‘เท้ง....ทนทหารไม่ได้’

พูดถึง “พรรคส้มสามนิ้ว” แล้วละก็...

ปวดหัวจี๊ด!

ตอน “นายพิธา-นายกฯ ว่าว” ก็ทีแล้ว ด้วยทัศนคติงี่เง่ากับกองทัพ เสนอว่า ถ้ามีสงคราม ให้ใช้ “เรือประมง” แทน “เรือรบ”

นี่...มา “ไฮเปอร์ลูป” เดียวกันอีกคนแล้ว

 “นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าส้มปัจจุบัน เมื่อวานซืน แสดงวิสัยทัศน์ ด้านปัญหาชายแดน “ไทย-เขมร” ยาวเหยียด ตอนหนึ่งว่า

 “ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง กับการยกระดับมาตรการปราบปรามเครือข่าย “อาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามชาติ” ที่มีฐานสำคัญอยู่ในกัมพูชา

ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้

แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ การที่ท่านนายกฯ ได้มอบอำนาจในการควบคุมจุดผ่านแดนหรือด่านชายแดนไทย-กัมพูชาให้แก่กองทัพ

ผมเห็นว่า การที่รัฐบาลปล่อยให้กองทัพมีอำนาจตัดสินใจออกมาตรการควบคุมชายแดนไทย-กัมพูชาได้โดยลำพังนั้น

เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เพราะผิดหลักการประชาธิปไตย ที่กองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน

และในกรณีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชานั้น กองทัพมีหน้าที่รับผิดชอบในการใช้มาตรการทางทหารเพื่อป้องกันประเทศ

ในขณะที่นายกรัฐมนตรีต้องมีบทบาทนำและรับผิดชอบในภาพรวม โดยบูรณาการมาตรการทั้งทางด้านการทหาร ทางด้านการทูต ทางด้านเศรษฐกิจ  ทางด้านข้อมูลข่าวสาร และอื่นๆ อย่างเป็นเอกภาพ

และคำนึงถึงผลกระทบด้านความมั่นคง ปัญหาเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรอบด้าน

การที่รัฐบาลยอมให้กองทัพมีอำนาจออกมาตรการควบคุมชายแดนไทย-กัมพูชาได้ด้วยตนเองนั้น

กองทัพอาจตัดสินใจด้วยมิติด้านความมั่นคงด้านเดียว แต่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อมิติอื่นๆ นอกเหนือจากที่ตนรับผิดชอบ

ทำให้การบริหารสถานการณ์ไม่เป็นเอกภาพ และอาจมีการใช้มาตรการอย่างไม่ได้สัดส่วน

ซึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา กองทัพได้ตัดสินใจออกมาตรการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรการที่จะส่งกระทบรุนแรง

ไม่ใช่แค่ต่อชาวกัมพูชา แต่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประชาชนไทยด้วย เสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมโดยไม่จำเป็น....ฯลฯ....

อืมมม...ผมขอแนะให้ท่านเท้งไปขอยาเสียสาว “อัลปราโซแลม” จากหมอแอร์มากินซักแผงนะ

เผื่อจิตหลอนด้าน “กองทัพ” จะลดลงได้บ้าง!

ว่านายกฯ อุ๊งอิ๊งไม่ประสาแล้ว ถ้านายณัฐพงษ์เป็นนายกฯ ผมก็ว่า คงไม่ประสาพอกัน

แต่ก็น่าเห็นใจนะ พี่เท้งยังไม่เคยทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร จึงได้แต่ “ท่องตำราว่ากล่าว”

 “หลักการ” แปลว่าอะไร รู้มั้ย?

แปลว่า “กะลาครอบ”!

 “กองทัพต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน” นั่นคือ “หลักการประชาธิปไตย” ที่พี่เท้งยึด

แล้วพี่เท้งก็ยึด-ก็ติด-ก็ทึกทักอยู่แค่นี้ ผิดจากนี้ ถือว่าไม่ใช่-ไม่เป็นประชาธิปไตย

โถ...พี่เท้ง

“โลกเป็นจริง” มันใหญ่กว่า “กะลา” ที่พี่เท้งทึกทักว่าเป็น “จักรวาล” มากนักนะ

ก็น่าเห็นใจอยู่ ที่พี่เท้ง “ยึดขอบกะลา” เป็นขอบจักรวาล

เพราะพี่เท้งยังไม่เคยมี-ไม่เคยรู้จักคำว่า “ประสบการณ์”!

ต่อเมื่อพี่เท้งมีประสบการณ์แล้วนั่นแหละ

พี่เท้งจะทะลุกะลาพ้นขอบมิติจักรวาลออกไป สู่โลกเป็นจริง

ถึงตอนนั้น พี่เท้งก็จะไม่พูดอะไรที่บัดซบปากอย่างนี้อีก!

