6 ม.ค.2568 - ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายเมธา พัดทอง หรือ "เมลาย รัชดา" และนายอลงกรณ์ แซ่ตั้ง หรือ "หนุ่ม เม้งการยางชลบุรี" สองอินฟลูเอ็นเซอร์เข้าพบพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หลังถูกออกหมายเรียกในฐานะพยานเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาความรุนแรงกับ นายธนาคาร คันธี หรือ "แบงค์ เลสเตอร์" อินฟลูเอ็นเซอร์ ที่เสียชีวิตจากการถูกบังคับให้ดื่มสุราเกินขนาด
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญทั้ง 2 คนมาสอบปากคำ ในฐานะพยานก่อน เนื่องจากเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปที่มีการแกล้ง แบงค์ เลสเตอร์ โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน ได้เดินทางไปพบพ่อและยายของแบงค์ที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อทำการสอบปากคำ ซึ่งพ่อและยายไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีในความผิดต่อส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กลั่นแกล้งให้อับอาย โดยให้เหตุผลว่าครอบครัวอยู่ในสภาวะขาดแคลน จึงไม่สะดวกที่จะเดินทางมาเพื่อติดตามคดี
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้เปิดคลิปต่างๆ ให้พ่อและยายของแบงค์ดู ซึ่งพ่อและยายก็ติดใจอยู่ประมาณ 3 คลิปที่มีการกลั่นแกล้งแบงค์ ได้แก่ คลิปเผาหัว , คลิปถีบตกน้ำ , และคลิปกินเจลหล่อลื่น ซึ่งขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฏหมาย ในความผิดอาญาแผ่นดิน โดยจะเป็นการดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฏในคลิปที่มีพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายแบงค์ แต่ไม่ได้ดำเนินคดีกับคนเผยแพร่เพราะเป็นความผิดต่อส่วนตัว
ด้าน พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยว่า กรณีของเมลาย รัชดา ปรากฏอย่างน้อย 2 คลิป คือคลิปที่ต่อย "แบงค์ เลสเตอร์" ตกน้ำ ซึ่งในคลิปนั้นมี นายธีระวัฒน์ หรือ เบิร์ดวันว่างๆ ร่วมอยู่ด้วย ส่วนอีกคลิป จะเป็นคลิปที่เมลาย มีการถีบแบงค์ และให้ลูกสาวตบศรีษะ โดยทั้งสองคลิปเมลายให้การว่า แบงค์เป็นคนเสนออยากทำคอนเทนต์นี้ เพื่อแลกกับเงินค่าจ้างคลิปละ 2,000 บาท
หลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เมลาย รัชดา และหนุ่ม เม้งการยางชลบุรี ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า การเข้าให้ข้อมูลในวันนี้ เป็นการให้ข้อมูลในฐานะพยานเกี่ยวกับคอนเทนต์ทำร้ายร่างกาย 3 คลิป โดยแต่ละคลิปมีการพูดคุยตกลงกันก่อนจะถ่ายทำแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติเวลาที่อินฟลูเอ็นเซอร์มารวมตัวกัน เพราะจะต้องมีการตกลงกันว่า ใครจะถ่ายคลิปอะไร และลงช่องใคร ซึ่งคลิปที่ตนถีบแบงค์ และลูกสาวตบศีรษะแบงค์ ยืนยันว่า แบงค์เป็นคนคิดคอนเทนต์นี้เอง
ขณะที่ เม้งการยางชลบุรี ระบุว่า ตัวเองไม่ได้เจตนาที่จะให้แบงค์ รับประทานเจลหล่อลื่น เป็นเพียงแต่การทำคอนเทนต์เพื่อลงในสื่อโซเชียลเท่านั้น พร้อมอ้างว่าตัวเองไม่ทราบว่าสิ่งที่หยิบให้แบงค์รับประทานเป็นเจลหล่อลื่น เนื่องจากไม่ได้สังเกต โดยตัวเองได้ให้เงิน 2,000 บาท
นอกจากนี้ทั้งสองคนยังบอกอีกว่า หลังจากนี้จะเลิกทำคอนเทนต์ขยะอีกแล้ว เพราะสังคมมองว่าเป็นขยะ ก็ต้องยอมรับว่าเป็นขยะ ส่วนคำที่สังคมบอกว่า คอนเทนต์ตลาดล่าง ตนก็ยอมรับแต่โดยดี และยังบอกอีกว่า ที่ตนมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะคอนเทนต์ตลาดลาง
เมลาย รัชดา กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หลังจากนี้จะยกเลิก การจัดทริปน้ำไม่อาบ พร้อมขอโทษที่สร้างความรำคาญให้กับสังคมและผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจมะขามหวาน สกัดจับ 'ทริปน้ำไม่อาบ' ปรับ 1,481 ราย เสพยาอีก 1
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับเข้มในการประชุมบริหารจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตร. เตือนอินฟลูตลาดล่าง ทำคอนเทนต์ขยะ ทำร้ายคนเขมรในไทย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
โฆษก ตร. เตือนคนไทยหัวร้อนบางกลุ่มคิด พวกอินฟลูตลาดล่าง ชอบทำคอนเทนต์ขยะ ขอให้แยกแยะ หลังมีคลิปทำร้ายคนกัมพูชาในไทย พร้อมสั่งกำชับดูแลทรัพย์สินประชาชนที่อพยพออกจากบ้าน
'แพรรี่' ฟาดเดือด! ชาวเน็ตแซะ ปมให้กำลังใจทหารไทย
"แพรรี่" ไพรวัลย์ วรรณบุตร อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้ผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่ง ซึ่งได้แคปโพสต์ของ แพรรี่, บุ๋ม ปนัดดา และคนดังอีกหลายคน
คุก 2 ปี 'เบิร์ดวันว่างๆ' รับสารภาพโพสต์คลิปอนาจาร 'แบงค์ เลสเตอร์' ศาลลดโทษเหลือ 1 ปี
ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำอทย165/2568 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 ยื่นฟ้องนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือ "เบิร์ด วันว่างๆ" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในโซเชียล เป็นจำเลย ข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์
รบ.ย้ำทุกอาชีพที่มีรายได้ต้องยื่นภาษีเบี้ยวเจอปรับและคุก
รัฐบาลย้ำทุกอาชีพที่มีรายได้ต้องยื่นภาษี หากพบเจตนาหลบเลี่ยงภาษี อาจถูกจำคุกไม่เกิน 1 ปี - ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เตือนอย่าหลงเชื่อ E-mail แอบอ้างโครงการลดหย่อนภาษี


