
เห็นข่าว.....
เขมรเสริมกำลังพลนับหมื่นนายประชิดแดนตลอดแนวที่ช่องบก อุบลราชธานี
พร้อมขน “อาวุธยุทโธปกรณ์” ทั้งจรวด ทั้งปืนเล็ก-ปืนใหญ่ ที่จีนมอบให้ หันปลายกระบอกจ่อไทยแล้ว
ทำให้ผมนึกถึง “นิเชา” คนป่าในแอฟริกาใต้ในภาพยนตร์เรื่อง “เทวดาท่าจะบ๊องส์” ขึ้นมาทันที
หนังเรื่องนี้มาฉายเมืองไทยเมื่อร่วม ๕๐ ปีที่แล้ว ปรากฏว่าดูแล้วฮากันเยี่ยวเล็ด-เยี่ยวราด
เรื่องมีอยู่ว่า มีเครื่องบินบินผ่านหมู่บ้านที่นิเชาอยู่ กัปตันดื่มโคคา-โคล่าหมดขวด ก็โยนขวดโคล่าทิ้งลงไป
นิเชาเห็นลอยลงมาจากท้องฟ้า ก็ตื่นเต้นว่าเป็น “ของขวัญจากพระเจ้า” ประทานให้ เก็บเอาไปอวดคนในหมู่บ้าน ทุกคนก็ฮือฮากับของขวัญจากพระเจ้านั้น
”ขวดโคคา-โคล่า” ก็กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้ขึ้นมาทันที ในความคิดของคนป่า
จากนั้น “สังคมคนป่า” ที่เคยอยู่กันสุขสงบ ก็ซ่ากันยกใหญ่ สุดท้าย นำความวิบัติด้วยเรื่องราวต่างๆ มาสู่ ซึ่งคนดู ฮากันโรงแตก
จนในที่สุด....
คนป่าก็รู้สึกว่า ขวดโค้กที่พระเจ้าประทานมาให้นี้ มันเป็นสิ่งชั่วร้าย นำแต่ความแตกแยก-ฉิบหายมาสู่
นิเชาจึงเดินทางไปสุดขอบโลก เพื่อนำขวดโค้กนั้นไปคืนพระเจ้า!
ขวดโค้กกับอาวุธจีนประทาน อนาคตจะลงท้ายเหมือนในหนัง “เทวดาท่าจะบ๊องส์” หรือไม่ ผมว่า ก็ตามดูกันขำๆ ไปละกัน
คือ ไทยเราไม่จำเป็นต้องไปเต้นตามเขมร เขากำลังคึกฮึกเหิมกับของขวัญพระเจ้า ก็ปล่อยเขาไป
ไทยแค่ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว
ลงท้าย เดี๋ยวมันก็ “หางจุกตูด” ไปเอง!
ที่เขมรกร่างวันนี้ เพราะเขามีธง คือสร้างเงื่อนไข เพื่อลากไปขึ้นศาลโลก ก็เรื่องของเขา อยากขึ้น ก็ให้เขาไปขึ้นเอง เราไม่เกี่ยว
ส่วน “ไส้ศึก” จะเกี่ยวเพราะ “มีเอี่ยว” ในทางลึกหรือไม่นั้น จุดธูปถามกันเองละกัน
โบราณบอก เล่นกับหมา-หมาเลียปาก, เล่นกับสาก-สากตีหัว กับเขมรก็อย่างนั้น ไทยไม่ต้องไปวอแวอะไร ยื่นคำขาดไปเลยว่า
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันไว้ คือใช้กลไก “ทวิภาคี” เท่านั้น ในการแก้ไขปัญหาชายแดน
ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC)
คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และ
คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC)
และที่นัดเจรจากันที่ ๑๔ มิ.ย. ที่พนมเปญ “นัดต้องเป็นนัด” จะมาเหลาะแหละเป็นรายวันไม่ได้
ทั้งที่ล้ำเข้ามา ๒๐๐ เมตร ไทยต้องยื่นคำขาดให้ถอยออกไป ถ้าไม่ถอย ก็ต้องใช้มาตรการจาก “เบาไปหาหนัก”
ไทยดีกับเขมรมามากแล้ว แต่เขาหาได้มีสำนึกไม่ เห็นไทยอ่อนแอทีไร เป็นต้องสร้างเรื่องทุกทีไป
จะบอกให้ ที่อ่อนแอน่ะ ก็แค่ “รัฐบาลและนายกฯ” เท่านั้นนะ รู้ไว้ด้วย ตระกูลฮุนกับตระกูลชิน “ญาติกัน” มิใช่เรอะ ล้อเล่นกันได้
แต่ประเทศไทย “แกนใน” คือ “กองทัพ” ทั้งบก เรือ อากาศ และตำรวจ อย่างอื่นเล่นกันได้ แต่กับเรื่อง “ดินแดน-แผ่นดิน”
อย่าสะแอ๋งมาล้อเล่นหรือลองของเป็นอันขาด เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน!
