
เครือข่ายคนฮักทุุ่งกุลา โยนโจทย์ใหญ่ ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด ปกป้องผืนดินข้าวหอมมะลิโลก หรือปล่อยผืนดินทุ่งกุลาเปลี่ยนเป็นไร่อ้อยเกือบ 3 แสนไร่
17 ธ.ค.2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ของกลุ่มประชาชนในนาม เครือข่ายคนฮักทุ่งกุลา นัดพี่น้องรวมพล ในวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566 เวลา 08.00 น. ณ ลานข้างเทศบาลตำบลโนนสวรรค์ เพื่อไปยังหน้าสำนักงานบริษัท สมานฉันท์กรับใหญ่ จำกัด รวมถึงเรียกร้อง ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด ถึงประเด็นการปกป้องผืนดินทุ่งกุลาสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิโลก หรือเปลี่ยนเป็นไร่อ้อย ทำลายทรัพยากรและวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เฟซบุ๊ก ชมรมคนรักษ์โนนสวรรค์ ระบุข้อความช่วงหนึ่งว่า ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งหรือขยายโรงงานน้ำตาลในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. 2558’ ที่ออกตามความพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 โดยให้สามารถตั้งโรงงานขึ้นใหม่และย้ายโรงงานเดิมไปตั้งยังที่อื่น (โดยยังคงกำลังการผลิตเดิมหรือเพิ่มกำลังการผลิตก็ตาม) และเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานเดิมที่ตั้งอยู่ในที่เดิม ได้ในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เมื่อโรงงานที่จะตั้งนั้นมีระยะห่างจากเขตโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตไว้แล้วไม่น้อยกว่า 50 กิโลเมตร
ซึ่งขัดกับ ‘ประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง กำหนดท้องที่ที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริมการปลูกอ้อย พ.ศ. 2548’ ที่ออกตามความพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ที่กำหนดให้ท้องที่ที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริมการปลูกอ้อยต้องมีรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากโรงงานน้ำตาลที่ใกล้ที่สุด เพื่อที่จะทำให้โรงงานและพื้นที่ปลูกอ้อยมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นและเร็วขึ้น
จึงกำลังสร้างปัญหาใหญ่มากบนผืนดินอีสาน เช่น โครงการโรงงานผลิตน้ำตาลทรายและโรงไฟฟ้าชีวมวล ต.โนนสวรรค์ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด ของบริษัท สมานฉันท์กรับใหญ่ จำกัด ก็เกิดขึ้นภายใต้ประกาศฯดังกล่าว เพื่อหวังจะเปลี่ยนนาข้าวหอมมะลิชั้นเยี่ยมของโลก พื้นที่กว่า 288,000 ไร่ ให้เป็นไร่อ้อย
ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ อ.ปทุมรัตต์และอำเภออื่น ๆ ทั้งใน จ.ร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียงได้กลายเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นเยี่ยมของทุ่งกุลา ซึ่งได้รับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงเป็นพื้นที่เป้าหมายของแผนพัฒนาภาคอีสานของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อ 15 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ให้เป็นพื้นที่เพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ในการแปรรูปข้าวหอมมะลิให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและยกระดับกลุ่มผู้ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาสู่มาตรฐานสินค้าอย่างครบวงจร
ทุ่งกุลาบ้านของเฮาจึงกำลังถูกคุกคามและกดดันอย่างหนักจากหน่วยงานรัฐและบริษัทดังกล่าวให้เกษตรกรเปลี่ยนนาข้าวเป็นไร่อ้อยให้ได้อย่างน้อย 288,000 ไร่
นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่พี่น้องเครือข่ายคนฮักทุ่งกุลาขอนัดพี่น้องรวมพล เพื่อทวงคืนความเป็นธรรม ในวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566 08.00 น. ณ ลานข้างเทศบาลตำบลโนนสวรรค์ ตั้งขบวนเวลา 09.00 น. เดินจากลานข้างเทศบาลตำบลโนนสวรรค์ไปที่หน้าสำนักงานบริษัท สมานฉันท์กรับใหญ่ จำกัด
“ผู้ว่าฯร้อยเอ็ดต้องมีคำตอบว่าจะปกป้องผืนแผ่นดินทุ่งกุลาสำหรับเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิโลก หรือจะเปลี่ยนเป็นไร่อ้อยเพื่อตอบสนองนายทุนที่ละโมบ จ้องทำลายความอุดมสมบูรณ์ในผืนดิน ผืนป่า ผืนฟ้า ผืนน้ำบ้านของเฮา”
#ปกป้องทุ่งกุลา
#ปกป้องแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิของโลก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซ้อนแผนรวบ! อดีตนายอำเภอเมืองสรวง คดีไม้พะยูง ก่อนหมดอายุความ 3 วัน
จับกุมอดีตนายอำเภอเมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับคดี ม.157 พัวพันออกหนังสือรับรองไม้พะยูงข้ามชาติ หลังหลบหนีไป สปป.ลาว เจ้าหน้าที่ซ้อนแผนเกลี้ยกล่อมจนกลับเข้าไทย ก่อนครบอายุความ 15 ปีเพียง 3 วัน
หนุ่มสุรินทร์เกี่ยวข้าวหอมมะลิ 22 ไร่ บริจาคโรงทานหลวง ถวายเป็นพระราชกุศล
ชาวนาตาอ็องเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิราว 10 ตัน เตรียมนำไปสี-บรรจุถุง ส่งให้โรงทาน ณ ท้องสนามหลวง หุงแจกประชาชนที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ข้าวเปียกขายไม่ออก! ชาวนาบุรีรัมย์หอบข้าวตากริมถนน สู้ฝน-สู้ราคา
หลังพายุ “คัลแมกี” ถล่มทำข้าวเปียกชื้น โรงสีไม่รับซื้อหรือกดราคาต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโล ชาวนาหลายหมู่บ้านใน อ.เมือง บุรีรัมย์ ต้องขนข้าวเปลือกกลับมาตากหน้าบ้าน ริมถนน หวังไล่ความชื้นก่อนนำไปขายใหม่เพื่อใช้หนี้และเลี้ยงครอบครัว
บุกจับ 'นิสิต-พ่ออดีตรัฐมนตรี' หลังหลบหนีคดีล้มอาเซียนซัมมิตนาน 6 ปี
อดีตแกนนำคนเสื้อแดงถูกจับที่ร้อยเอ็ด หลังหลบหนีหมายจับศาลพัทยาไม่ไปฟังคำพิพากษา จำคุก 4 ปี คดีก่อม็
กรมอุตุฯ เตือน 30 ต.ค.-2 พ.ย.รับอากาศแปรปรวนโดยเฉพาะ 8 จังหวัด
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


