ชาวบ้านด่านขุนทดงัดอำนาจ 'รัฐ-ทุนเขียว' ระเบิดอุโมงค์ใหม่โปแตช

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ชุมนุมแสดงพลัง “ก่อนบ้านจะบึ้ม เราจะบล็อก” เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเหมืองแร่โปแตช บางจาก ยุติการเดินหน้าขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ด้วยการใช้ระเบิด ขณะที่ผลกระทบทำลายชุมชนย่อยยับยังไม่สะสาง  พร้อมกระชากหน้ากากทุนจีนเหมืองโปแตชศูนย์เหรียญ

4 พ.ค.2568 – มีความคืบหน้า การเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนในนาม กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ที่วัดสระขี้ตุ่น  ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ประกาศการชุมนุมแสดงพลัง “ก่อนบ้านจะบึ้ม เราจะบล็อก” เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเหมืองแร่โปแตชภายใต้การควบคุมของบริษัทบางจากยุติการเดินหน้าขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ด้วยการใช้ระเบิด

ภิรมย์ มืดขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมานับแต่เหมืองแร่โปแตชแห่งนี้เข้ามาดำเนินการในพื้นที่ ผลกระทบก็ได้เริ่มปะทุขึ้น ลักลอบปล่อยน้ำเค็มออกมานอกโครงการจนที่ดินทำกินของชาวบ้านในพื้นที่เสียหาย  แหล่งน้ำสาธารณะถูกทำลายใช้ประโยชน์ไม่ได้ จนทำให้หลายคนต้องจำใจขายที่ดินเพื่อหนีผลกระทบ บ้านที่เป็นผืนดินผืนสุดท้ายของหลายคน ก็ถูกกัดกร่อนจากไอเกลือจนไม่รู้ว่าจะถล่มลงมาในวันไหน

ภิรมย์ ระบุว่า แต่นอกจากผลกระทบจะไม่ถูกแก้ไขใดๆแล้ว สถานการณ์ในพื้นที่กลับยิ่งเลวร้ายลง เมื่อมีการอนุญาตให้บริษัทเหมืองแร่เปลี่ยนแปลงแผนผังโครงการทำเหมือง ด้วยการใช้ระเบิดในการขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ โดยไม่สนใจที่จะหาสาเหตุของผลกระทบที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการคุกคามนักปกป้องสิทธิฯด้วยการฟ้องคดีปิดปาก หวังผลให้กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯหวาดกลัวและหยุดกระบวนการเคลื่อนไหว โดยหลังจากนั้นเพียงไม่นานตัวละครลับก็ได้ปรากฏตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2567 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด

“การเข้ามาของนายทุนใหญ่ภาพลักษณ์สีเขียว ทำให้กระบวนการตรวจสอบในพื้นที่ถูกแช่แข็งทันที ข้อมูลถูกปกปิด เกิดการประสานงานทั้งหน่วยงานของรัฐ และองค์กรอิสระบางองค์กรจนทำให้กระบวนการตรวจสอบถูกบิดเบือนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนใหญ่สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ โดยไม่ต้องฟังเสียงของผู้คัดค้าน ทั้งที่การใช้ระเบิดดังกล่าวอยู่ใจกลางพื้นที่เกษตรกรรม อยู่ใกล้พื้นที่ชุมชน และมีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดปัญหากับระบบน้ำใต้ดิน และอุโมงค์แนวเอียงเดิมที่มีปัญหา” ภิรมย์ ระบุ

ภิรมย์ ระบุด้วยว่า แต่สิ่งที่น่ากังวลใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อปรากฏคนงานจีนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่เพื่อเข้าทำงานในบริษัทเหมืองแร่ มีการกันเขตเฉพาะคนจีนห้ามคนไทยเข้า และเมื่อเข้าไปค้นข้อมูลของบริษัทฯที่ประกาศรับคนงาน ก็พบข้อสงสัยมากมาย จนเกรงว่าการขุดอุโมงค์ใหม่รอบนี้ คุณภาพอาจไม่ต่างกับตึกสตง. และกลายเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ตามคำนิยามที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้กล่าวไว้