ได้ของเล่นใหม่ คันนักใช่มั้ย อยากประลองอย่างนั้นใช่มั้ย โธ่เอ๊ย...เวทนาความเขลาของนิเชาเขมรจริงๆ!
จากนี้ไป สองพ่อลูกเขมรกับสองพ่อลูกไทย จะโพสต์ตอบโต้อะไร ก็เล่นเพลงยาวแลกขี้ฟันกันไป
แต่ฝ่ายกองทัพเขาจะไม่ออกมาเล่นด้วย คือกองทัพไม่ชอบพูดมาก หรือมาต่อความยาว-สาวความยืด แบบไร้สาระไปวันๆ
ทุกอย่างเกี่ยวกับเขตแดน ต้องเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ตาม MOU 43 เท่านั้น
อย่ามาตีตั๋วเด็ก ก็ก ็ก อ้างโน่น-อ้างนี่ เพื่อจะเลี่ยง ซึ่งพอกันที กับสันดานซ้ำซากสุดระอา
ไม่อยากเจรจา จะไปศาลโลก ก็เชิญ
อยากลองของ ไม่ถอยจากที่ล้ำแดน ๒๐๐ เมตร ก็ลองดู
หรืออยากปะทะ ก็เตรียมผ้าขาวมาด้วยละกัน!
สรุปแล้ว เราอย่าไปให้ราคาเขมรมากนัก ประวัติศาสตร์ซ้ำซากไม่มีอะไรหรอก นอกจากเห่าริมรั้ว
ไว้ใจกองทัพของเราเถอะ “พูดน้อย” แต่ถ้าจะต่อยละก็ “ตัวต่อทั้งรัง” ยังต้องบินหนี แล้วอาวุธที่เขมรขนมาประชิดแดนแค่นี้ เอามาแคะขี้ฟันหรือไง?
พวกเรามัวแต่สนใจเรื่องเขมร หารู้ไม่ว่า กำลังถูกรัฐบาลเพื่อทักษิณตีตลบหลังเรื่อง “กาสิโนคอมเพล็กซ์”!
มัวแต่ “เพื่อชาติ” กันเหยงๆ
อยู่ทางนี้ รัฐบาลจัดฉาก “ฉายหนังแผ่น” เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีสวนสนุก มีนั่น-มีนี่ โดยไม่บอกว่ามี “บ่อนกาสิโน” เลย
หวังให้คนหลงเชื่อ แล้วสรุปว่า ถ้าไทยมีเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เม็ดเงินเป็นแสนๆ ล้าน จะไหลมา-เทมาท่วมประเทศ!
อย่าไปหลงคารมลวงตามหนังโฆษณาที่เขาจ้างโทรทัศน์บางช่อง “ล้างสมอง” ชาวบ้านเป็นอันขาด
เอนเตอร์เทนเมนต์ นั่นมันแค่กล่อง
“บ่อนกาสิโน” ตะหาก คือ “สินค้า” ในกล่อง!
