
วัน-เวลาที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่ เป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวพอดีครับ ทำให้รู้เลยว่าในโลกนี้ใครจะรวย จะมีอำนาจล้นฟ้าขนาดไหน ในที่สุดเราจะสู้ธรรมชาติไม่ได้
ครั้งสุดท้ายที่ผมอยู่ในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ผมอยู่อินโดนีเซียครับ ตอนนั้นผมดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) และเป็นวันที่ผมมีประชุมกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอาเซียน
อินโดนีเซียจะมีคณะทูตแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกคือ สถานทูตและทูตประจำประเทศ เช่น
สถานทูตไทยประจำอินโดนีเซีย เอกอัครราชทูตไทยประจำอินโดนีเซีย ที่ทำหน้าที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียกับประเทศไทยเป็นหลัก ส่วนอีกชุดหนึ่งคือ เอกอัครราชทูตประจำอาเซียน อย่างเช่น เอกอัครราชทูตไทยประจำอาเซียน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในสำนักเลขาธิการอาเซียน เป็นตัวแทนประเทศไทยในเรื่องของอาเซียนทั้งหมด ซึ่งทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน มีทูตประจำอาเซียนครับ
คณะทูตประจำอาเซียนเรียกว่า Committee of Permanent Representatives (CPR) เปรียบเสมือนทำหน้าที่เป็นหน่วยงานตรวจสอบการทำงานของสำนักเลขาธิการอาเซียน ดูแลงบประมาณ ค่าใช้จ่าย แนวงานทำงานของอาเซียนเป็นหลัก ทูตประจำอาเซียน หรือคณะ CPR นั้น เป็นทูตเต็มอำนาจครับ ไม่ใช่รอง ไม่ใช่เทียบเท่า แต่เป็นทูตเต็มอำนาจ
คณะ CPR เป็นคณะทูตอาเซียนเท่านั้น แต่ประเทศอื่นๆ ที่มีทูตประจำอินโดนีเซีย สามารถมีทูตประจำอาเซียนต่างหากได้เหมือนกัน อยู่ที่กำลังและพลังของประเทศนั้นๆ ประเทศเล็กที่มีงบไม่พอ อาจมีเฉพาะทูตประจำอินโดนีเซีย และขอพ่วงมีความสัมพันธ์พิเศษกับอาเซียนได้ บางประเทศที่มีพลังไม่พอ อาจมีทูตประจำอินโดนีเซีย แต่ดูแลประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก็ได้เช่นเดียวกัน
แต่ประเทศที่มีความพร้อม จะมีทูตประจำอินโดนีเซีย และมีทูตประจำอาเซียนอีกต่างหาก หลายคนอาจถามว่าทำไมมีเฉพาะอินโดนีเซียในภูมิภาคเราที่มีระบบนี้ เพราะสำนักเลขาธิการอาเซียนตั้งอยู่ที่อินโดนีเซียครับ
ขอเท้าความอีกนิดหนึ่งครับ AIPA ของผม (ตอนนั้น) ไม่ได้อยู่ที่สำนักเลขาธิการอาเซียน AIPA (ตอนนั้น) ตั้งอยู่ในอาคารรัฐสภาอินโดนีเซีย เราจะอยู่ซีกหนึ่ง ตึกบัญชาการของสภาเขา ซึ่งในชั้นอื่นๆ จะเป็นชั้นของประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ ประธานกรรมาธิการต่างๆ…และ AIPA… ถือว่าเราเป็นเอกเทศของเรา อยู่ในโลกของเรา ถ้ามีอะไรขาดเราก็ขอเขา เพราะเราไม่ต้องเสียค่าเช่า ค่าไฟ ค่าน้ำ เนื่องจากสภาเขาออกให้หมด ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ดี อยู่กันอย่างราบรื่น…. ถ้าเผื่อเจอผู้บริหารที่คุยกันรู้เรื่องและไม่เรื่องมาก แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รู้เรื่องและเรื่องมาก ก็ถือว่าเหนื่อยหน่อยครับ ผมโชคดีที่ผมไม่เรื่องมาก ไม่เรื่องเยอะ และคนที่ผมต้องดีลด้วยถูกคอถูกใจกัน เลยค่อนข้างจะราบรื่นครับ เปรียบเทียบกับคนก่อนผม ที่เรื่องเยอะ พูดมาก และกร่าง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง AIPA กับสภาอินโดนีเซียตึงเครียดตลอดวาระของเขา
อาคารบัญชาการที่ผมอยู่กัน ถ้าดูจากภายนอก ดูเป็นโซเวียตมาก เป็นอาคารที่ไร้เสน่ห์ เป็นอาคารที่ไร้ความสวย และดูเหมือนว่าเป็นอาคารที่แข็งแกร่งมากๆ ผมยังขำ ตอนเห็นครั้งแรกผมเปรียบเสมือนเป็น Transformer ที่แปลงรูปจากหุ่นยนต์มาเป็นตึก เพียงแต่ดูไม่ออกว่าอาคารนี้เป็นหุ่นยนต์ หรือเป็นตึกกันแน่ เข้าไปในอาคาร ทุกอย่างเย็นชา มีทางเดินที่กว้างใหญ่ แต่พอขึ้นมาตามชั้นต่างๆ ที่ทำงานจะแคบลงๆ จนเหมือนอัดแน่น
ในวันดังกล่าวที่ผมสัมผัสแผ่นดินไหวที่นู่นเป็นวันที่ผมต้อนรับทูตรัสเซียประจำอาเซียนที่เพิ่งจะเริ่มดำรงตำแหน่งใหม่ๆ ต่างฝ่ายต่างเน้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และพยายามหาแนวร่วมการทำงานระหว่างสมาชิกสภาในอาเซียนกับสภารัสเซีย เพราะสิ่งที่ผมพยายามผลักดันตลอดคือ AIPA ไม่ใช่เพียงองค์กรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียนอย่างที่หลายคนเข้าใจ
เพราะถ้าบอกว่า AIPA เป็นฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียน นั่นหมายความว่า AIPA มีสภาใช่ไหมครับ? นั่นหมายความว่า AIPA ออกกฎหมายได้ใช่ไหมครับ? คำตอบคือไม่ ผมบอกเลยว่า ในชาติพวกเรา อาเซียนไม่มีวันที่จะมีสภาของเขาได้ และ AIPA ไม่มีวันจะมีอำนาจออกกฎหมายอะไรได้ทั้งนั้น หน้าที่หลักของ AIPA คือออกมาตรการ (Resolutions) เพื่อเสนอให้รัฐบาล โดยไม่มีกฎหมายรองรับอะไร และไม่มีกฎหมายผูกมัดอะไร เพียงแต่เป็น “คำแนะนำ” ส่วนรัฐบาลจะฟังหรือไม่ฟัง จะทำตามหรือไม่ก็แล้วแต่
ผมเลยต้องเปลี่ยน Story ตรงนั้นมาเป็น AIPA เป็นตัวแทนสมาชิกรัฐสภาในอาเซียนกว่า 3,000 คน ไม่ว่าคุณจะเป็น สส. สว. Councilor หรือ Congressman ไม่ว่าคุณจะถูกเลือกตั้งโดยตรง จะถูกแต่งตั้งโดยตรง จะมีระบบอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคุณเป็นสมาชิกสภาของคุณในอาเซียน คุณเป็นสมาชิก AIPA โดยอัตโนมัติ อันนี้เป็น Story ที่ผมผลักดันตลอด เลยสร้างความสนใจให้กับทูตประเทศต่างๆ และในวันนั้นเป็นทูตรัสเซียประจำอาเซียนครับ
พอเสร็จการหารือ ผมก็ไปส่งท่านทูตหน้าลิฟต์ตามมารยาทและตามธรรมเนียม แต่ระหว่างยืนรอลิฟต์ อยู่ๆ ตึกเซ ตึกสั่น เซและสั่นไม่น้อยกว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในวันดังกล่าวที่อินโดนีเซีย ตึกเซแบบเซจริงๆ เซจนคนล้ม และเดินไม่ไหว