ขณะที่เดือนรุ่ง มูลขุนทด ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ระบุว่า เราจะไม่ยอมให้บ้านเราต้องเป็น “ตึก สตง.2” เป็นอันขาด จึงขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมติดตามและให้กำลังใจกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ในการร่วมกันแสดงพลังในการบล็อกพื้นที่ “ก่อนบ้านจะบึ้ม เราจะบล็อก” เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเหมืองแร่โปแตชภายใต้การควบคุมของบริษัทบางจาก ต้องยุติการเดินหน้าขุดเจาะอุโมงค์ใหม่ด้วยการใช้ระเบิด รับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น ตรวจสอบหาสาเหตุของผลกระทบอย่างโปร่งใสและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม และต้องแก้ไขปัญหาผลกระทบอย่างจริงจังไม่ใช่แค่ CSR

ด้านเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์  ระบุว่า เมื่อบริษัทบางจากซื้อแร่โปแตชต่อจากบริษัทไทยคาลิความคิดเปลี่ยนไป จากที่ว่าเอาเฉพาะแร่โปแตชมาผลิตปุ๋ยเคมีไม่เพียงพอแต่ต้องการเกลือชนิดอื่นๆขึ้นมาพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ภาพของด่านขุนทดจะเปลี่ยนไป จะไม่มีแค่เฉพาะโรงงานจากการผลิตแต่โปแตชเพื่อเอาไปทำปุ๋ยเคมีอย่างเดียว แต่จะต้องมีโรงงานอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ เพื่อจะเอาเกลือพวกนั้นมาใช้

“บางจากต้องถอนหุ้น ต้องยืนยันในธุรกิจสีเขียวที่เติบโตมา การซื้อเหมืองแร่โปแตชที่ด่านขุนทดมันทำให้ปรัชญาของบริษัทที่เติบโตมากลับหัวกลับหาง หากยังดื้อรั้นต่อไปภาพลักษณ์ของบางจากมีแต่จะพังขึ้นเรื่อยๆ” เลิศศักดิ์ ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้รวมตัวกันจัดคาราวานรถแห่พร้อมทั้งเดินเท้าเคาะประตูบ้านในชุมชนรวมทั้งแจกใบปลิวเพื่อเชิญชวนชาวบ้านในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียงมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 6 พ.ค. นี้ โดยประกาศรวมพลที่ วัดหนองไทร ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ชาวบ้านหนองไทรและหนองบัวตะเกียด รวมตัวเรียกร้องมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ต่อผลกระทบที่เกิดจาก “โครงการเหมืองแร่โปแตช” ของบริษัทเอกชนรายใหญ่ ที่ทำให้บ้านเรือนผุพังจากการกัดกร่อนของเกลือที่ดินทำกินเสียหาย น้ำใต้ดินเค็มเกินมาตรฐาน และเกิดน้ำผุดผิดธรรมชาติในบ้านเรือนประชาชน

แต่เสียงของชุมชนยังคงถูกเพิกเฉย ล่าสุดกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) โดยนายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดี กพร. ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่าจะมีการ “ระเบิดอุโมงค์ใหม่” ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้โดยเริ่มจากการขุดอุโมงค์แนวดิ่งบริเวณ “ดอนหนองโพ” ซึ่งติดกับพื้นที่เกษตรของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ ต.หนองบัวตะเกียด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประธานพาราฯชวนร่วมเชียร์ ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย สู้ศึกอาเซียนฯ2026โคราช

ร.ท. ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา อาเซียนพาราเกมส์ 2026 ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 20–26 มกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา

โคราชเดือด! ถล่มยิงเป้าผู้นำเขมร

สโมสรกีฬายิงธนูโคราชเปลี่ยนเป้าซ้อมเป็นรูปผู้นำกัมพูชา ทั้งฮุน เซน–ฮุน มาเนต รวมถึงโฆษกกองทัพและอินฟลูเอนเซอร์เขมร ลูกค้าแห่ทดลองยิง ระบุเป็นกิจกรรมผ่อน

'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' หอบลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย แต่ไม่เอา 'แจ้'

'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' นำลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย เสริมแกร่งโคราช 3 เขต เผยกำลังวางยุทธการให้ 'ยศชนัน' ลงปาร์ตี้ลิสต์หรือไม่