สัญญาณ ‘รัฐบาล’ ไปแน่

คำว่า “เกียร์ว่าง” กลับมาอีกครั้ง จนนายภูมิธรรม ผู้รักษาการนายกฯ ต้องขู่บรรดาข้าราชการมหาดไทยว่า “ภายใน ๓ เดือนต้องเห็นผลงาน...ไม่งั้นย้าย”

“มด” ว่าจมูกไว

แต่สู้ “ข้าราชการ” ไม่ได้ จมูกไวกว่ากับ “การอยู่-การไป” ของรัฐบาลในทุกยุค-ทุกสมัย แถมแม่นยำยิ่งกว่าบรรดาโพลซะอีก!

เมื่อนายภูมิธรรมเอ่ยคำว่า “เกียร์ว่าง” กับข้าราชการ ก็เท่ากับสัญญาณ “อายุกาล” ของรัฐบาลเหลือน้อย

พูดถึงนายภูมิธรรม ไวจริงๆ ตูดยังไม่ทันแตะเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทยได้ผายลมซักปู๊ด ก็ย้ายซะ “๒ อธิบดี” โดยพลัน

ตอนมีข่าวนายภูมิธรรม “นายสั่ง” ให้มานั่งมหาดไทย

ผมทายในใจว่า.....

“อธิบดีกรมการปกครอง” ต้องถูกย้ายก่อนแหงๆ

มันเป๊ะเวอร์อะไรเบอร์นั้น!

“นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์” อธิบดีกรมการปกครองกับ “นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงทั้งคู่!

คนที่มาเป็น “อธิบดีกรมการปกครอง” แทนก็คือ “นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ส่วนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น “ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี” มาแทน

ทุกเสียงบอกว่า นี่มันสัญญาณ “เตรียมการ” เลือกตั้งชัดๆ

เอาคนเพื่อไทยมาคุมมหาดไทยและรีบจัดแถว “ย้ายอธิบดีกรมการปกครอง” มองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากจัดแนวรบเลือกตั้งโดยตรง!

แต่ผมว่า “เลือกตั้ง” มีความสำคัญในระยะยาว อันดับ ๒

ที่สำคัญทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นอันดับแรก ผมว่า เพื่อทำ “พนันออนไลน์” นั่นละตรงตัว!

เพราะ “พ.ร.บ.การพนัน” อยู่ในกำกับดูแลของ “กรมการปกครอง” ฉะนั้น ก็ต้องเอาคนที่ “สนองนโยบาย” มานั่งกรมนี้

สทร.เขาบ่นไม่ได้ยินหรือ?

ตอนนายอนุทินเป็น รมว.มหาดไทย ไม่ยอมสนองนโยบาย “พนันออนไลน์” ในขณะที่กระทรวงดีอีตัวซี้-ตัวสั่นรอทำออนไลน์ตามนโยบายที่นายต้องการอยู่ทุกลมหายใจ

เมื่อไม่ยอม ก็ต้องบีบ “แลกกระทรวง” ไม่งั้นก็ออกไป

“ภูมิใจไทย” ที่ไม่เอากาสิโนและพนันออนไลน์ จึงบ๊ายบายไปเป็นฝ่ายค้าน

เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมจึงห่วง “นายนิรัตน์” ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ที่มานั่งเก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งไม่รู้ว่า “โชคดี” หรือ “โชคร้าย”?

เพราะการ “ออกใบอนุญาต” การพนันทุกชนิด รวมทั้งพนันออนไลน์ อยู่ในอำนาจอธิบดีว่าจะเยสหรือโน!

ผมเชื่อ รัฐมนตรีต้อง “เร่งเช้า-เร่งเย็น” แน่

เพราะรู้...อายุรัฐบาลยาวสุด “ไม่เกิน ๓ เดือน” สั้นสุด “เดือนนี้-เดือนหน้า” ฉะนั้น ก็มารอดูกันว่า อธิบดีคนใหม่จะ “ยอมตาย” เพื่อนักการเมืองหรือไม่?!

ดูตัวอย่างข้าราชการที่กระทรวงพาณิชย์ไว้นะ ยุคจำนำข้าวอาปู เขาเอาตำแหน่งมาล่อให้ทุจริตเพื่อเขา ตัวเราเข้าคุก ส่วนตัวเขากินซาลาเปาสบายๆ

ถ้าอยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในยุค “หลานอาปู” อีก อธิบดีนิรัตน์...ก็จัดไป!

นึกก็ขำ นายภูมิธรรม รัฐมนตรีมหาดไทย รักษาการนายกฯ ขีดเส้นตายข้าราชการ ๓ เดือน ต้องเห็นผลงาน

แต่เพื่อไทยเป็นรัฐบาลมา ๒ ปี มีแต่ขี้กับไส้ กับความบรรลัยสารพัดเรื่อง!

ตัวท่านเอง เป็นรัฐมนตรีมา ๓ กระทรวง พาณิชย์ กลาโหม และมหาดไทย แล้วมีผลงานอะไรให้เห็นบ้าง?

ถ้าเป็นข้าราชการก็ถูกย้าย

ในทำนองเดียวกัน รัฐมนตรี ก็ควรลาออกหรือไม่ก็ควรถูกข้าราชการขับไล่ให้ออกไป!

ก่อนที่บ้านเมืองจะเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ ทางที่ดี “แพทองธาร” ไม่ต้องอยู่รอถึงวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัยหรอก

ศาลฯ ให้ยื่นคำชี้แจงภายใน ๑๕ วันมิใช่หรือ ก็เหลืออีก ๒-๓ วัน ก็จะครบ เร็วสุดปลายเดือนนี้ เร็วธรรมดา ก็กลางๆ สิงหา.ศาลฯ น่าจะมีคำวินิจฉัย

มีใครว่าแพทองธารไม่หลุดเก้าอี้นายกฯ บ้าง...ยกมือขึ้น?

ไม่มีเลย!

เพื่อไม่ต้องถูกประทับตราว่า “เป็นนายกฯ ผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”

และ “มีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

ชิง “ลาออก” เพื่อสงวนเส้นทางในอนาคตไว้ดีกว่าแพทองธาร ชื่อผมเถอะ อย่าไปเชื่อพ่อเลย

เชื่อพ่อแล้วติดคุกเยอะแยะ ถึงตายก็มี ไม่เห็นหรือ?

แล้วนี่...เห็นมั้ย

เมื่อวาน (๑๑ ก.ค.๖๘) พ่อไปบ้านพิษฯ แถมนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีคลังบอกว่า เชิญมาให้คำปรึกษาหารือ เรื่องต่อรองภาษีทรัมป์!

พ่อเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทย ทั้งเป็นสมาชิกก็ไม่ได้ ขาดคุณสมบัติ เพราะเคยต้องโทษจำคุกด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชัน

มาตรา ๒๘ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ก็ห้ามมิให้พรรคยินยอมคนที่มิใช่สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุม ชี้นำ ครอบงำพรรค

มาตรา ๒๙ ก็ห้ามคนที่มิใช่สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุม ชี้นำ ครอบงำพรรค ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม โทษคุก ๕-๑๐ ปี

แต่ทุกวันนี้ สทร.ไม่กระมิดกระเมี้ยนแล้ว แสดงความเป็นผู้ควบคุม ชี้นำ สั่งการพรรคเพื่อไทยชนิดโจ่งแจ้ง มีที่ไม่เห็นที่เดียวคือ กกต. นอกนั้น เขารู้-เขาเห็นกันหมด

กระทั่งเมื่อวาน นายพิชัยยกทีมไทยแลนด์ไปปรึกษากับทีมที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลกจะเอาอะไรไปเจรจาต่อรองเรื่องภาษีทรัมป์

สทร.ก็เข้าไปด้วย....

รัฐมนตรีคลังบอกเชิญมาให้คำปรึกษา มันก็ชัดว่า เข้าข่ายผิดทั้งมาตรา ๒๘ และ ๒๙ คือ ทั้งพรรค ที่ยอมให้ชี้นำ

และทั้งคนนอกพรรค ที่เข้าไปควบคุม ชี้นำ ครอบงำ สั่งการคนในพรรค

มันเละเทะไปหมดแล้ว กฎหมายมี แต่ผู้บังคับใช้กฎหมาย คือ กกต.ไม่รู้ร้อน-รู้หนาวอะไรเลย

มันจะกลายเป็นข้ออ้างให้คนอื่น-พรรคอื่นทำบ้าง ถึงตอนนั้น ถ้าไปจัดการกับพรรคใด-พรรคหนึ่ง

จะเกิดปัญหาด้าน “๒ มาตรฐาน” ขึ้นมาทันที!

และ กกต.ก็ระวังเหอะ มาตรา ๑๕๗ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโอกาสเจอสูงมากนะ

พูดถึงตัวลูก “โอกาสรอด” จากการตกเก้าอี้นายกฯ แทบมองไม่เห็น

ด้านตัวพ่อ ในคดีป่วยทิพย์ ชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ คดีงวดเข้ามาเรื่อยๆ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” นัดสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์-ฝ่ายจำเลย รวม ๗ นัด

ปลายเดือนนี้ก็จะจบ จากนั้นศาลฯ ก็จะจัดทำคำพิพากษาและนัดวันฟังคำตัดสิน

วันที่ ๒๕ กรกฎา.น่าสนใจมาก เพราะศาลฯ มีหมายเรียกให้แพทยสภา ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคที่ทักษิณเจ็บป่วย อันเป็นเหตุให้ส่งตัวจากเรือนจำไป รพ.ตำรวจ

ไปให้ปากคำต่อศาลฯ ในวันที่ ๒๕ ก.ค.๖๘ นี้

ก็มี “ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา” อุปนายกแพทยสภาและอดีตคณบดีแพทยศาสตร์ศิริราชฯ

และ “พล.อ.อ.นพ.อิทธพร คณะเจริญ” เลขาธิการแพทยสภา พร้อมด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวม ๖ คน จะเดินทางไปเป็นพยานศาลในวันนั้น

ฉะนั้น ดูแล้ว ทั้งคดีลูกและคดีพ่อ จะไปบรรจบพบคำตัดสินน่าจะเป็นเดือนเดียวกัน อย่างธรรมดา ในเดือนสิงหา. อย่างช้านิด จะเป็นเดือนกันยา.

คนไทยนี่ ช่างเล่นกันจริงๆ พรรคพวกทางชลบุรีแอบมาถามว่า “ทักษิณติดไม่ติด” ผมก็ถามเขา “อยากรู้ไปทำไม?”

เขาบอกว่า ที่ชลบุรีเขาเล่นกันจัง จะได้ไปแทงกะเขามั่ง!

เออ...“หวยคุก” ทักษิณ อย่างนี้ก็มีด้วย?

นี่...หยุดยาว ๔ วัน ผมก็อยากไปเที่ยวกะเขามั่ง แต่ดูแล้ว ไม่ไหว ไปวันค่ากิน ค่าที่พัก ก็ไม่หนี ๕ พัน แล้วยาว ๔ วัน ต้องมีติดกระเป๋าอย่างน้อย ๒ หมื่น

เงินแจกก็ไม่มา เงินกาก็ไม่มี แบบนี้ เที่ยวที่ “ภูเขาทอง” ก็พอ!

-เปลว สีเงิน

๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๘

วันเสาร์ที่ปลายซอย