หัวใจติดปีก

สื่อโซเชียลร้อนฉ่าครับ

ไม่ใช่เรื่อง “พี่โดม” กระเหี้ยนกระหือรือ

แต่เป็นเรื่อง คนขับเครื่องบินเป็นคนหนึ่งไปส่งหัวใจให้ถึงมือหมอโดยแข่งกับเวลา

ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็วัดความใส่ใจต่อส่วนรวมของคนไทยได้เยอะทีเดียวครับ

วานนี้ (๓๐ ธันวาคม) หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดส่งท้ายปี ๒๕๖๘ เสร็จสิ้นลง นายกฯ อนุทินขับเครื่องบินส่วนตัวบินด่วนไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อปฏิบัติภารกิจ “หัวใจติดปีก”  

ไปรับอวัยวะหัวใจจากผู้บริจาค เพื่อนำส่งให้ผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่าย ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ข่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะอยู่ในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาประกาศเลือกตั้ง

มีทั้งชมและด่า

ที่ชมส่วนใหญ่รู้ที่มาของภารกิจหัวใจติดปีก

ที่ด่า ไม่รู้ ไม่สน และส่วนใหญ่เป็นสาวกพรรคส้ม

ก็แน่นอนครับ เขาแชร์ข่าวไปจิกหัว แล้วกระทืบซ้ำในเพจสาวกส้ม ด่าว่า นายกฯ อนุทิน หนีเวทีดีเบต ไปขี่เครื่องบินเล่น

หลายๆ โพสต์ก๊อบปี้ข้อความต่อๆ กันว่า ไม่ใช่หน้าที่นายกฯ ทำไมไม่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแทน

มัดรวมๆ กันที่จิกด่าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ 

ที่จริงไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงเลย ก่อนจะโพสต์ข้อความหรือวิจารณ์อะไร ควรจะมีข้อมูลอยู่ในมือ อย่างน้อยๆ เลยครับ แค่ถาม AI ข้อมูลก็ทะลักออกมาแล้ว 

เมื่อวัยรุ่นไม่ถาม หนุ่มน้อยอย่างผมถามเองก็ได้ ไม่ยุ่งยากอะไรเลย ไม่ต้องไปค้นในห้องสมุด แค่เสิร์ชข้อความสั้นๆ ก็ได้คำตอบแล้ว

ตามนี้ครับ...

“..‘หัวใจติดปีก’ คือภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการอวัยวะเร่งด่วน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เครื่องบินส่วนตัวบินไปรับอวัยวะ (เช่น หัวใจ, ตับ, ไต) จากผู้บริจาคในต่างจังหวัด และนำส่งให้โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อทำการปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยได้ทันเวลา ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจสำคัญเพื่อต่อชีวิตผู้ป่วยวิกฤตมาอย่างต่อเนื่อง 

รายละเอียดภารกิจ “หัวใจติดปีก”

ความสำคัญ: เป็นการขนส่งอวัยวะเพื่อการปลูกถ่ายโดยเฉพาะ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาในการขนส่ง เพื่อให้อวัยวะยังสดและใช้งานได้ดีที่สุด

บทบาทของนายอนุทิน: รับอาสาเป็น “สารถีต่อชีวิต” นำทีมแพทย์และอวัยวะด้วยเครื่องบินส่วนตัว เพื่อเร่งรัดภารกิจให้ทันท่วงที

จุดเริ่มต้น: ภารกิจนี้ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ และได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยไปแล้วหลายราย

รางวัล: เคยได้รับปีกกิตติมศักดิ์จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และโล่เกียรติคุณจากสภากาชาดไทย

ตัวอย่างเหตุการณ์ล่าสุด (ตามข้อมูล ณ วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๘)

นายอนุทิน บินด่วนไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อปฏิบัติภารกิจ “หัวใจติดปีก” ครั้งที่ ๑๕๓ รับหัวใจจากผู้บริจาค นำส่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

สรุป: “หัวใจติดปีก” เป็นโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะที่ต้องการความรวดเร็ว โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำในการขนส่งอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยให้ได้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพสูงสุด.... 

ปฏิบัติภารกิจ “หัวใจติดปีก” มันไม่มีเวลาที่แน่นอนครับ ไม่มีใครรู้ว่าต้องบินเมื่อไหร่

เรื่องของความเจ็บไข้ได้ป่วย เรื่องการเสียชีวิต มีใครรู้ล่วงหน้าบ้าง

ภารกิจ “หัวใจติดปีก” ครั้งที่ ๑๕๓ นี้ เป็นภารกิจเร่งด่วนเหมือนทุกครั้ง เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาในการขนส่งอวัยวะ

ลองนึกภาพ ผู้ป่วยนอนรออยู่ที่โรงพยาบาล อยู่ในภาวะวิกฤต ต้องได้รับการปลูกถ่ายอย่างเร่งด่วน ถ้าเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นญาติของคนที่เอาแต่วิจารณ์ แล้วส่งอวัยวะไปไม่ทัน

จนเกิดเรื่องเศร้า!

