
19 ธ.ค.2566- จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอห้วยราช สนง.วัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ สนง.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ททท.สำนักงานบุรีรัมย์ สนง.พัฒนาชุมชน และ ชมรมว่าวห้วยราช เตรียมจัดงานประเพณีมหกรรมว่าวอีสาน จังหวัดบุรีรัมย์ ครั้งที่ 34 ภายใต้ชื่องาน “มหกรรมว่าวอีสานบุรีรัมย์ นอนดูดาว ชมว่าวกลางคืน” ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 22-24 ธ.ค.66 นี้ ณ บริเวณสนามแข่งว่าวอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ (ข้างมหาวิทยาลัยรามคำแหงฯ จังหวัดบุรีรัมย์)
เพื่อสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นไม่ให้สูญหายไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในเขตพื้นที่จังหวัดเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยภายในงาน พบกับกิจกรรมสืบทอดภูมิปัญญา และอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ได้แก่ การแข่งขันว่าว แอกโบราณ และว่าวแอกพัฒนา , การแข่งขันแกว่งแอก , การประดิษฐ์ว่าวยุวชน , การสาธิตการทำว่าว , การประกวดว่าวยักษ์
พิธีทำขวัญข้าว ตัดกรรม สะเดาะเคราะห์และเสริมชะตาชีวิต การจำลองวิถีชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิม กลางคืนนอนดูดาว ชมว่าว ฟังเสียงว่าวแอก การแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านของลูกหลานชาวอำเภอห้วยราช และการแสดงดนตรีศิลปะพื้นบ้านอีสานใต้
นอกจากนี้ ยังจะได้เลือกซื้อสินค้าของดีและ OTOP ประจำตำบลอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านในหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ก็ได้เริ่มประดิษฐ์ว่าวเตรียมเข้าร่วมแข่งขันภายในงานดังกล่าวคึกคักแล้ว อีกทั้ง ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาการแข่งขันว่าวแอกโบราณและว่าวแอกพัฒนาให้เป็นกีฬาทางอากาศที่ได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ งานประเพณีมหกรรมว่าวอีสาน จังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไปชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับการเล่นว่าวของคนอีสานส่วนมากจะแฝงไว้กับจุดมุ่งหมาย โดยเฉพาะเรื่องการบวงสรวง หรือเสี่ยงทาย ความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหาร โดยเชื่อว่าหากปีใดว่าวขึ้นสูงติดลมบนตลอดทั้งคืนจะพยากรณ์ว่าปีหน้าฟ้าฝนดี ข้าวปลาอาหาร สมบูรณ์
ส่วนชาวท้องถิ่นไทยเขมร เชื่อกันว่าการชักว่าวขึ้นให้ติดลมบน และเสียงของแอกที่ดังโหยหวนเป็นการสร้างกรรม เมื่อเลิกเล่นจึงนิยมตัดว่าวทิ้ง ถือว่าเป็นการตัดเวรตัดกรรมออกไปและสะเดาะเคราะห์ โดยจะผูกข้าวปลาอาหารให้ล่องลอยไปกับตัวว่าวด้วย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน
กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว

