
(แฟ้มภาพ)
'มูลนิธิเพื่อนหญิง'จี้สตช.รีบสอบสวนดำเนินคดีดาราสาวถูกนักธุรกิจมอมยา-ข่มขืน อย่างตรงไปตรงมา ยกระดับเป็นคดีสำคัญเร่งด่วนในทุกกรณี ปลุกสังคมให้กำลังใจที่ผู้เสียหายได้ลุกขึ้นสู้โดยไม่กลัวอิทธิพลหรืออับอาย
31ส.ค.2565- มูลนิธิเพื่อนหญิง แถลงการณ์ กรณี ดาราสาวถูกนักธุรกิจมอมยา-ข่มขืน มีเนื้อหาดังนี้
จากกรณีดาราสาววัย 21 ปี ซึ่งเป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลงถูกนักธุรกิจคนหนึ่งข่มขืนภายในรีสอร์ตพูลวิลล่า เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคม 2565 โดยในคืนนั้นพี่สาวของผู้เสียหายได้ตามไปถึงรีสอร์ตด้วยความเป็นห่วง จากการดู GPS ในมือถือแต่กลับถูก รปภ.ของรีสอร์ทแห่งนั้นขัดขวางไม่ให้เข้าไป ไม่เช่นนั้นจะถูกแจ้งข้อหาบุกรุก จึงหวังพึ่งตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ขอให้เข้าไปช่วยเหลือนำตัวน้องสาวออกมา แต่ตำรวจปฏิเสธอ้างว่ากลัวโดนแจ้งข้อหาบุกรุกทำให้ดาราสาวถูกมอมยา กระทำย่ำยี่ ข่มขืนกระทำชำเรา และผู้เสียหายได้แจ้งความโรงพักในพื้นที่แล้วตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ผู้เสียหายและพี่สาวจึงพากันไปร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ จนนำไปสู่การติดตามคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงโรงพักโชคชัย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาและได้กลายเป็นข่าวใหญ่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจกันอย่างมากนั้น
ต่อมาในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้ารับทราบข้อหา ข่มขืนนักแสดงสาว ตามหมายเรียก พร้อมยืนยันถูกแบล็คเมล์ มีหลักฐานชี้แจงได้ โดยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนมีหลักฐานชัดเจนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการแบล็คเมล์
มูลนิธิเพื่อนหญิง ได้ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอดและมีความเห็นว่า การล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงเป็นการกระทำที่สังคมไม่อาจจะเพิกเฉยหรือยอมรับได้ว่าเป็นเรื่องปกติวิสัย และพฤติกรรมการข่มขืนกระทำชำเราโดยผู้เสียหายอยู่ในอาการไม่รู้ตัวเช่นนี้เป็นอาชญากรรมทางสังคม ไม่ใช่เพียงเฉพาะปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาระหว่างบุคคลเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นถึงหลานชายของอดีตรัฐมนตรีและมีญาติผู้ใหญ่โทรศัพท์ถึงผู้เสียหายขอให้ยอมความเพราะผู้ถูกกล่าวหามีแผนการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นสะท้อนให้เห็นถึงระบบอุปถัมภ์และชายเป็นใหญ่ที่นำมาสร้างอำนาจเหนือผู้เสียหาย ดังนั้นกรณีที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเพียงการกล่าวหาโดยผู้เสียหาย และคดียังไม่ถูกพิพากษาให้ถึงที่สุด หากแต่แม้เมื่อเกิดการกล่าวหาฟ้องร้อง ผู้ถูกกล่าวหาที่เตรียมตัวจะเป็นนักการเมืองควรที่จะมีสำนึกรับผิดชอบและก็ควรจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมไม่ควรออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าตนถูกแบล็คเมล์ และยังให้ญาติผู้ใหญ่มาเสนอเงินให้ผู้เสียหายเพื่อให้ยอมความอีกด้วย
ในการนี้ มูลนิธิเพื่อนหญิง จึงขอเรียกร้อง ดังนี้
1. ขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รีบสอบสวนดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและมีความละเอียดอ่อนต่อผู้เสียหายในการต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อมิให้กระบวนการนี้สร้างความกระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้ถูกกระทำซ้ำอีก ทั้งยังต้องรวมถึงการคุ้มครองผู้เสียหายโดยมิชักช้าด้วย รวมถึงการปกป้องสิทธิของผู้เสียหายในทุกกรณีเพื่อให้ผู้เสียหายไม่ถูกกระทำ (ถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์) ซ้ำหรือถูกละเลยให้ต้องเผชิญกับการข่มขู่คุกคามจากที่ผู้ถูกกล่าวหาที่มีอิทธิพลอำนาจและสถานะทางสังคมที่เหนือกว่าผู้เสียหาย รวมทั้งควรประสานการคุ้มครองกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เสียหายเหล่านี้ด้วย และควรแสดงความรับผิดชอบว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายได้อย่างแท้จริงปราศจากการแทรกแซงจากผู้ถูกกล่าวหาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรยกระดับ คดีอาญาว่าด้วยความผิดทางเพศ เป็นคดีสำคัญเร่งด่วนในทุกกรณี และต้องดำเนินการให้ผู้เสียหายได้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองผู้เสียหายในพื้นที่ทันทีที่มีการแจ้งเหตุ เพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกมอมยาปกป้องตัวเองไม่ได้ได้รับการคุ้มครองอย่างรวดเร็ว ทันการ
3. ขอเรียกร้องไปยังครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ของผู้ถูกกล่าวหาให้หยุดกระทำการที่จะเป็นการทำให้เกิดความหวาดกลัว หรือ ลำบากใจในการดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา หรือสนับสนุนการกระทำผิดของบุคคลในครอบครัว รวมถึงสังคมและสื่อมวลชนให้ความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหายและควรให้กำลังใจที่ผู้เสียหายได้ลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองและดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดอย่างไม่กลัวอิทธิพลหรือกลัวว่าจะอับอายและจะกระทบต่ออาชีพการงาน ซึ่งความกล้าหาญนี้จะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการต่อสู้กลับของผู้ถูกกระทำรายอื่นๆ และควรสร้างบรรทัดฐาน ผู้ที่ควรอับอาย คือ ผู้กระทำผิดมิใช่ ผู้เสียหาย
มูลนิธิเพื่อนหญิง
31 สิงหาคม 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ก.ร.ตร.' มีมติชี้มูล 'บิ๊กต่อ' อดีต ผบ.ตร.กับพวก 200 นาย ผิดวินัย รับส่วยเว็บพนันออนไลน์
คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร.ได้มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวกกว่า 200 นาย ภายหลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 กล่าวหาว่ามีการรับเงินจากขบวนการ “ส่วยเว็บพนันออนไลน์”
เอาแล้ว! อดีตประธาน กสม.ข้องใจแถลง การณ์ กสม.เอนเอียง
นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
เดือดจัด! รัฐบาล-วุฒิสภากัมพูชา ออกแถลงการณ์ประณามคนไทยใช้รูป 'ฮุนเซน' เป็นเป้ายิง
สำนักโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของคนไทยที่ใช้ภาพของ สมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นเป้ายิงปืนอัดลมชิงรางวัล ดูหมิ่นด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ
ตั้ง 'วัชรินทร์' อัยการเอฟบีไอสอบคดีทนายตั้ม
'โชคชัย' เซ็นตั้ง 'วัชรินทร์' อัยการเอฟบีไอนั่งหัวหน้าคณะทำงานอัยการร่วมสอบคดีทนายตั้ม ฟอกเงินฉ้อโกง 'เจ๊อ้อย' หลัง 'ไพรัช' รับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ชี้มีการโอนเงินกันในต่างประเทศ
หลานอดีตรัฐมนตรี ฟ้องกลับ 'ดาราสาว' หมิ่นประมาท หลังศาลยกฟ้องคดีมอมยาข่มขืน
นายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม นักธุรกิจ หลานชายอดีตรัฐมนตรี ที่ศาลยกฟ้องคดีข่มขืนดารา ส่งผู้รับมอบอำนาจเดินทางไปยื่นฟ้องอดีตดาราสาวชื่อย่อ ณ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
พี่เมียทนายตั้มเมินให้ความร่วมมือตำรวจสอบปากคำ
ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผย 'ดาว' พี่สาวเมียทนายตั้มไม่ให้ความร่วมมือในการสอบปากคำ เตรียมคุมตัวฝากขังพร้อมค้านประกัน

