กรมการค้าภายในนำผู้ประกอบการ ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก รับซื้อหอมหัวใหญ่จากกลุ่มเกษตรกร อำเภอแม่วาง ในราคานำตลาด ตั้งเป้า 10,000 ตัน ก่อนเกษตรกรขนม็อบบุก
1 มี.ค.2568 - ที่อำเภอแม่วาง นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ร่วมกับ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ในการติดตามสถานการณ์การค้าหอมหัวใหญ่ และนำผู้ประกอบการร้านค้า ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ผู้รวบรวมผลผลิตส่งโรงงานแปรรูป กว่า 19 ราย เข้ารับซื้อหอมหัวใหญ่จากกลุ่มเกษตรกรอำเภอแม่วางโดยตรงเพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรโดยรับซื้อหอมหัวใหญ่จากกลุ่มเกษตรกรอำเภอแม่วางในราคานำตลาด 12 บาท/กก. จากราคาตลาดที่ 9 บาท/กก. โดยตั้งเป้าหมายในการรับซื้อครั้งนี้จำนวนกว่า 10,000 ตัน หลีงจากผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดและราคาตกเกษตรกรร้องขอความช่วยเหลือก่อนหน้านี้
ขณะนี้เกษตกรเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตบางส่วนโดยคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากที่สุดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม 2568 นี้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เกษตรกรขอให้ภาครัฐช่วยกำกับดูแล ป้องกันการลักลอบนำเข้าหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาหอมหัวใหญ่ภายในประเทศ เบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือถึงทุกภาคส่วนเข้มงวดกวดขันการลักลอบนำเข้าหอมหัวใหญ่จากต่างประเทศและประชาสัมพันธ์หอมหัวใหญ่ในประเทศ ที่กำลังออกสู่ตลาด เพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคหอมหัวใหญ่ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหอมหัวใหญ่ในประเทศขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น
ปัจจุบันราคาหอมหัวใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ (หอมหัวใหญ่คละ เบอร์ 0-3) ในขณะนี้ ราคา 11 บาท/กก. ลดลงจากช่วงต้นเดือนมกราคม 2568 จำนวน 1-2 บาท/กก. ราคาหอมหัวใหญ่ ณ ตลาดเมืองใหม่ ตลาดค้าส่งผักขนาดใหญ่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ ราคาหัวหัวใหญ่เบอร์ 0 – 3 อยู่ที่กิโลกรัมละ 18 – 19 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ทั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่จะติดตามสถานการณ์หอมหัวใหญ่อย่างใกล้ชิด
ด้านนายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า พืชสามหัว กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่อยู่ในมาตรการเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด คาดการณ์ สถานการณ์การผลิตหอมหัวใหญ่พื้นที่อำเภอแม่วาง ปี 2567/68 มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 2,100 ไร่ มีพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิต(ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2568 ) รวม 420 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 20 โดยจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ปลูกหอมหัวใหญ่ในพื้นที่อำเภอฝางมากที่สุดราว 2,700 ไร่ รองลงมาอำเภอแม่วาง จำนวน 2,100 ไร่ลดจากปีก่อน 2,600 ไร่ และจำนวนผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นจาก 4,200 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มเป็น 4,600 กิโลกรัมต่อไร่ หรือมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ประมาณกว่า 29,000 ตัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดดอยอินทนนท์ ทำสถิติหนาวสุดปีนี้ 2 องศา น้ำค้างแข็งเกิดขึ้นต่อเนื่องวันที่ 4
มีรายงานการเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง (เหมยขาบ หรือ แม่คะนิ้ง) เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ของฤดูหนาวปี 2568 บริเวณจุดชมวิวทะเลเมฆ ติดกับเนินหญ้าลานจอดรถ รวมถึงบริเวณเนินหญ้า หน่วยพิทักษย์ยอดดอยอินทนนท์ (อน.5) โดยเช้านี้ ยอดดอย อุณหภูมิทั่วไป ต่ำสุด 2 องศา ส่วนอุณหภูมิยอดหญ้า วัดได้ - 2.3 องศา ทำสถิติหนาวที่สุดในฤดูหนาวปีนี้
'ยอดดอยอินทนนท์' อุณหภูมิเลขตัวเดียวมีเหมยขาบติดต่อกันวันที่สาม
ยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิยังเป็นเลขตัวเดียวแตะต่ำสุดครั้งแรกในฤดูหนาวปีนี้ 3 องศาฯ มีเหมยขาบติดต่อกันวันที่ 3 นักท่องเที่ยวคึกคัก
ชุมชนริมกก โอดสูญเสียพื้นที่ทำกิน เศรษฐกิจชุมชนพังพินาศ จากเหตุสารพิษปนเปื้อนแม่น้ำ
ชุมชนริมกกโอดสูญเสียพื้นที่ทำกิน เศรษฐกิจชุมชนพังพินาศ ขาดแคลนน้ำสะอาด หนี้สินท่วมท้นจากเหตุสารโลหะหนักปนเปื้อนแม่น้ำ ชาวบ้านต้องยอมกินปลาในแม่น้ำพิษ
ฮือฮา! ค้นพบพืชสุดหายาก 'ดอกไม้ผี' ไร้ใบ ไม่มีคลอโรฟิลล์ ตัวตนลึกลับ
สุดว้าวกับปริศนา 'ดอกไม้ผี' ไร้ใบ ไร้แสง ตัวตนลึกลับ ระดับ Extremely Rare นักวิจัยพบครั้งแรกเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ - เชียงราย โชว์ตัวผ่านโซเชียลครั้งแรกในไทย
มาเป็นทีม! ปชน.จี้กรมการปกครองล่าส่วยสัญชาติ
'วิโรจน์-สมดุลย์' ร้อง 'กรมการปกครอง' เร่งเอาผิดผู้เกี่ยวข้องถึงที่สุด พร้อมแฉขบวนการ 'ส่วยสัญชาติ' เรียกเงินหลักหมื่นแลกขอสัญชาติ-ทำบัตร ปชช. เชื่อมีปัญหาคล้ายกันอีกหลายพื้นที่
'กัณวีร์' แฉส่วยสัญชาติทำเสียหาย 2,500 ล้านบาท!
'กัณวีร์' แฉทุจริตจ่ายส่วยแลกสัญชาติ คาดยอดเสียหายพุ่ง 2,500 ล้าน จี้ 'อนุทิน' เร่งแก้ปัญหาด่วน พร้อมชงข้อเสนอ 5 ข้อ