มันไม่มีใครมีอำนาจคุมใครเบ็ดเสร็จ-เด็ดขาดหรอก

เพียงแต่ รัฐบาลมีอำนาจ-หน้าที่อย่างหนึ่ง กองทัพมีอำนาจ-หน้าที่อย่างหนึ่ง แล้วเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงเป็นเกลียวเชือกในเส้นเดียวกัน เป็นโครงสร้างด้านนโยบายและด้านปฏิบัติการ

เป็น “Iron Dome” ประเทศ ประมาณนั้น!

จะไปตีค่าว่า นักการเมืองต้องรู้ดีกว่า เก่งกว่าทหารทุกด้าน ทหารต้องด้อยกว่า-โง่กว่า ฉะนั้น จะปล่อยให้ทหารตัดสินใจเองไม่ได้ อย่างที่พี่เท้งว่าละก็

ไอ้ตัวที่ว่าโง่กว่า ก็คือตัว “ฉลาดในกะลาครอบ” นั่นแหละ!

ผมไม่เถียง ในกรอบหลักการอำนาจบริหาร กองทัพต้องอยู่ใต้คำสั่งรัฐบาล

แต่เพราะคุณยังเยาว์ ยังเขลาอยู่ในโลกเป็นจริง จึงโพสต์ว่า

 “การที่ท่านนายกฯ ได้มอบอำนาจในการควบคุมจุดผ่านแดนหรือด่านชายแดนไทย-กัมพูชาให้แก่กองทัพ

ผมเห็นว่า การที่รัฐบาลปล่อยให้กองทัพมีอำนาจตัดสินใจออกมาตรการควบคุมชายแดนไทย-กัมพูชาได้โดยลำพังนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

นายกฯ ไม่มีสิทธิ์จะไปมอบอำนาจให้กองทัพตัดสินใจออกมาตรการเองได้หรอก...พี่เท้ง

เขาต้องประชุม “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” มีนายกฯ เป็นประธาน มีรัฐมนตรีหลายกระทรวง มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีหัวหน้าส่วนราชการ

นอกจากนี้แล้ว ในบางกรณี เขาจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเรื่องนั้นมาประชุมด้วย ถกกันจนตกผลึกแล้ว ฝ่ายบริหารถึงจะมีคำสั่งไปยังฝ่ายปฏิบัติให้ดำเนินการได้

อย่างเรื่องเปิด-ปิดด่านนี้ ไม่ใช่นายกฯ มอบอำนาจให้ทหารตัดสินใจเองหรอก...พี่เท้ง

เป็นมติที่ประชุม สมช.น่ะ

กองทัพเป็นฝ่ายแอ็กชันตามคำสั่งฝ่ายบริหาร ไม่เป็นอย่างที่พี่เท้งโพสต์เลอะเทอะ อย่างนี้ ต้องให้ไปโพสต์เฟซฯ กับฮุน เซนแล้วละ น่าจะเข้ากันได้ดี

อย่าปลูกฝังทัศนคติทรามกับสังคมชาติ โดยสร้างวาทกรรมผูกขาดประชาธิปไตยไว้ที่พลเรือน แล้วผลักกองทัพเป็นฝ่ายเผด็จการอย่างที่ทำนี้เลย

เก่งนัก เดี๋ยวก็ไล่ให้ไปลาดตระเวนที่ช่องบกแทนทหารซะเลย อยู่ห้องแอร์ กินเงินเดือนเป็นแสน ดีแต่โพสต์สร้างทัศนคติให้คนเกลียดกองทัพ

ทหารที่ลาดตระเวน เงินเดือนถึงหมื่นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ นอนกลางดิน กินกลางป่า เป็นสัปดาห์กางเกงในไม่เคยถอด ได้แต่กอดปืนพิทักษ์แดน

ทหารในพื้นที่ เขาอยู่หน้างาน จะปิด-ไม่ปิดด่าน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอารมณ์ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์, การข่าว, ข้อมูล ซึ่งคนระดับแม่ทัพเขารู้ เขาต้องประเมิน และเขามีอำนาจสั่งการได้

ฉะนั้น ไป “ปากแจ๋ว” ในสภาโน่น

เป็นหัวหน้าฝ่ายค้าน ทำไมไม่ไปขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ล่ะ มาปากแจ๋วนอกสภาแบบนี้ เดี๋ยวก็เจ่อหรอก!

ฟังหัวหน้าพรรคส้มสามนิ้วโพสต์ไปแล้ว....

มาฟังฝ่ายกองทัพเขาแถลงบ้าง โดย “พลตรี วันชนะ สวัสดี” ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ชี้แจงแถลงข่าวเมื่อวาน (๒๕ มิ.ย.)

 “ความเดือดร้อนที่ประชาชนกัมพูชากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาเอง”

สถานการณ์ที่ลุกลามนั้น.....

เริ่มจากฝ่ายกัมพูชา ทั้งในกรณีการเผาศาลาตรีมุขและการส่งกำลังพลล้ำแนวเขตบริเวณต้นพญาสัตบรรณในฝั่งไทย

โดยประเทศไทย ยังไม่มีการดำเนินมาตรการตอบโต้ใดๆ ในช่วงแรก

“ไทยไม่ได้เริ่มมาตรการอะไรก่อนเลย เพียงแค่ ‘คิดเบาๆ’ เท่านั้น กัมพูชาก็เริ่มตอบโต้ด้วยมาตรการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนของตนเอง”

กรณีไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต....

