5 ก.พ.2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดูแลแนวชายแดน หลังกฟภ.มีการตัดกระแสไฟฟ้าตามคำสั่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งหมด 5 จุด เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในวันนี้ ว่า ได้สั่งการในที่ประชุมเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดกวดขัน โดยได้กำชับมาตรการ 7 ช่วง โดยกำหนดว่าแต่ละช่วงหน่วยงานใดต้องทำอะไร ทั้งนี้ หากเราทราบข้อมูลชาวต่างชาติตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ หรือ เข้ามาแล้วที่บริเวณหน้าช่องตรวจแล้วเรามีข้อมูล กระบวนการอื่นก็จะไม่เกิด หรือ เกิดน้อยที่สุด
ส่วนแนวชายแดนเราดูการพำนัก การกิน การใช้ โดยมอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 6 สตม.และตชด. ร่วมมือกันเอาข้อมูลมาตรวจสอบ สิ่งที่เราต้องทำขณะนี้คือการสกัดกั้นไม่ให้มีการหลอกลวงชาวต่างชาติข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ทราบว่ามีการปิดกั้นการอนุญาตให้ออกไปเยอะมาก ตรงนี้เป็นความคืบหน้าในสิ่งที่ตนได้สั่งไป
“ส่วนเรื่องการตัดน้ำตัดไฟ ตนอยากชี้แจงว่า คงไม่ไปก้าวก่ายหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ อยากให้ทางหน่วยงานนั้นเป็นผู้ให้ข้อมูลจะดีกว่า เราเป็นตำรวจหน้าที่เรามีอยู่แล้ว ถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดมีส่วนช่วยเหลือผู้กระทำผิด ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด”ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงสถานการณ์แนวชายแดนหลังมีการตัดน้ำตัดไฟ ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับการลักลอบส่งน้ำมัน นำพาชาวต่างชาติข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ตำรวจทำเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกดำเนินการทางปกครอง เรื่องนี้ตำรวจมีความตั้งใจและจริงจัง เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดเหตุแบบนี้กับคนต่างชาติ หรือแม้แต่คนไทย ที่ถูกล่อลวงออกไปแล้วถูกทารุณกรรม หรือ ค้ามนุษย์ รวมทั้งไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วมาหลอกลวงคนไทย
ส่วนกรณีชาวจีนที่มีหมายจับของทางการจีนหรือตำรวจสากลจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการหารือกับนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง และสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการจีนในระงับยับยั้งและปราบปรามเรื่องนี้ ถ้าหากในขั้นตอนแรกก่อนเข้าประเทศเรามีข้อมูลหรือระบบการลงข้อมูลในตม.6 ทราบว่าขณะนี้สตม.ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศในการปรับปรุงข้อมูลในตม.6 ออนไลน์ ก็จะช่วยคัดกรองชาวต่างชาติรวมทั้งติดตามเฝ้าระวัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตนได้สั่งการกองบังคับการสืบสวนสตม.รวบรวมสถิติการเดินทางของชาวต่างชาติจัดทำเป็นวอทลิสต์ เพื่อสะดวกในการติดตามอีกทางหนึ่งด้วย
เมื่อถามถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ออกมาระบุว่ามีตำรวจไทย ยศพล.ต.ต. หรือ ผู้การ ต. เป็นเจ้าของกาสิโนฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า สั่งการให้จเรตำรวจ ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าเรารับฟังทุกความเห็น หากพบว่าเป็นความจริง เบื้องต้นตนจะดำเนินการทางปกครองก่อน หลังจากนั้นจะมีความผิดอาญาหรือวินัย ก็เป็นเรื่องของพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้จะให้ทางจเรตำรวจประสานขอข้อมูลกับนายรังสิมันต์ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
ที่ปรึกษาโรม ชี้นับหนึ่งล้างสแกมเมอร์ข้ามชาติ กังขาไม่ออกหมายจับ-กลต.ไม่ขยับ
น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ที่ปรึกษา ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ(นายรังสิมันต์ โรม) โพสตเฟซบุ๊กว่าหลังจากที่ ปปง. แถลงข่าวเรื่องอายัดทรัพย์
ผบ.ตร. หารืออธิบดีกรมบัญชีกลาง เพิ่มเงินค่าตอบแทนพนักงานสอบสวน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ชอบเพื่อน ผู้บัญชาการสำนักงานงบประมาณและการเงิน และคณะ ได้เดินทางไปยังกรมบัญชีกลาง
'โรม' ไล่บี้นายกฯ ปลด 'ธรรมนัส' พ้นรัฐบาล หลัง ปปง. ยึดทรัพย์ 'เบน สมิธ'
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ระบุถึงกรณีที่ ปปง. ยึดทรัพย์ยิม เลียก-เบน สมิธ หรือเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์


