้ จะเป็นงานค่อนข้างอินเตอร์พอสมควร เป็นงานที่พยายามดึงคนระดับ World Class มาสัมผัสและทำงานให้กับสังคมไทย ซึ่งคนไทยเราพูดอยู่เสมอว่า “อยากให้ไทยสู่ระดับอินเตอร์” แต่พอทำงานตรงนี้เห็นได้ชัดว่า คนไทยจำนวนไม่น้อยไม่พร้อมครับ ลึกๆ แล้วคนไทยเราอยากได้ระดับ World Class จริง แต่ในราคาระดับตำบล

อย่าเข้าใจผมผิดครับ ผมไม่ได้ถือโอกาสตรงนี้ยกความดีให้สิงคโปร์หมด เขามีจุดหลายจุดที่เขาไม่ควรภูมิใจ และผมเคยเถียงกับพวกเขาหลายต่อหลายครั้ง เมื่อรู้สึกว่าเขาพยายามสั่งสอนคนอื่นมากเกินไป แต่ในครั้งนี้ถือว่าที่เขาสำเร็จ เพราะเขาทำได้ครับ เขาเห็นคุณค่าและเข้าใจการดึงศิลปินระดับโลกมาที่ของเขา เขาเข้าใจ วันนี้คือเกม และในสายตาของโลกเป็นเกมที่เขาสามารถชนะได้ เพราะเขาเล่นเป็น เขารู้กฎกติกา เขารู้เวที และเขารู้ว่ามันสำคัญอย่างไร ณ เวลานี้ ผมไม่เชื่อว่าไทยเราทำได้

และถึงแม้จะมีตัวอย่างที่สิงคโปร์ทำเป็นแม่แบบให้เรา ผมก็ไม่เชื่อว่าไทยเราทำได้

ย้ำอีกครั้ง ใครที่รู้จักผมจริงๆ จะรู้ว่าผมไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้สิงคโปร์ และจะรู้ว่าผมรักและหวังดีกับบ้านเรามากน้อยขนาดไหน แต่กับเรื่องนี้ ในภูมิภาคเรา เขาทำได้ และทำได้ประเทศเดียวเท่านั้น สำหรับในอาเซียนของเรา ถ้าพูดถึงประเทศระดับ World Class ถ้าเอาเข้าจริงมีแต่สิงคโปร์เท่านั้น ซึ่งผมเข้าใจว่าเขาไม่ได้เป็นประเทศ เขาเป็นเมือง การบริหารและพัฒนาเมืองมันง่ายกว่าบริหารและพัฒนาประเทศ เขาไม่มีพื้นที่ เกษตรกร หรือมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าและน้ำบาดาลไม่ถึงที่ทุรกันดาร ดังนั้นเวลาเขาพัฒนา เขาจะพัฒนาศักยภาพภูมิทัศน์ให้ดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนประเทศพวกเราๆ อำเภอเมืองไปทาง แต่ตำบลอาจตามไม่ทัน อันนี้ผมเข้าใจและไม่เถียงครับ

ในอาเซียน ประเทศถัดมาที่อาจเข้าข่าย World Class คือเราครับ มาเลเซียก็ไม่ถึง อินโดฯ ไม่ต้องพูดถึง ฟิลิปปินส์ก็ไม่ใช่ และประเทศอื่นๆ ไม่เข้าข่ายเลย แต่เวลาต่างชาติมองเรา เขาจะมองว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว อาหารอร่อย เมืองสนุก เมืองน่าเกษียณ จะมีน้อยคนบอกว่าเมืองสะดวกสบายในการทำธุรกิจ บริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่ถึงตั้ง สำนักงานใหญ่ภูมิภาคในสิงคโปร์ เพราะเขาอนุเคราะห์และสามารถดึงดูดบริษัทเหล่านั้นให้ทำธุรกิจได้แบบสะดวก แต่… เมื่อหมดประโยชน์เมื่อไหร่ เขาไม่เห็นหัวนะครับ…

อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ถึงแม้ไม่ได้เป็นบ้านเกิดก็ตาม ขอเป็นบ้านตายครับ ความจริงคือความจริง ผมก็อยากมีส่วนดึงไทยเราขึ้นระดับ World Class เพราะเรามีศักยภาพ (ลึกๆ) ที่ทำได้ แต่กรณีสิงคโปร์ในครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า พวกเรายังไม่พร้อม ดังนั้นอย่าไปด่าเขา เขาดึง Taylor Swift ไปได้ เพราะ…เขาทำได้

ย้ำอีกครั้งครับ ถ้าไทยเราคิดทำสิ่งที่สิงคโปร์ทำ คุณจะไม่เป็นคนหนึ่งที่ออกมาด่ารัฐบาลหรือครับ?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SEA Games แบบไทยๆ

คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ

ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?

“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”

'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?

เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า

'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'

วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน

SNAP ดีหรือไม่ดี?

ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม

Back to the Future…

กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน