
กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด บุรีรัมย์ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ทบทวนยกเลิกโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ จี้พับเวที ค.1 ชาวบ้านไม่มีส่วนร่วม
18 พ.ค.2568 – กลุ่มประชาชนในนาม กลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด อำเภอชำนิ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้มารับหนังสือ โดยในหนังสือได้มีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีทบทวนยกเลิกโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้าชีวมวล ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์
ด้านนายสมพงษ์ สงกูล กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด ได้กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพราะว่า ในพื้นที่ ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการสร้างโรงงานน้ำตาลกำลังการผลิต 20,000 ตันอ้อย/วัน และโรงงานไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกกะวัตต์ จนเกิดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 เมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2568 การเคลื่อนไหวคัดค้านโรงงานน้ำตาลโรงไฟฟ้าชีวมวล ก็เนื่องจากเพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องสิทธิชุมชน ที่ผ่านมาทางกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด ได้ศึกษาบทเรียนผลกระทบจากการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการจัดตั้งโรงงานแล้วนั้น สามารถสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่พบว่าหากมีการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลในพื้นที่หนองปล่องจริงจะส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพร่างกายของประชาชน และด้านสิ่งแวดล้อมด้วย อาทิเช่น ฝุ่น PM2.5 , ปัญหาการจราจรของรถบรรทุกอ้อยวิ่งผ่านหมู่บ้าน , การปนเปื้อนของมลพิษในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภค บริโภค และการเกษตร ตลอดจนการแย่งชิงทรัพยากรน้ำเพื่อใช้ในโรงงาน เป็นต้น
ด้านนายชัยพร มะลิวรรณ กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิด กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลมาก่อน ไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นและไม่มีส่วนร่วมกำหนดนโยบายตั้งแต่เริ่มต้น ในขณะพื้นที่ที่จะถูกจัดตั้งโรงงานดังกล่าวอยู่ติดห้วยลำปะเทียของชุมชนที่ได้พึ่งพาอาศัยหาอยู่หากินและการจัดตั้งโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตรยังครอบคลุม 6 ตำบล เบื้องต้น ที่มีหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และพื้นที่ที่จะจัดตั้งโรงงานจึงเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีโรงงานน้ำตาลอยู่แล้ว 1 แห่ง การสร้างเพิ่มนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต่อพื้นที่แต่อย่างใด แต่ควรจะเปิดลานรับซื้ออ้อยเพิ่มขึ้น และที่ผ่านมาเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ครั้งที่ 1 ชาวบ้านในพื้นที่ก็มิได้มีส่วนร่วมแต่อย่างใด และชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารของโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลอย่างครบทุกด้าน ตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
“ดังนั้นจึงมีข้อเรียกร้องมายังท่านนายกรัฐมนตรีดังนี้ 1.ให้ทบทวนยกเลิกโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ 2.ให้ยกเลิกเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก่อน และไม่มีส่วนร่วม 3.ให้แต่ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อศึกษาและประเมินศักยภาพของพื้นที่ เพื่อจะได้กำหนดการพัฒนาที่สอดคล้องกับพื้นที่และวิถีชีวิตชุมชนโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยมีตัวแทนกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 4.ให้รัฐจัดซื้อที่ดินบริเวณที่บริษัทกว้านซื้อ เพื่อนำมาจัดทำแหล่งน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน” นายชัยพร ระบุ
ด้านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือก็จะสรุปแล้วส่งต่อให้เลขานายกรัฐมนตรี และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ถึงข้อเสนอของกลุ่มที่มายื่น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บุรีรัมย์'จัดใหญ่ใส่เต็ม 3บิ๊กอีเว้นต์กีฬาระดับโลก 'มาราธอน-โมโตจีพี-รอบเทสต์'ฤดู2026
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “พรี-ซีซั่นเทสต์และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2026” เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิ๊กอีเว้นต์ระดับโลก
ร่าง 'จ่าเริง' วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย ถึงบ้านเกิดบุรีรัมย์
ครอบครัว ญาติพี่น้องรับร่าง จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน วีรบุรุษทหารกล้า เนิน 350 ปราสาทตาควาย กลับสู่บ้านเกิด ในหลวง–พระราชินี พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เตรียมพระราชทานเพลิงศพ 24 ธ.ค.นี้ ณ วัด ห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แม่เผย สุดเศร้าหลังจากนี้จะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว หากชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดเป็นลูกแม่อีก
ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน
แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้
ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว
แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

