
ไทย "ตัดไฟ" ส่งขายพม่าแล้ว ๕ จุด เช้าวาน (๕ ก.พ.๖๘)
ด้านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน, แม่สอด-เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และด้านสังขละ-พญาตองซู รัฐมอญ
ส่วน "เน็ต" ตัดหรือเปล่า ก็ไม่เห็นข่าวนะ
แล้วผลที่เกิดขึ้นเป็นไง?
ก็ไม่เป็นไง ที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโนสถาน ฝั่งพม่าของพวกจีนเทา-ไทยเทา-กะเหรี่ยงเทา น้ำยังคงไหล ไฟยังคงสว่าง เน็ตยังเร็วปรื๊ด
ธุรกิจต้มคน ค้ามนุษย์ ฟอกเงิน พนันออนไลน์ บ่อน ซ่อง ยัง continue เพราะมีเครื่องปั่นไฟและไฟฟ้าสำรองจากลาว
จะเดือดร้อนก็พวกชาวบ้านและอาคารทั่วไปนั่นแหละ ได้รับผลกระทบโดยตรง
แต่มันเป็นปัญหาที่พม่า โดย "รัฐมอญ-รัฐฉาน-รัฐกะเหรี่ยง" ก่อกันขึ้นเอง
ฉะนั้น ก็เป็นหน้าที่ที่พม่าและรัฐเหล่านั้น ต้องคิด-ต้องแก้ ไม่ใช่หน้าที่ของไทยจะต้องไปคิด-ไปทำแทนในบ้านเขาไปซะทุกเรื่อง!
ใจกว้างกับเขาไปทุกเรื่อง หนทางเรานั่นแหละ จะแคบ!
ถามว่า "ตัดไฟแล้ว ปัญหาค้ามนุษย์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จบมั้ย?"
"ไม่จบ" มีแต่จะเพิ่ม!
ตัดไฟ-เขามีไฟ, ตัดเน็ต-เขามีเน็ต-ตัดน้ำมัน-เขามีน้ำมัน
และตัด "ด้านพม่า" ด้านเดียว
ส่วนปอยเปต-ฝั่งเขมร ซึ่งเชื่อมเครือข่ายถ่ายเทกันโดยตรงกับทางพม่า ยังอะร้าอร่าม-สว่างไสว "ไทยบริการ" ทั้งเข้า-ออก น้ำไฟ เน็ต ครบทุกวงจร
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเราแก้แบบ "ลิงแก้แห" ทางที่ถูก เราควรหา "ต้นเหตุ"
ว่าประเทศไทยเรามี "จุดรั่ว-จุดบอด" ตรงไหน ที่เป็นช่องให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์-ค้ากาม แก๊งสแกมเมอร์ แก๊งฟอกเงิน "ลอยชาย" เข้ามาได้สบายๆ
ถึงขั้นใช้ "ประเทศไทย" เป็นทั้งแหล่ง-ทั้งแบรนด์ ล่อเหยื่อให้ตายใจ แล้วเดินเข้าไปในโพงพางโจร!?
นี่ เป็น "ต้นเหตุ" ต้องแก้ตรงนี้ ถึงจะได้ผล แม้ปัญหาไม่หมด แต่มันจะทุเลาอยู่ในจุด "ควบคุมได้" แน่นอน
ประเด็นมี "เจ้าหน้าที่รัฐ" บางคนร่วมขบวนการ "รับสินบาท-คาดสินบน" อำนวยความสะดวกให้โจรใช้ประเทศเป็นฐาน
ตรงนี้ "ละไว้" ในฐานที่เข้าใจและทำใจ......
ไทยเมืองพุทธ แต่กลับมากด้วยคนคด บกฏคิด ทั้งชื่นชอบคอร์รัปชัน บริหารประเทศ "ใช้เงินเป็นตัวตั้ง" แทนรังสรรค์สังคมชาติ!?!
แล้วมันจะรอดหรือ ชาติบ้านเมืองน่ะ!?
ที่เห็นๆ รัฐบาล "คิดด้านเดียว" คือจะเมกรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่มองผลกระทบด้านอื่น
จึงเปิด "ฟรีวีซ่า" นักท่องเที่ยว!
