'ดีอี' เตือน ข่าวปลอม 'ปปง.' เปิดเพจแจ้งความรับเงินคืนจากคดีออนไลน์

ดีอี เตือน ข่าวปลอม “ปปง. เปิดเพจแจ้งความ รับเงินคืนจากคดีออนไลน์” พบ “โจรออนไลน์” ใช้เป็นช่องทางหลอกลวงข้อมูล-หลอกโอนเงิน

28 ก.ค.2567 – นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 19 – 25 กรกฎาคม 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 851,933 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 248 ข้อความ
สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 204 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 43 ข้อความ และผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 209 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 102 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด จำนวน 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง ปปง. เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์

อันดับที่ 2 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินคืน ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ AOC

อันดับที่ 3 : เรื่อง เพจกระทรวงยุติธรรมปรึกษากฎหมาย รับเรื่อง ร้องเรียน ร้องทุกข์ เป็นเพจที่กระทรวงยุติธรรมจัดทำขึ้น

อันดับที่ 4 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรมเปิดเพจ Rescue crime เพื่อแจงขั้นตอน ยื่นคุ้มครองสิทธิ ขอเงินคืน

อันดับที่ 5 : เรื่อง พม. เปิดเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ตรวจสอบ-ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์

อันดับที่ 6 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ผู้ลงทุนโอนเงินเพื่อขอรับรองหรือรับประกันวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์

อันดับที่ 7 : เรื่อง กรมการจัดหางาน เปิดช่อง TikTok @dy18ozezoiod

อันดับที่ 8 : เรื่อง ลงทะเบียนรับทรัพย์สินคืนจากอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ – ETDA

อันดับที่ 9 : กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่ เพื่อรับสมัครงาน

อันดับที่ 10 : เรื่อง TikTok ศูนย์มาตรฐานฝีมือแรงานโฮมโปร สร้างช่างมืออาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ จาก 10 อันดับ ข้างต้น พบว่าทั้งหมดเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งทำหน้าที่การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอันดับ 1 และ 2 เป็นข่าวปลอมที่แอบอ้างหน่วยงาน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลจาก ป.ป.ง.พบว่า เพจและคลิปสั้นที่มีการโพสต์ดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งมิจฉาชีพได้ตัดต่อคลิปจากข่าวที่สื่อมวลชนเผยแพร่ และนำมาเพิ่มเติมข้อความ เพื่อหลอกผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงให้หลงเชื่อส่งข้อมูลและโอนเงินให้ตามที่อ้างว่า จะดำเนินเรื่องช่วยเหลือ โดย ป.ป.ง. ไม่เคยมีการเปิดให้ผู้เสียหายทุกรายคดี ยื่นคำร้องผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางแต่อย่างใด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือแชร์ข้อมูล ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนตัวบุคคล และทรัพย์สิน หรือหากมีการแชร์ เผยแพร่ต่อๆกันไป อาจกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมได้” นายเวทางค์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด
สามารถแจ้งเบาะแส ข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ โทรสายด่วน 1111 (24 ชม.)

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' รับรู้จัก 'เบน สมิธ' แต่ไม่สนิท ชี้ภาพเก่า 10 ปี รู้อยู่แล้วใครปล่อย

“อนุทิน” รับรู้จัก “เบนสมิท” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน ชี้ภาพที่เห็นออกเป็นรูปเก่า10ปี บอกสื่อก็รู้ว่าใครปล่อย ยันถ้าสนิททำไมไม่ได้สัญชาติ ไทย รับเป็นเหตุต้องพ้น มท. 1 โต้ “โรม” รู้จักผมน้อยไป หลังวิจารณ์ไม่ตั้งใจปราบสแกมเมอร์

เอาแล้ว! ปปง.อายัดหุ้นบางจาก 6 พันล้าน โยงเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามขาติ

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลสรุปเปิดปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์ข้ามชาติ นำโดย นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ ปปง.

นายกฯอนุทิน นำแถลงยึดทรัพย์หมื่นล้าน 'สแกมเมอร์ข้ามชาติ' ลั่นต้องขยายผลไม่มีหยุดพักปีใหม่

นายกฯ อนุทิน นำแถลง ยึดทรัพย์เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ "เฉิน จื้อ - ก๊ก อาน - ยิม เลียก - เบน สมิธ" พร้อมยึดทรัพย์มูลค่าหมื่นล้านบาท ยันพร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มที่ เดินหน้าขยายผลต่อไม่มีหยุดพักร้อน มอง "เบน สมิธ" โยงคนในรัฐบาล เป็นเรื่องคนรู้จักกันได้ แต่หากเจอหลักฐานถึงใครไม่มีละเว้น