แจ้ง 2 ข้อหาหนัก 'สุนทร วิลาวัลย์' พร้อมพวกสังหาร สจ.โต้ง

12 ธ.ค.2567 - พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีอุกฉกรรจ์ยิงนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิต ที่บ้านพักนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ว่า ช่วงเกิดเหตุเวลา 19.30 น.วันที่ 11 ธ.ค. สจ.โต้ง ได้เดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุ เข้าไปพูดคุยกับนายสุนทร ระยะหนึ่งจากนั้นได้ออกมาและกลับเข้าไปอีกครั้งจนเกิดมีปากเสียงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างรุนแรง จากนั้นนายกอล์ฟ และนายตูน ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก เป็นขนาด 9 มม.และปืนลูกซิงยิง สจ.โต้ง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งได้เข้าทำการปิดล้อมโดยตนได้ทำหน้าที่เจรจาต่อรองสื่อสารกับกลุ่มผู้ก่อเหตุโดยจะให้ความปลอดภัยและเป็นธรรมกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงยอมวางอาวุธปืนคลี่คลายสถานการณ์ควบคุมตัวนายสุนทร พร้อมกับพวก 6 คน ในที่เกิดเหตุพบศพ สจ.โต้ง อยู่ที่บริเวณชั้น 1 จุดเริ่มยิงจากชั้น 2 และตกลงบันไดมา

เรื่องการสอบปากคำได้แจ้งข้อหานายสุนทร พร้อมพวกรวม 7 คน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สอบปากคำไปแล้ว 3 ปากแต่เบื้องต้นยังมีพยานอื่นๆอีกมาก และพยานแวดล้อม 4 ปาก โดยผู้บังคับบัญชาได้กำชับแบ่งทีมกันสอบวางประเด็น ประเด็นงานสืบได้ให้ไปเก็บกล้องวงจรปิด หาพยานที่เกี่ยวข้องมาให้สังคมรับทราบ ส่วนการปราบปรามมีการดำเนินการกำหนดจุดตั้งจุดตรวจจุดสกัดไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน ตรวจค้นอาวุธปืน วัตถุระเบิด กระสุนปืน อย่างเข้มงวด

พ.ต.อ.ประสงค์ เผยต่อว่า ขณะนี้ทนายความได้เข้าร่วมรับฟังการสอบสวนทั้งหมด โดยเฉพาะนายสุนทร มีทนายส่วนตัว ส่วนผู้ต้องหาเป็นทนายจัดหา โดยเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานเพราะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล จากการตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนอีกจำนวนมาก จึงต้องคัดค้านการประกันตัว โดยการควบคุมตัวที่โรงพักเป็นเวลา 48 ชม. และจะนำตัวส่งศาลจังหวัดปราจีนบุรีในวันพรุ่งนี้(13ธ.ค.)ช่วงเช้า

“ประเด็นการทำคดีเบื้องต้นกำหนดไว้กว้างๆ 3 ประเด็น 1.ทะเลาะกันมาแต่เดิม 2.การเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะถึง 3.เหตุซึ่งหน้าอาจมีการขู่ทำร้ายกัน ขณะนั้นจึงส่งผลคนร้ายก่อเหตุ เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป โดยทางตำรวจจะดำเนินการด้วยความเป็นธรรมโปร่งใส และจะเร่งรัดปราบปรามอาวุธปืน เครื่องกระสุน อาวุธสงคราม เข้มงวดต่อไป” พ.ต.อ.ประสงค์ กล่าว