ขายท่องเที่ยวน่ะดี แต่ขายโดยไม่คำนึงด้านสังคม ด้านความมั่นคง ด้านความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง นั่นไม่ดี
การเปิดฟรีวีซ่า คืออ้าซ่าประเทศ ใครเข้ามาก็ได้ ไม่ต้องคัดกรอง-คัดเกรดใดๆ ทั้งสิ้น
ภาพที่้เห็น ซุงไหลมาไม่กี่ต้น แต่ขยะไหลถมทับเข้ามากับ "ฟรีวีซ่า" เป็นตันๆ
จนคนไทยที่ไม่เคยรังเกียจนักท่องเที่ยว ตอนนี้ เริ่มออกปาก
บ่นเอือมระอากับนักท่องเที่ยวประเภท "ไม่มีหัวนอนปลายตีน" เข้ามาแล้วสร้างปัญหา ทั้งอาชญากรรม ทั้งทำทุราจาร ทั้งหยาบกร้านมนุษย์ดิบ-มนุษย์เถื่อน
รายได้จากนักท่องเที่ยวเชิงปริมาณ พูดกันตรงๆ ไม่คุ้มกับความเสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศและความเสื่อมทรามทางสังคม ที่นักท่องเที่ยวเชิงขยะก่อขึ้น
ในอีกทาง......
"ฟรีวีซ่า" เท่ากับเปิดประเทศให้อาชญากรข้ามชาติ ทุรชนนานาชาติ คนไร้งาน-ไร้อาชีพ รวมทั้งขอทานและบริการทางเพศ หญิงชาย, ไม่หญิง-ไม่ชาย
เข้ามาเป็นหัวให้รัฐบาลที่ "มุ่งเงิน-มุ่งปริมาณ" นับเป็นตัวเลขอวด
ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวปริมาณเชิงขยะนั้น
แปลงไทยที่มีขนบธรรมเนียม-วัฒนธรรม-ประเพณี วัดวาอาราม ศาสนสถาน ผู้คนจิตใจ-น้ำใจงดงาม
ให้กลายเป็น....
"ศูนย์กลางยาเสพติด-ศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ-ศูนย์กลางค้ามนุษย์-ศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์" และ ฯลฯ
ฟรีวีซ่า "เปิดประตู" ให้โจร ให้สารพัดมิจฉาชีพลอยชายเข้ามาหลบซ่อนในประเทศ
และตั้งแก๊งสารพัดรูปแบบ ก่อระยำทำเข็ญ ซึ่งจะเป็นปัญหา "ระดับชาติ" ยากแก้ไขในอนาคต
บางพรรคการเมือง แทนที่จะเป็นปากเสียงให้ประเทศในทางป้องกัน แก้ไข
กลับเป็นปากเสียงให้พวกหนอนบ่อนไส้บ้าง ให้กลุ่มแรงงานต่างชาติบ้าง กลุ่มผู้อพยพ กลุ่มลักลอบหนีเข้าเมืองบ้าง
ในทางยุยงให้เรียกร้องสิทธิต่างๆ นานาเท่าเทียมคนไทย
กระทั่งยุยงส่งเสริมให้เหิมเกริม ชุมนุมเรียกร้องสิทธิการปกครอง รวมทั้งค่าแรง-สวัสดิการเหนือกว่าคนไทยด้วยซ้ำ
บางรัฐมนตรี อยากเป็นขวัญใจพวกกาฝากประเทศ กุลี-กุจอจะแก้กฎหมาย....
จะให้สิทธิกินอยู่ รักษาพยาบาลฟรี ในขณะที่คนไทย ตื่นตี ๔ ตี ๕ ยังไม่วายถูก เขมร-พม่า ที่นายหน้าขนเข้ามาแย่งคิวรักษาไปก่อน จนล้นโรงพยาบาลทุกวัน
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ ที่ต่างชาติยกโขยงเข้ามาตั้งแก๊ง มีพฤติกรรมเป็นตัวอย่างเลวให้ "ไทยสังคมอ่อน" ไหลตามขยายวงกว้าง นั่นมิใช่เพราะ "ฟรีวีซ่า"
แม้ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ที่ลามเมืองปานเชื้อรา ก็ฟรีวีซ่านี่แหละ!