กลับกัน มีจิตอาสาทำงานเรื่องพวกนี้อยู่ เขาพอมีเวลา มีเครื่องบิน พร้อมบินส่งฟรีไม่คิดเงินใดๆ ทั้งสิ้น พวกคุณๆ ที่เอาแต่วิจารณ์จะรู้สึกอย่างไร

กรณีล่าสุดนี้ นายกฯ อนุทินได้รับการประสานจากทีมแพทย์ถึงความจำเป็นเร่งด่วน หลังจากไม่สามารถจัดหาเที่ยวบินที่เหมาะสมได้ทันตามกรอบเวลาได้

ทำให้ต้องอาศัยการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว

ในแง่ความเป็นมนุษย์เป็นเรื่องน่ายกย่อง

ต่อให้ทำเพื่อเอาหน้า หรือสร้างภาพ ก็ไม่ควรไปตำหนิ เพราะผลของการกระทำคือการช่วยชีวิตคน

หิวแสงด้วยเรื่องแบบนี้ ปล่อยไปเถอะครับ ก็มันไม่ได้ทำร้ายใคร

มีคนแบบนี้ในสังคมเยอะๆ ดีกว่าสังคมมีแต่พวกวิจารณ์คนอื่น ตัวเองเอามือราน้ำเป็นไหนๆ

กฎหมายเลือกตั้งไม่ได้ห้ามนะครับ จะไม่ทำก็ได้

แต่มีการขอความช่วยเหลือมาแล้วนายกฯ อนุทินไปตามคำขอ ถามว่ามีผลต่อการเลือกตั้งหรือเปล่า

ก็เปล่า!

ถ้ามี...ไอ้พวกที่เอาแต่จิกหัวด่า คงยกยอสรรเสริญกันหมดแล้ว

นี่ไม่มีสักตัว

อย่างที่บอกลองพ่อแม่คุณรอหัวใจอยู่สิครับ เป็นตายเท่ากัน ได้หัวใจมาไม่ทัน ก็รอสวดสถานเดียว คุณจะปฏิเสธความช่วยเหลือจากนายกฯ อนุทินหรือเปล่า

ครับ...บางเรื่องบางอย่างไม่ได้เข้าใจยาก ก็ควรหัดเข้าใจอะไรง่ายๆ กันบ้าง

อย่าคิดเพียงว่าไม่ใช่พวกกูทำอะไรผิดหมด แล้วมากอดหลักการคนเท่ากัน

ลองชายตาไปดูนักการเมืองคนอื่นๆ สิครับ มีใครทำอะไรแบบนี้บ้าง

ไม่ต้องถึงขั้นขี่เครื่องบินส่งหัวใจแบบนายกฯ อนุทินที่รวยและมีเครื่องบินส่วนตัวก็ได้ ลองนึกดูมีใครทำงานจิตอาสาช่วยชีวิตคนซ้ำแล้วซ้ำอีกบ้าง

 “ธนาธร-พิธา-หัวหน้าเท้ง” ไม่ทำเรื่องพวกนี้หรอกครับ เพราะเขาเชื่อว่า ถ้ามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประเทศไทยจะเจริญในทุกด้าน

รัฐธรรมนูญสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้

เขาถึงกระเหี้ยนกระหือรือแก้รัฐธรรมนูญทุกลมหายใจ

ถามว่า ๓ คนนี้มีกำลังทรัพย์ที่จะเป็นจิตอาสาแบบที่นายกฯ อนุทินเป็นได้หรือเปล่า

เท่าที่ปรากฏในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน

 “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” มีทรัพย์สิน ๕.๖ พันล้านบาท

“เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” มีทรัพย์สินราว ๔๐๐ ล้านบาท

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จนกว่าเพื่อน มี ๖๓ ล้านบาท

ส่วนนายกฯ อนุทิน มี ๔.๔ พันล้านบาท

ก็อย่างว่าครับ แต่ละคนล้วนมีวิธีการช่วยเหลือสังคมที่แตกต่างกันออกไป รวยพันล้านไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องบินมาขี่ส่งหัวใจแบบนายกฯ อนุทินก็ได้

แต่...๓ คนที่ว่ามานี้ ได้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวช่วยเหลือสังคมบ้างหรือไม่

ใครมีข้อมูลบ้าง ช่วยนำมาเผยแพร่หน่อย

ถาม AI แล้ว ไม่ได้คำตอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เรามีดำ ไม่มีเทา'

นับคำขอโทษได้สักล้านคำกระมัง วานนี้ (๒๙ ธันวาคม) เป็นอีกวันของการพิสูจน์ว่า พรรคส้ม ใช่พรรคที่ความดีไม่มีความชั่วไม่ปรากฏจริงหรือไม่

ทหารไทยระดับโลก

ได้เบอร์พรรคกันไปเรียบร้อยแล้วครับ วานนี้ (๒๘ ธันวาคม) กกต.รับสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จับได้เลขอะไร แต่ละพรรคทั้งประเทศเบอร์เดียวกันหมด

ผลงานรัฐบาล-กองทัพ

น่าจะจบอีกยกครับ... นับว่าเป็นข่าวดีต้อนรับปีใหม่ วานนี้ (๒๖ ธันวาคม) มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) เป็นวันที่ ๓ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

ไม่เอาคนเนรคุณ

แยกข้างแบ่งขั้วกันตั้งแต่หัววัน... วานนี้ (๒๕ ธันวาคม) นายกฯ อนุทิน ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายแก้ ม.๑๑๒ “...ถ้ายังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ พรรคภูมิใจไทยไม่ร่วมด้วยแน่นอน พรรคไหนจะร่วมก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ดูแคนดิเดตของทุกพรรค ไม่มีพรรคไหนตอบว่าจะแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ยกเว้นพรรคประชาชน...”

ใครแข็งในจุดขาย

ยังไม่ทันเลือกตั้ง ก็เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่รำไรแล้วครับ ปัจจัยหลักคือการประกาศจุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรค เงื่อนไข ไม่ใช่เรื่อง เทาหรือไม่เทา

'ศุภจี' ไปต่อ

จบแล้วครับ ไม่ต้องรอ... คนละครึ่งพลัสเฟส ๒ ไม่ได้ไปต่อ ถ้าจะมีคงต้องรอรัฐบาลหน้า ไม่ใช่รัฐบาลเพื่อไทย