ช่วงเกิดเหตุ ผมพยายามบอกท่านทูตว่าลงบันไดหนีไฟดีกว่า แต่พอพูดปุ๊บ ลิฟต์มาพอดี เขาและทีมงานพร้อมกับเจ้าหน้าที่สภาหลาย 10 รายพยายามเบียดเข้าลิฟต์ให้ได้ และในที่สุด เข้าเท่าที่เข้าได้ แต่ผมวิ่งไปที่บันไดหนีไฟ เพื่อเดินลงไป 5-6 ชั้น ซึ่งระหว่างเดินไป ตึกยังเซอยู่ครับ พวกเราที่เดินลงบันไดหนีไฟ เดินมีระเบียบกันมาก เดินรีบก็จริง แต่คนส่วนใหญ่ใจเย็น
พอถึงข้างล่าง และยืนอยู่นอกตึก ถึงเจอทีมงานและลูกน้อง AIPA ทุกคน ซึ่งต่างคนต่างตกใจ และห่วงใยซึ่งกันและกัน พวกเราต้องยืนอยู่ข้างนอกตึกนานพอสมควรครับ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก เลยยืนอยู่สักพักใหญ่ ยืนจนซื้อไอติมกิน และจากตรงนั้น ทีมงานเล่าให้ฟังว่า อาคารที่เราอยู่ อาคารที่หน้าตาเหมือนรถถัง ที่ไร้เสน่ห์และไร้ความอบอุ่นนั้น เป็นตึกที่แข็งแกร่งสุดในพื้นที่สภา เป็นอาคารที่ออกแบบเพื่อรองรับสถานการณ์ทุกสถานการณ์ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่าจะมีสักกี่สถานการณ์ที่ต้องเตรียมเผื่อไว้ จะมีอะไรบ้าง
ในระหว่างที่พวกเรายืนกินไอติมกันอยู่ เขาถามผมกันว่า แล้วท่านทูตรัสเซียออกจากตึกอย่างไร?
ผมบอกว่าผมไม่เห็น แต่สันนิษฐานว่าน่าจะลงลิฟต์ได้มั้ง ปรากฏว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ ผมได้เจอท่านทูตในงานใดงานหนึ่ง เลยถามท่านว่า วันเกิดแผ่นดินไหว ท่านออกจากตึกอย่างไร ท่านบอกว่าหลังจากขึ้นลิฟต์แล้ว เขาต้องจอดทุกชั้น เพราะทุกชั้นกดลิฟต์ลงทั้งนั้น และในทุกชั้นจะมีแต่คนพยายามเบียดเข้ามา จนประตูปิดไม่ได้ แต่คนก็ยังเบียดเข้ามาอยู่ดี ท่านเห็นว่าสถานการณ์ไม่น่าจะดีกว่านี้แล้ว เลยตัดสินใจออกจากลิฟต์เพื่อเดินลงบันไดหนีไฟ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ในบ้านเรา จะเป็นความทรงจำที่อยู่ในใจพวกเราตลอด เพราะเป็นแผ่นดินไหวที่น่ากลัว และถึงแม้บ้านเราจะมีปัญหามากน้อยขนาดไหนก็ตาม ในยามฉุกเฉิน ในยามวิกฤต คนไทยไม่ทิ้งกันครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SEA Games แบบไทยๆ
คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ
ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?
“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”
'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?
เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า
'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'
วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน
SNAP ดีหรือไม่ดี?
ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม
Back to the Future…
กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน

