รีวิวดวงชะตา คุณอนุทิน ชาญวีรกูล

ภาพที่ 1-คำทำนายลีลาชีวิตคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ปี 2568 ที่ให้ไว้ตั้งแต่ธันวาคม 2567

ภาพที่ 2-ดวงชะตาคุณอนุทิน ชาญวีรกูล กำเนิด-อังคารที่ 13 กันยายน 2509 คาดหมายลัคนาสถิตราศีเมษ

ดาวจรสำคัญ-ทำมุมกับดวงชะตา ระหว่าง 24 สิงหาคม 2568-14 กุมภาพันธ์ 2569

พระราหูจร (8)-เดินในราศีกุมภ์ทับพระเสาร์ดวงเดิม (๗) พฤหัสบดีจร (5)-เดินในราศีเมถุน

พระเสาร์จร (7)-เดินถอยหลังกลับเข้าราศีกุมภ์ ทำมุมพิเศษถึงพระราหูดวงเดิม (๘) ที่กุมลัคนาที่ราศีเมษ
ทักษาเดิม-ภูมิอังคาร

ทักษาจร-ระหว่าง 13 กันยายน 2567-13 กันยายน 2568 ตกภูมิราหู

ทักษาจร-ระหว่าง 13 กันยายน 2568-13 กันยายน 2569 ตกภูมิศุกร์

นับเป็นทุกข์อย่างหนึ่งของผู้เขียนที่ทำนายอะไรไว้ต้องแบกความรับผิดชอบตลอด ไม่กล้าทำนายแบบทิ้งๆ ขว้างๆ หรือเอามันอย่างเดียว

รวมทั้งดวงชะตาคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย ที่ทำนายไว้ตั้งแต่ปลายปี 2567 แบบทำนายช้างออกม้า ทำนายม้าออกช้าง แต่ยังดีที่เป็นสัตว์สี่เท้าด้วยกัน ตามภูมิปัญญาแค่โหรสมัครเล่น

เช่นช่วงก่อนที่คุณเศรษฐา ทวีสิน จะหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคุณแพทองธาร ชินวัตรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้น ผู้เขียนก็ไปปูดในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ที่ขณะนั้น ดร.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ดำเนินรายการอยู่ ว่าคุณอนุทินดวงดีจะได้เป็นนายกฯ

แต่โชคดีที่วันนั้นยังพูดต่อไปอีกประโยคแต่ไม่ค่อยมีคนสนใจ เพราะใส่ใจแต่ตำแหน่งนายกฯ ว่า-หรือได้อะไรใหญ่ๆ-

ผลคือ คุณอนุทินไม่ได้เป็นนายกฯ แต่กลับได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง ที่สำหรับระดับแม่หมอแค่ข้าราชการบำนาญ ซี 8 แล้ว ต้องใหญ่และปลื้มสุดๆ แทน

ในเมื่อได้ทำนายดวงชะตาของคุณอนุทินไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และได้โชว์คำทำนายตามรูปที่ 1 แล้ว

ต่อไปนี้จะรีวิวดวงชะตาของท่านต่อยอดจากที่เคยทำนายไว้ คือ ช่วง 24 สิงหาคม 2568-สิ้นปี 2568-ยาวไปถึง 14 กุมภาพันธ์ 2569 ที่ผู้เขียนได้เคยพูดผ่านหลายรายการที่มาสัมภาษณ์ว่า ถ้าคุณอนุทินไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีช่วงนี้ก็น่าจะหยุดเล่นการเมือง เพราะโชคใหญ่จะเริ่มเคลื่อนแล้วว่าเอาอะไรมาทำนายคือ

1.ระหว่างวันเกิดที่ 13 กันยายน 2567-13 กันยายน 2568 อายุย่าง 59 ปี ทักษาจรตกภูมิราหู มีคำทำนายตามลิลิตทักษาพยากรณ์ ทรงพระนิพนธ์โดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรีว่า หนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดในรอบปีวันเกิด คือมีเรื่องคับแค้นใจ ต้องพลัดพรากจากมิตร ตามโฉลก…ราหูทิศพายัพ จิตร์แค้นคับวุ่นวาย บ่สบายพลัดมิตร ถือเอาผิดเป็นชอบ ศัตรูตอบทดแทน….

หวยที่ออกแล้วในชีวิตระยะนั้นคือ ถูกขอให้ทิ้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปดำรงตำแหน่งอื่น แบบไม่เต็มใจ สุดท้ายวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ท่านก็นำพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล พลัดมิตร หรือ พรรคร่วมรัฐบาล ทั้งหมดมาเป็นฝ่ายค้าน

จึงก่อนจะถึงวันเกิดที่ 13 กันยายน 2568 ต้องรอดูว่า ศัตรูหรือฝ่ายตรงข้ามใดจะทดแทนให้คุณท่านหรือไม่ ตามลิลิตท่อนสุดท้ายที่ยังไม่เกิดคือ-ศัตรูตอบทดแทน-

เกณฑ์ทักษาจรตกภูมิราหู เคยมีตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้ในดวงชะตาเมืองที่มีการ ตอบแทนกันไปมา คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะเป็นนายกรัฐมนตรีเคยรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลดโทษนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร มาแล้ว

แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติที่พลเอกประยุทธ์ตั้งมาก็ได้เข้าเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

2.ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ถึงสิ้นปี 2568 ยาวไปถึง-14 กุมภาพันธ์ 2569 เกิดปรากฏการณ์ หากเสียลาภใดไปแล้ว สู้แล้วจะได้กลับมา ตามโฉลก…ลาภคืนคง รณรงค์เรามีชัย..(พระเสาร์จร 7 เดินในราศีกุมภ์-ภพที่สิบเอ็ด-ลาภะ)

เกณฑ์นี้เป็นโปรโมชันสำหรับทุกท่านที่ลัคนาสถิตราศีเมษ ที่หัวหน้าดาวร้ายจะอวยให้เป็นระยะสุดท้ายสำหรับรอบนี้ในลักษณะต้องยอมเสียไปก่อน หลังจากนั้นสู้แล้วจะได้กลับมาเพียงแต่อาจจะเปลี่ยนสภาพไป เช่น เสียหุ้นได้ปันผล หรือเสียคนรักเก่าก็ได้คนรักใหม่ หรืออาจได้คนรักเก่ากลับมา ฯลฯ

ตัวอย่างที่เห็นคาตาคือ เมืองรัตนโกสินทร์ที่แม้จะเป็นเกณฑ์อื่น (เสาร์จร 7 ถึงพฤหัสบดีดวงเดิม ๕) แต่อาการสู้แล้วได้คล้ายๆ กัน คือเสียดินแดนให้คนเขมรไปมากโขแบบไม่รู้ตัว แล้วก็เกิดเหตุการณ์ถูกรังแกก่อนสู้กลับแล้วได้พื้นที่สิบเอ็ดจุดกลับมา

ส่วนคุณอนุทินนั้น ที่ผ่านมาคือท่านเสียเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล และตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว จึงระยะนี้ก็ต้องรอดูว่าท่านจะสู้ จะได้มาในลักษณะใด แต่ คาดว่าเป็นเหตุการณ์-ของใหญ่อีกครั้งหนึ่งในชีวิต

3.โป๊ะเชะรอบนี้ช่วง 24 สิงหาคม 2568-14 กุมภาพันธ์ 2569 ดาวคู่มิตรใหญ่ตรึง หรือสมาสัปต์กันในดวงชะตา (พระราหูจร 8 ทับพระเสาร์ดวงเดิม ๗ และพระเสาร์จร 7 ถึงพระราหู ๘ ดวงเดิมที่ตั้งอยู่ในราศีเมษ) อย่างน้อยเมื่อคู่มิตรเจอกันก็..แช่มชื่น บ่มิโทษแถลงทัณฑ์…

ดาวมิตรคู่นี้ยังจะเป็น สื่อล่อ ให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า โชคเทวฤทธิ์ หรือ เทวดาให้โชค ข้อใหญ่และสำคัญที่สุดในบรรดาที่มีอยู่หกอาการจากมากไปหาน้อยตามลำดับ

รอแค่จังหวะดีๆ ดาวขนาดเล็กกว่ามาผสมโรงก็จะเกิดปรากฏการณ์ ..ผิว์จะดูโชคใหญ่ในชันษา องค์อสุรินทร์ต้ององค์พระเสารา พระสุริยาต้องครูเป็นคู่คง เสาร์เล็ง (ถึง) อสุราท่านว่าไว้ เป็นโชคใหญ่ช่วงนั้นดั่งประสงค์..

ปกติมุมของดาวเช่นนี้เขามักจะ ได้เป็นใหญ่เป็นโตตามระดับวาสนา เช่น เป็นนายพล หรือผู้บริหารระดับสูง ส่วนผู้เขียนก็ได้เป็นถึงซี 8

เกณฑ์นี้ของคุณอนุทินจะเคลื่อนคล้อยและแผ่วลงตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นต้นไป

ระยะนี้จึงน่าจับตาคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าจะได้อะไรกลับมา หลังจากเสียไปแล้ว และจะเป็นระดับใด และขอยกวาทะของโหรภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติมาอ้าง คือ-เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เอง-

รวมทั้งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ผู้เขียนหมายมั่นปั้นมือแล้ววืดเองสองครั้งแล้ว ท่านก็วืดไปสองครั้งด้วยเช่นกัน เพราะท่านยังมีคู่แข่งอีกหลายคน.