ทักษิณ ‘ใกล้สิ้นตาเดิน’

เหตุผลสุดติ่งกระดิ่งแมวของเธอ คือ เพื่อความเสมอภาค เพราะเชื่อว่า จะมี สว.เกินกึ่งหนึ่ง น่าจะถูกยื่นข้อกล่าวหา และกระบวนการนี้ดำเนินการอยู่

แปลว่า “ที่มาของ สว.ไม่ชัดเจน” ว่ามาโดยถูกต้องชอบธรรม สุจริตหรือไม่?

ดังนั้น หากเข้าไปทำหน้าที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ ก็จะเป็นการ “ขัดกันแห่งผลประโยชน์” ทันที          

“เพราะเมื่อ สว.ได้เห็นชอบองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบที่มาของ สว. จึงมีลักษณะ “ต่างตอบแทนกัน” ไม่ใช่การตรวจสอบที่สุจริตโปร่งใสยุติธรรม”

(ขออนุญาตคราง “อื้อฮือ” ในวิสัยทัศน์ NG-O พันธุ์ใหม่แกะกล่องรายนี้ ด้วยสุดทึ่ง) และเธอยังให้เหตุผลต่อไปอีกว่า

“นอกจากนั้นแล้ว หากกระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระเดินหน้าอาจจะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระที่อาจถูกร้องว่าเป็นโมฆะได้

หาก สว.ฐานะผู้ที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระนั้นถูกชี้ว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ”

ดังนั้น เมื่อมีความไม่ชัดเจน.....

จึงอยากให้ สว.หยุดปฏิบัติเฉพาะส่วน ไม่ควรไปต่อ ขอให้หยุดจนกว่ากระบวนการตรวจสอบสิ้นสงสัย

เมื่อกระบวนการตรวจสอบ สว.แล้วเสร็จ การกลับเข้าสู่การเลือกกรรมการองค์กรอิสระใหม่ ดิฉันมองว่าไม่สายเกินไป และดีกว่าการดันทุรังให้เกิดการเห็นชอบ”

อืมมมม...ตกลง ใครเป็นฝ่าย “ดันทุรัง” ก็ยังสงสัยนะ!?

เห็น สว.นันทนาบอก จะล่าชื่อ สว.ไอคิวเดียวกันและยื่นคำร้องผ่านประธาน สว. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ (๑๙ พ.ค.๖๘)

รัฐสภาจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญ ๒๘ พ.ค.นี้

ตามโปรแกรมวุฒิสภาจะประชุม ๓๐ พ.ค. มีการโหวตตั้ง กมธ.สอบประวัติและความประพฤติบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.หนึ่งชื่อ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ๒ คน

รวมถึงการโหวต “เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ” กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ ๓ คน ด้วย

ทั้ง ๒ รายการนี้ สว.นันทนา จะร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย สั่งให้ ๒๐๐ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน!?

ผมฟังเธอจ๋อยๆ หน้าจอแล้วก็คันกับอัจฉริยคิดของ NG-O พันธุ์ใหม่คนนี้

ก็ไม่แน่ใจ ในฐานะ สว.พันธุ์ใหม่ เธอได้ศึกษารัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพของ สส.และ สว.หรือยัง ถึงได้ฉอดๆ ว่า

“หากกระบวนการเห็นชอบองค์กรอิสระเดินหน้า อาจจะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ที่อาจถูกร้องว่าเป็นโมฆะได้ หาก สว.ฐานะผู้ที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระนั้นถูกชี้ว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ” นั่นน่ะ

ไม่ใช่อะไรหรอก.....

ในฐานะสมาชิกรัฐสภา “ผู้ออกกฎหมาย” เป็นถึงดอกเตอร์ มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ยิ่งประกาศตัวเป็นคนพันธุ์ใหม่ด้วยแล้ว เมื่อแถลงข่าวไปอย่างนั้น

คนที่ไม่รู้เรื่อง-รู้ราว เกิดหลงเชื่อ ก็จะ NG-O ไป

ส่วนคนที่รู้เรื่อง-รู้ราว ไม่เชื่อตาม ก็ NEO ไป!

ผมจะไม่แจกแจงละว่าเพราะอะไร อยากให้ สว.นันทนาอ่านรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน มาตรา ๘๒ เอาเอง

..........................................

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๘๒ บัญญัติว่า 

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา

มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งแห่งสภานั้นสิ้นสุดลงตามมาตรา 101 (3) (5) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (12) หรือมาตรา 111 (3) (4) (5) หรือ (7) แล้วแต่กรณี

และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้อง ส่งคำร้องนั้น ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกผู้นั้นสิ้นสุดลงหรือไม่

เมื่อได้รับเรื่องไว้พิจารณา หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้อง มีกรณีตามที่ถูกร้อง

ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สมาชิกผู้ถูกร้อง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยแล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งคำวินิจฉัยนั้นไปยังประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องตามวรรคหนึ่ง

ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า....

“สมาชิกภาพของสมาชิกผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง” ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่

“แต่ไม่กระทบต่อกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปก่อนพ้นจากตำแหน่ง”.............

...........................................

เขียนตัวใหญ่ไว้หน่อย เห็นเธอใส่แว่นโต เกรงว่าสายตาสั้นจะอ่านไม่เห็น

และวันนี้เหมือนกัน ๑๙-๒๑ พ.ค. “อนุฯ ไต่สวนฯ ของ กกต.” เรียก สว. ๕๕ สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหาและเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” ที่ กกต. ถนนแจ้งวัฒนะ

โดยแบ่งเรียกเป็นชุดๆ ไม่พร้อมกันทั้ง ๕๕ คน!

ก็อยากบอกแฟนๆ ว่า ภาพยนตร์เรื่อง “ปฏิบัติการจองเวรแดง-น้ำเงินอันสุนทร” นี้ เป็นหนังประเภทซีรีส์ ฉายต่อเนื่อง หลายตอนกว่าจะจบ

เผลอๆ ไม่จบซะด้วยซ้ำ!?

ที่อนุกรรมการไต่สวน กกต.เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาวันนี้ แค่ไตเติล “เปิดหัวม้วน” ปูเสื่อกางมุ้งนอนรอหน้าจอไปเถอะ กว่าจะถึงเนื้อเรื่อง

โน่นแหละ ปลายปี เรื่องจะถึง “กกต.ชุดใหญ่” หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!

กว่าจะถึงตอนนั้น ผมว่า “กันยา.” ไม่น่าเกิน “ทำเนียบบ้านทรายทอง” มีสิทธิ์ “ปิดโรง” ไปก่อน!

ระหว่าง “สภาผู้แทนฯ” ที่ว่าแน่นปั๋งกับ “วุฒิสภา” ที่อยู่ในภาวะง่อนแง่น ลองเดากันเล่นๆ ซิว่า

“ใครจะอยู่-ใครจะไป” ก่อนกัน!?

ตามตลาดว่า น้ำเงินไปก่อน แต่ตามสายตาเซียน กลับต่อ “มุมน้ำเงิน” ๑๐ เอา ๑!

ช่วงนี้ พี่ สทร.ของผม ไม่รู้หายหน้าไปทางไหน ไม่โดดขึ้นคอน ตีปีก โก่งคอขันเหมือนก่อน ชักเป็นห่วง เพราะหายเงียบ “ผิดปกติ”

ธรรมดาต้องออกมาแสดงวิสัยทัศน์นำประเทศ ขึ้นเวทีเดี่ยวไมโครโฟน “ขายโต๊ะ” ออกโทรทัศน์ หรือไม่ก็ เดินสายไปขันนอตบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัด

เที่ยวนี้ น่าจะ “ป่วยวิกฤต” เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยของจริง เพราะสภาพการณ์ เหมือน “หมากรุก” ที่เหลือแต่ตาให้ถอย

กับตาบังคับสู่ “ตาจน”!   

เป็นผม มีกี่ตีน ตอนนี้ ยกหมดทุกตีนขึ้นก่ายหน้าผาก เพราะอีก ๒๕ วัน ถึงวันศาลนัดพร้อมที่ “ต้องไป” แล้วใครจะหลับตาลง

อุ๊ย....ศุกร์ ๑๓ ซะด้วย!

“ใจป่วย-กายก็ทรุด” แหละ เพราะทุกสิ่งมีใจเป็นประธาน “สำเร็จ-ล้มเหลว” อยู่ที่ใจ!

“ดวงลูก” กับ “ดวงพ่อ” คู่นี้แสนจะ “ผูกพัน” ฉะนั้น Whatever Will Be, Will Be ในเมื่อ มีทางให้เลือกเดินแล้ว แต่จะเลือกทางนี้เอง

หมาในคอกตัวไหนก็ช่วยยาก บอกได้คำเดียว!

“หมายนัดไต่สวน” ที่ส่งถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ใช่ยันต์ปิดปากหม้อขังวิญญาณแม่นาคพระโขนง

ฉะนั้น ใช้สติกุมหางเสือคือใจไว้

ยังมีเวลาให้หันเข้าข้างฝา ทบทวน ไตร่ตรองได้ จนถึงเดือนกันยา.โน่นแหละ

กรรมเก่า “ชดใช้” กรรมใหม่ คือการ “ตั้งบ่อนกาสิโน-ทำพนันออนไลน์” อย่าก่อก็แล้วกัน มันจะเป็นบาปหนักซ้ำเติม

ในฐานะคนเคยรัก-เคยชอบกัน ก็บอกได้เท่านี้ ถ้าไม่เชื่อก็

“Have it your way.” นะ!

-เปลว สีเงิน

๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๘

คนปลายซอย