"พัทยา-ภูเก็ต-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ" กระทั่งตามเกาะ-แก่งต่างๆ มาเฟียไทย ชิดซ้าย เพราะแก๊งต่างชาติ มันใหญ่ คุมเมืองไปแล้ว
และนี่...
เมืองชายขอบ-ชายแดน ที่เป็นเสน่ห์ไทย วันนี้ มันกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว
อ่านที่คุณหมอผู้หญิงท่านหนึ่งโพสต์ดูก็ได้ แล้วท่านจะเข้าใจ โดยไม่ต้องให้ผมพร่ำ
...........................
หมอบ่น AggressiveDoctor”
“เพลียกับพวก ห นี่
#เมืองปายไม่น่าอยู่แล้ว”
“สวัสดีค่ะ หนูเป็นแพทย์ รพช.อยู่ที่อำเภอปาย จังหวัดชายแดนที่มีฝรั่งอิสราเอล มาอาศัยอยู่เยอะมาก ทุกวันที่ได้ตรวจจะเจอปัญหาซ้ำๆ
-ชี้หน้าด่าหมอ วุ่นวาย ล่าสุด โชว์นิ้วกลางใส่หมอ
-ไม่เชื่อหมอประเทศไทย แต่มาตรวจ (ส่วนมากจะมานอกเวลาราชการ) แล้วบอกจะถามหมอตัวเอง ว่าหมอตัวเองสั่งให้ทำแบบนี้
-สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ในโรงพยาบาล
-ไม่จ่ายเงิน ขโมย
-ทุบประตูอีอาร์
-เปิดร้านสอนขับรถ เปิดโบสถ์ และให้ตำรวจไปเฝ้า
-รถชนรถล้มมาบ่อยๆ ไม่มีใบขับขี่
-ชอบด่าพยาบาล ไม่ยอมให้เจาะเลือด ไม่ยอมให้ทำแผล
เคยส่งเรื่องไปให้อำเภอ ร้องเรียนไปแล้ว
แต่ว่าอำเภอแจ้งกลับมาว่า "อย่าทำลายการท่องเที่ยวแบบนี้" หนูร้องเรียนใครได้อีกบ้างไหม เหนื่อยมากๆ กับการคุยกับคนไข้อิสราเอล
รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ถ้าไปเจอข้างนอก กลัวจะโดนรุม สุดท้ายคงไม่พ้นได้ลาออกค่ะ
------------------------------------
และนี่ เป็นข่าวเดือนก่อน อ่านดูนะ
White news
13 มกราคม เวลา 13:37 น. ·
Social : ชาวปายลุกฮือ! ร้องจัดการชาวอิสราเอลแย่งอาชีพ-เปิดกิจการเถื่อน
สอดคล้องกับรายงานจาก Haaretz สื่อชั้นนำของอิสราเอลที่ระบุว่า "ชาวอิสราเอลจำนวนมากกำลังย้ายถิ่นฐานมายังประเทศไทย"
ชาวอำเภอปายรวมตัวร้องเรียนปัญหาชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาวอิสราเอล ลักลอบเปิดกิจการและทำงานผิดกฎหมาย
ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตคนท้องถิ่น ท่ามกลางกระแสการอพยพของชาวอิสราเอลเข้าสู่ประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับรายงานจากสื่อชั้นนำของอิสราเอลที่ระบุว่า ชาวอิสราเอลจำนวนมาก กำลังย้ายถิ่นฐานมายังประเทศไทย เพื่อหลีกหนีสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศ
โดยหลายราย เลือกเปิดธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากค่าครองชีพที่ต่ำกว่าประเทศตะวันตก
วันที่ 8 มกราคม 2568 กลุ่มผู้ประกอบการชาวปายนำโดยนายคณิต เพียรพิสูจน์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสถานีตำรวจภูธรปาย
โดยมี พ.ต.อ.สำเร็จ สามสีทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปาย และ พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน เป็นผู้รับเรื่อง
ตัวแทนกลุ่มผู้ร้องเรียนระบุว่า พบการลักลอบประกอบธุรกิจผิดกฎหมายของชาวอิสราเอล ในพื้นที่อำเภอปายเป็นจำนวนมาก
ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ โฮมสเตย์ และธุรกิจเช่ารถ โดยบางราย ใช้วิธีจ้างคนไทยเป็นนอมินี เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการท้องถิ่น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากจะเร่งตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด
พร้อมขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสหากพบการกระทำผิดกฎหมายของชาวต่างชาติในพื้นที่
"ปัญหานี้ กระทบโดยตรงต่อธุรกิจท้องถิ่นและความสงบของเมืองปาย เราไม่สามารถปล่อยให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อไปได้" นายคณิตกล่าว
พร้อมระบุถึงปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งการละเมิดกฎจราจร การสูบกัญชาในที่สาธารณะ และการจัดปาร์ตี้เสียงดังเกินเวลา
กลุ่มผู้ร้องได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศูนย์ดำรงธรรมและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในพื้นที่
ด้าน "ผู้กองเบนซ์" ผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของชาวอิสราเอลในอำเภอปาย โดยระบุว่า
มีการตั้งสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวยิวบริเวณใกล้สถานีตำรวจ พร้อมมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายรายแสดงความกังวลต่อแนวโน้มการขยายตัวของชุมชนชาวอิสราเอลในพื้นที่
โดยหนึ่งในความคิดเห็น ระบุถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการแบ่งแยกพื้นที่และการเลือกปฏิบัติต่อคนท้องถิ่น
เปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ของกรุงเยรูซาเล็ม
ที่มา : คนลานนา
haaretz
Capt.Benz
.....................................
อุ๊งอิ๊งให้ตัดไฟในพม่าแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ขณะเดียวกันอุ๊งอิ๊งดันสุดตัว ให้เปิดกาสิโน ให้พนันออนไลน์ "ถูกกฎหมาย" ในไทย
ก็หมายความว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งฟอกเงินในไทย ก็จะ "ถูกกฎหมาย" ตามไปด้วย
เพราะแก๊ง กับกาสิโน, พนันออนไลน์ ก็เหมือนแดดกับพยับแดด, หมากับหัวหน้าคอกหมา
มันก็ "ตัวเดียวกัน" นั่นแหละ!
-เปลว สีเงิน
๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
คนปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘หลวงพ่อสายทอง’
ปีใหม่ไปไหนกันจ๊ะ? -กลับไปเยี่ยมบ้านตามภูมิลำเนา -ไปท่องเที่ยว-พักผ่อน สุดแต่ตีนพาใจไปเท่ๆ
‘ไทยเฮฮา-กัมพูชาร้องไห้’
แล้วก็อีกปี.... จาก ๒๕๖๘ มาถึง ๒๕๖๙ จนได้! ตอน “๒ ยาม” ๓๑ ธันวา. ๖๘ เชื่อมต่อ ๑ มกรา. ๖๙ “ฮอตไลน์-สายด่วน” บอกเขมรเขาหน่อยนะ ว่าไทยจะจุดพลุตูมตามถวายเทวดา ในวาระ “ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่”
ดูท่า 'ยก ๓' จะมาเร็ว
ใกล้วันปีใหม่..... กรุงเทพฯ "ยัดทะนาน" ด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปักหมุดมาเคาต์ดาวน์ “บางกอก”
กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม
กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ
‘หยุดยิง’ ไม่ใช่ ‘หยุดรบ’
ช่วงนี้ เป็นช่วง “พักรบ” ยังไม่ใช่ช่วง “จบศึก” ระหว่างไทย-เขมร หรอก! มวย One Championship เขามี ๓ ยก ศึก “ไทย-เขมร” นี่เหมือนกัน เกจิทางยุทธการบอก น่าจะมี “ยกที่ ๓” แต่ตอนไหน...ไม่รู้