สังเกตให้ดีเหอะ จะเห็นว่า รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนเรื่องชายแดนที่เขมรยั่วยุเพื่อสร้างเงื่อนไขไปสู่จุดหมายของเขา
ตรงกันข้าม รัฐบาลขะมักเขม้นกับเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ชนิดหายใจเข้า-หายใจออกเป็นกาสิโน
คือเดือนหน้า “เดือนกรกฎา.” สภาก็จะเปิด เรื่องอื่น บ้านเมืองจะพินาศวอดวาย...ไม่สน
รัฐบาลสนเรื่องเดียว คือเข็น “พ.ร.บ.กาสิโน” เข้าสภาให้สำเร็จ!
ทำไมร้อนรนถึงขนาดนั้น?
ผมก็ไม่ทราบ มีใครไปตกลงกับนายทุน-นายบ่อนรายไหนไว้ และรับเงิน-รับทองมัดจำกันไว้หรืออย่างไร ก็สุดหยั่งรู้
แต่ในมุมมองผม เขาคงรู้ตัวว่า “รัฐบาลไปไม่รอดแน่”
ฉะนั้น ก่อนจะจอด ขอเอา “พ.ร.บ.กาสิโน” เข้าสภา เป็นการเอาหางแหย่น้ำไว้ก่อน!
ดังนั้น อย่าเผลอ ไปสาละวนอยู่กับกลลวงทางศึกเขมร จนเปิดหลังบ้านโล่ง ปล่อยให้มันฉวยโอกาสปลุกเสก “พ.ร.บ.กาสิโน” ได้สำเร็จเชียว
เรื่องเขมรน่ะ ไว้ใจทหารเขาเถอะ
ที่ไม่น่าไว้ใจ คือทางรัฐบาลเพื่อไทยเรื่องกาสิโนคอมเพล็กซ์นี่แหละ มันดันสุดซอยแน่!
๑๒-๑๓-๑๔ มิถุนา.ก็ต้องจับตา เพราะอาจนำไปสู่เงื่อนไขพลิกผันทางเหตุการณ์อีกหลายด้าน
ดังนั้น “ช่องหมาลอด” ต้องคอยสอดส่องให้ดี!
เรื่องชายแดนไทย-เขมรนั้น มีนักวิเคราะห์เขาบอก ต้องระวังการ “สอดแทรก” จากจีนและสหรัฐฯ ให้ดี
คือเขามองว่า ที่เขมรผยองลำพองตอนนี้ เพราะได้รับการเอาอก-เอาใจจากจีน โดยมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้มากมาย ทั้งกำลังจะซ้อมรบร่วมกันไม่กี่วันนี้
เขมรจึงถูกวิญญาณ “อึ่งอ่าง” สิง เบ่งพองเกิดอาการที่เรียกว่า “ร่างกายอยากปะทะ” กับไทย ว่างั้นเถอะ
เมื่อจีนหนุนเขมร เขาบอกว่า สหรัฐฯ อาจถือโอกาสสนับสนุนไทยก็เป็นได้ และนั่น “สงครามตัวแทน” ก็จะเกิดขึ้น
แต่ผมว่า...ไม่!
เพราะไทยเป็น “ญาติสนิท” กับจีน ขณะเดียวกัน ก็เป็น “มิตรเก่า” กับสหรัฐฯ
ไทยจึงไม่งกจนโง่ที่จะทำแบบนั้น และอีกอย่าง “กับเขมร” ไทยไม่มีความจำเป็นต้องมี “ตัวช่วย” เลย!
“กรกฎา.-สิงหา.” น่าจะสนุก “ตาลุก-ขนพอง”
ทั้งเรื่องรัฐบาลว่าด้วย “การเมืองใหม่” แกะกล่อง
และทั้งเรื่องชายแดน “ไทย-เขมร” ว่าด้วยอุบัติเหตุจาก “มือมันลั่นไปเอง”!
นี่ว่าไปตามดาวน่ะ เชื่อ-ไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ต้องเสียสตางค์!
-เปลว สีเงิน
๗ มิถุนายน ๒๕๖๘
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’
๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”
ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'
เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”
เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม
มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”
“มิตรในยามยาก”
“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้
‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’
แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก
🛑LIVE อุทกภัยโซเชียล!! | จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์
อุทกภัยโซเชียล!! จับจ้องมองโลก..อิสรา สุนทรวัฒน์ : วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568


