ชาวบ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.บ้านกรวด บุรีรัมย์ เก็บเสื้อผ้าเอกสารสำคัญใส่รถยนต์ และเติมน้ำมันเต็มถังเตรียมอพยพตลอดเวลา หลังทหารเขมรยิงปืนยั่วยุต่อเนื่อง ทั้งเสริมกำลังประชิดแนวชายแดน หวั่นปะทะรอบสอง เผยไม่เชื่อปืนลั่นเรียกร้องฝ่ายไทยโต้กลับและจัดการให้จบโดยเร็ว ขณะอำเภอกำชับกำนัน ผญบ.ประชาสัมพันธ์เส้นทางและแผนอพยพ พร้อมรับเหตุฉุกเฉิน 24 ชม.
25 กันยายน 2568 - ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ต่างเก็บเสื้อผ้าเอกสารสำคัญ และของใช้จำเป็น ใส่รถยนต์ไว้ และเติมน้ำมันเต็มถัง เพื่อเตรียมพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ ไปยังศูนย์พักพิงหรือสถานที่ปลอดภัย เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ หลังทหารเขมรยิงปืนยั่วยุต่อเนื่องและเสริมกำลังประชิดชายแดน เกรงเกิดการปะทะรอบสอง
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างไม่เชื่อว่าเสียงปืนที่ดังต่อเนื่องจากฝ่ายกัมพูชาไม่ใช่ปืนลั่น เชื่อจงใจยั่วยุ พร้อมเรียกร้องให้ทหารแนวหน้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โต้กลับกัมพูชา หากเป็นไปก็อยากจัดการให้จบโดยเร็ว อย่าปล่อยให้ยืดเยื้อออกไปอีกเพราะเดือดร้อนมาหลายเดือดร้อน ขณะทางอำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านประกาศประชาสัมพันธ์เส้นทางแผนอพยพให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยรับทราบ พร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 25 ชั่วโมง หากเกิดการปะทะจะได้อพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัยตามแผนที่ซักซ้อมไว้
นายจันทร์คำ เขื่อนมณี อายุ 55 ปี บอกว่า หลังจากทหารเขมรยิงปืนบริเวณภูผี จ.ศรีสะเกษ ก็ทำให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากการปะทะกันครั้งก่อน เพราะอยู่ใกล้แนวชายแดนแค่ 3-4 กิโลเมตรเท่านั้น จึงเกิดความไม่มั่นใจในสถานการณ์ประกอบกับทางผู้นำแจ้งว่าให้เตรียมพร้อม จึงได้เก็บเสื้อผ้า เอกสารสำคัญ และของใช้จำเป็นของคนในครอบครัวรวม 5 ชีวิต ใส่ในรถยนต์ไว้หากเกิดการยิงปะทะขึ้นก็พร้อมจะอพยพทันที และที่ต้องเติมน้ำมันไว้เต็มถังเพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นปั้มน้ำมันก็จะปิดทำให้ไม่มีที่เติม จึงต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ ซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วไม่เด็ดขาด ก็คาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะเด็ดขาดทวงคืนแผ่นดินไทยคืนทั้งหมด และหากจะรบก็ขออย่าให้ยืดเยื้ออีก เพราะเดือดร้อนมานานแล้ว
ด้านคุณป้าสายทอง บอกว่า ในพื้นที่ก็ได้ยินเสียงปืนเล็กดังมาจากฝั่งกัมพูชา ส่วนตัวเชื่อว่าเขมรมีเจตนายั่วยุกดดันฝ่ายไทยให้ตอบโต้ ก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องอดทนอดกลั้นกับการยั่วยุของเขมร แต่ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็อยากให้รบกันให้จบๆไปเลย ไม่อยากให้คาราคาซังแบบนี้ เพราะคนในพื้นที่เดือดร้อนไม่เป็นอันทำมาหากิน ก็ตอนนี้ก็ได้แต่เตรียมข้าวของไว้หากเกิดเหตุการณ์สู้รบกันขึ้นก็พร้อมอพยพหนีทันที.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม
ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่