ขณะนี้ กัมพูชาได้งดใช้ไฟฟ้าจากไทยแล้วทั้ง ๙  จุด โดยตรวจสอบพบว่า ปริมาณการใช้ไฟเป็นศูนย์ทั้งหมด

แม้ไทยยังคงปฏิบัติตามสัญญาและไม่มีคำสั่งตัดไฟฟ้าใดๆ จากรัฐบาลไทยในขณะนี้

ทั้งนี้ ยอมรับว่า มีมาตรการรองรับกรณีสถานการณ์บานปลาย ซึ่งจะต้องได้รับมติจาก “สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)” ก่อนดำเนินการใดๆ

ขณะที่ในฝั่งอินเทอร์เน็ต ไทยยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ 

แต่รัฐบาลกัมพูชากลับเป็นฝ่ายประกาศงดใช้บริการจากไทยเอง รวมถึงมีการรณรงค์ให้ประชาชนงดชมละครไทยและงดใช้สินค้าไทย

แม้ในทางปฏิบัติ ยังพบว่า มีการข้ามแดนเพื่อตุนสินค้าไทยอยู่

สุขภาพ การศึกษา และความมั่นคง ในด้านมนุษยธรรม ไทยยังเปิดรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาโดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน

และยินดีให้เด็กนักเรียนจากฝั่งกัมพูชา เดินทางเข้ามาเรียนในฝั่งไทยต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชากลับตอบโต้การเคลื่อนไหวของกองทัพอากาศไทยด้วยการประกาศว่าจะ “ตกรางวัลให้ทหารกัมพูชาหากสามารถยิงเครื่องบินรบไทยได้”

 ซึ่งถูกมองว่าเป็นการยกระดับความตึงเครียดอย่างไม่จำเป็น

น้ำมันและการควบคุมชายแดน....

แม้ฝ่ายไทยยังไม่มีการตัดการส่งออกน้ำมัน แต่รัฐบาลกัมพูชากลับงดการนำเข้าน้ำมันจากไทยเอง

ซึ่งจะทำให้ประชาชนกัมพูชาต้องใช้น้ำมันราคาแพงจากบริษัทผูกขาดในประเทศแทน

ขณะที่การควบคุมด่านชายแดน ฝ่ายไทยได้กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านใหม่ ตามความเหมาะสม

แต่กัมพูชากลับตั้งเวลาเปิด-ปิดให้ไม่สอดคล้องกัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการสัญจรของประชาชนตามแนวชายแดน

“ไทยเพียงคิดเบาๆ แต่ผู้นำกัมพูชา กลับเล่นใหญ่เกินเบอร์ จนทำให้ประชาชนของตนเองเดือดร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

นี่.....พลตรี วันชนะ “ตบตูด” แถลงการณ์ซะผู้นำกัมพูชาเกาก้นแกรกๆ!

ไทยคิดเบาๆ เขมรก็กระเส่าถึงหัวจายยยแล้วรึ?!

-เปลว สีเงิน

๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๘

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๕ ธันวา ‘ฟ้าอวยชัย’

๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๐ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”

ประณีต 'ข้าวแบรนด์โลก'

เมื่อ ๘๐-๙๐ ปี ที่แล้ว.... ในหนังสือเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ครูให้ท่อง “สินค้าส่งออกที่ขึ้นหน้า-ขึ้นตาของไทย" ไม่ใช่ “ดินสอพอง” หรือ “แป้งผัดหน้า”

เงิน ‘ประชามติ’ แจกน้ำท่วม

มันเป็น “ความสุขอย่างหนึ่ง” ของคน “บางจำพวก” ที่ได้อาศัย “ความทุกข์” ชาวบ้าน จากน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายๆ จังหวัดในภาคใต้ ยกเป็นเหตุ ขยี้ขยำ ตำกระทืบ “นายกฯ อนุทิน”

“มิตรในยามยาก”

“หาดใหญ่”...มันใหญ่ที่ไหน รู้มั้ย? มันใหญ่ที่ “ใจ” นั่นไง! มหาอุทกภัยครั้งนี้ ก็เข้าใจ ว่ามันรากเลือดหนักหนา-สาหัส แต่ทำไงได้

‘ดี-ร้าย’ อยู่ที่ ‘มุมมอง’

แล้วก็มาถึง “เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๖๘ จนได้! นึกย้อนไปเมื่อ ๒๑ ปีที่แล้ว ๒๖ ธันวา.๔๗ “สึนามิ” ถล่ม ๖ จังหวัดใต้ ภูเก็ต, พังงา, ระนอง, กระบี่, ตรัง และสตูล ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียชีวิต ร่วม ๖,๐๐๐ คน เจ็บประมาณ ๘,๐๐๐ คน และสูญหายจำนวนมาก