สุดรันทด! หญิงลูก 4 เลี้ยงแม่ชราพิการ เจอหมายเรียก ร้องทนายช่วยหวั่นเป็นแพะ

7 มิ.ย. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ น.ส.อมรา โจมรัมย์ อายุ 33 ปี ชาวอำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ถือหมายเรียกของสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ที่แจ้งว่าเธอตกเป็นผู้ต้องหาคดี “ฉ้อโกง” ให้เดินทางไปพบที่ สน.คันนายาว กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์ ด้วยน้ำตานองหน้า

โดย น.ส.อมรา ยืนยันว่า ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ไม่เคยรู้จักกับผู้กล่าวหาในหมายเรียกเลย จึงเกรงว่าจะตกเป็นแพะหรือเป็นการออกหมายเรียกผิดคนหรือไม่ ซึ่งจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องให้ทนายอั๋นช่วยเหลือ ที่สำคัญเธอมีฐานะยากจน ไม่มีกระทั่งค่ารถที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ มีรายได้จากการรับจ้างทั่วไปก็แทบไม่พอกิน เพราะต้องเลี้ยงลูกถึง 4 คน และต้องดูแลแม่ชราอายุ 78 ปี ที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย จึงอยากวอนให้ตำรวจที่ออกหมายเรียกตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นการออกหมายผิดตัวหรือไม่ ซึ่งหลังจากได้รับหมายเธอก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเครียดมาก

ทนายอั๋น กล่าวว่า จากกรณีที่หญิงคนดังกล่าวมาร้องขอความช่วยเหลือว่าได้รับหมายเรียกตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง เบื้องต้นตนต้องถือว่าเป็นผู้เสียหายเพราะเขายืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่จู่ๆ ได้รับหมายเรียกจาก สน.คันนายาว ในข้อกล่าวหาว่า “ฉ้อโกง” ซึ่งจากที่สอบถามเขาก็บอกว่าไม่ได้รู้จัก ไม่เคยทำนิติกรรม หรือมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับผู้กล่าวหาเลย และไม่เคยขายของออนไลน์ เพิ่งจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ 2 เดือน แต่แม่ซึ่งพิการมีอาการป่วยต้องกลับมาดูแล ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน

แต่ในเมื่อมีหมายเรียกมาแม้ว่าจะกระทำผิดหรือไม่ได้กระทำผิด ก็ต้องไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพราะถ้าไม่ได้ก็จะถูกออกหมายจับตามขั้นตอน ซึ่งเบื้องต้นได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับตำรวจที่ออกหมายเรียกเคสดังกล่าวแล้ว ท่านก็ยืนกรานอย่างเดียวว่าต้องไปตามหมายเรียก และไม่ได้แจ้งรายละเอียดอะไรให้ทราบว่าทำไมหญิงคนนี้ถึงถูกออกหมายในคดีฉ้อโกง

ซึ่งหญิงคนที่ถูกออกหมายเรียกรายนี้ ฐานะยากจนรับจ้างทั่วไปหาเช้ากินค่ำ มีลูกถึง 4 คน ที่ต้องเลี้ยงดู แถมยังมีภาระดูแลแม่ชราพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีก แล้วต้องเสียเงินเสียเวลาเดินทางไปอีก แต่หากเดินทางไปตามหมายเรียกแล้วค่อยมาตรวจสอบว่าออกหมายผิดคน แล้วใครจะรับผิดชอบ

ทนายอั๋น ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า ข้อหาฉ้อโกงเป็นการกล่าวหาระหว่างคนสองคน คือผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหา จะต้องรู้จัก มีปฏิสัมพันธ์ และมีการหลอกลวงกัน ดังนั้น กรณีนี้ก็ต้องมีผู้ใดผู้หนึ่งที่ให้ความเท็จ ซึ่งหากเขาไม่มีค่ารถไปจริงๆ ตนก็จะอาสาพาไปพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของเขา ซึ่งหากตัวน้องทำผิดจริงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่หากไม่ผิดต้องมีคนรับผิดชอบ ก็อยากฝากถึงตำรวจที่ออกหมายเรียก หรือผู้บังคับบัญชา สน.คันนายาว ช่วยตรวจสอบเคสนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนที่จะครบกำหนดเดินทางไปพบตามหมายเรียก เพราะดูจากสภาพแล้วแม้แต่ค่ารถก็ยังไม่มีน่าสงสารมาก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บุรีรัมย์'จัดใหญ่ใส่เต็ม 3บิ๊กอีเว้นต์กีฬาระดับโลก 'มาราธอน-โมโตจีพี-รอบเทสต์'ฤดู2026

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “พรี-ซีซั่นเทสต์และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026”  เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิ๊กอีเว้นต์ระดับโลก

ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์

ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง  คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว  หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน