ครอบครัว 'ส.ต.ธีรยุทธ' ทหารกล้าสละชีพในสนามรบ ทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน

ครอบครัวสิบตรีธีรยุทธ กระจ่างทอง ทหารกล้าชาวบุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตในสนามรบจากเหตุปะทะชายไทย-กัมพูชา นิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านตามความเชื่อ หลังเข้าฝันแม่บอกยังติดอยู่ในจุดเกิดเหตุกลับบ้านไม่ได้ แม่เผยยังคิดถึงลูกทุกวัน

30 สิงหาคม 2568 - ครอบครัวสิบตรีธีรยุทธ กระจ่างทอง อายุ 22 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ทหารกล้าที่เสียชีวิตในสนามรบ จากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ ฐานช่องตาเฒ่า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ได้นิมนต์มาพระมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ที่วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย หลังเข้าฝันแม่บอกกลับบ้านไม่ได้ ยังติดอยู่ในจุดเกิดเหตุ ทางครอบครัวจึงได้นิมนต์พระมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านตามประเพณีความเชื่อของชาวอีสานใต้ และเพื่อความสบายใจของคนในครอบครัวที่รักและเป็นห่วง โดยในพิธีได้มีการนำเสื้อผ้าของใช้ ของสิบตรีธีรยุทธ มาให้พระทำพิธีเรียกดวงวิญญาณตามประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมา

นางติน กระจ่างทอง อายุ 60 ปี แม่ของสิบตรีธีรยุทธ เล่าว่า ลูกชายมาเข้าฝันบ่อยครั้ง บอกว่า “กลับบ้านไม่ได้ ยังติดอยู่ใต้ต้นจิก” ที่จุดเกิดเหตุ จึงสอบถามพระที่วัดและได้รับคำแนะนำว่า เนื่องจากเสียชีวิตในสนามรบ และไม่ได้มีการเชิญวิญญาณจากจุดเกิดเหตุ ทำให้ดวงวิญญาณยังไม่สงบ ครอบครัวจึงตัดสินใจทำพิธีตามความเชื่อโบราณ และเพื่อความสบายใจของคนในครอบครัว อยากให้ดวงวิญญาณของลูกชายไปสู่สุขคติ ทุกวันนี้แม่ยังคิดถึงลูกทุกวัน บางวันที่คิดถึงลูกก็แอบนั่งน้ำตาไหลคนเดียว

ด้านนางสาวหอมจันทร์ กระจ่างทอง พี่สาวสิบตรีธีรยุทธ เปิดเผยว่า ตัวเองไม่เคยฝันเห็นน้องชาย แต่เขาจะมาหาหลานทำให้หลานป่วย ก็แปลกใจมากไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเขาอยากให้เชิญดวงวิญญาณเขากลับมาอยู่ที่บ้าน ก่อนหน้านี้ไปดูดวงหมอดูก็ทักบอกว่า เขายังไม่ได้กินอะไรเลย ตอนที่ทำพิธียกเสาเอกเสาโท เพื่อก่อสร้างบ้านหลังใหม่ เขาดีใจมาก ได้พาเพื่อนทหารที่เสียชีวิตด้วยทั้งหมดเป็นกองร้อยมากินเครื่องเซ่นไหว้ แต่เขาไม่ได้กินเขามองเห็นเพื่อนๆเขากิน และเขาก็โมโห เพราะว่าเขาก็ไม่ได้กินด้วย จึงไปเข้าฝันคนในครอบครัว จึงได้ตัดสินใจทำพิธีเชิญดวงวิญญาณน้องกลับบ้าน และจัดข้าวน้ำให้น้องกินตามประเพณีความเชื่อ ก็เชื่อว่าหลังจากทำพิธีแล้ววิญญาณน้องจะได้กลับบ้าน

ด้านพระมหาศักดิ์มงคล สิทธิยาโณ พระลูกวัดโพธิ์ทรายทอง อธิบายว่า การเชิญวิญญาณเป็นพิธีโบราณที่สืบทอดกันมา โดยเฉพาะกรณีผู้เสียชีวิตไม่ผิดธรรมชาติ ซึ่งกรณีนี้ถือว่าตายในสนามรบ หากไม่ได้เชิญวิญญาณจากสถานที่เกิดเหตุ ครอบครัวสามารถทำพิธีที่วัดแทนได้ เพื่อให้ดวงวิญญาณกลับมาอยู่กับครอบครัวและไม่ล่องลอยไปในภพภูมิอื่น ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่ทำเพื่อความสบายใจของครอบครัวผู้สูญเสีย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม

ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่