น้ำใจชาวนาบางขุด ส่งเสบียง 'อาหารปลอดภัย' ช่วยพี่น้องใต้

ความภูมิใจของชาวนาบางขุด ชัยนาท กับเสบียงอาหารปลอดภัย สู่พี่น้องผู้ประสบภัยภาคใต้ในยามวิกฤตน้ำท่วม

30 พ.ย.2568 – ในยามที่วิกฤตภัยพิบัติแผ่ปกคลุมภาคใต้ มีกลุ่มชาวนาเล็ก ๆ ในจังหวัดชัยนาทที่สู้กับปัญหาหนี้สินมายาวนาน แต่กลับสามารถส่งต่อความช่วยเหลือในรูปแบบของ “อาหารปลอดภัย” ไปยังผู้เดือดร้อนได้อย่างน่าภาคภูมิใจ  

ศรีไพร แก้วเอี่ยม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางขุดร้อยใจ และรองประธานกลุ่มส่งเสริมการเกษตรครบวงจร ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เล่าถึงเส้นทางความพยายามในการเดินทางจากวิกฤตสู่การเป็นผู้แบ่งปันในวันนี้ ว่าที่ผ่านมาสภาพของชุมชนบางขุดในอดีตที่ต้องเผชิญกับปัญหาหนักหน่วงชุมชนเราตอนนั้นเป็นหนี้ทั้งในและนอกระบบเยอะมาก ทำนาข้าวก็โดนเพลี้ยกระโดดซ้ำเติมอีก เพื่อแก้ปัญหานี้ กลุ่มส่งเสริมการเกษตรครบวงจรจึงก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขหนี้ร่วมกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิชีวิตไทให้ปรับเปลี่ยนจากการทำนาเคมี มาเริ่มต้นปลูกข้าวปลอดภัย (ปลอดสาร) ได้แก่ ข้าวหอมเกยไชย ข้าวหอมปทุม และข้าวหอมมะลิ

“ทุกคนน่าจะจำกันได้ ปี 2561 กล้วยมันล้นตลาดมาก หวีละ 50 สตางค์เอง หนำซ้ำพอเรามาทำนาได้นาปลอดภัยเมื่อปีที่แล้ว ราคาข้าวก็ตกต่ำมาก เกวียนละไม่ถึง 5,000 วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า วิสาหกิจชุมชนบางขุดร้อยใจจึงถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อรับผิดชอบการรวบรวมผลผลิต การสีข้าว และการแปรรูปเพื่อหารายได้มาแก้ไขหนี้นอกระบบโดยเฉพาะ เมื่อต้องแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม กลุ่มไม่ได้มองข้ามผลผลิตท้องถิ่น นอกจากข้าวสาร ยังมีกล้วย ที่เริ่มจากกล้วยเบรกแตก ตามมาด้วยกล้วยสติ๊ก และยังมี “ทองม้วน” ที่กำลังจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จัดแสดงในงานนิทรรศการ Thailand Rice Fest 2025 : Eat Local Food ในวันที่ 4 – 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ณ  เมืองทองธานี” ศรีไพร ระบุ

ศรีไพร ระบุถึงจุดเด่นของทองม้วนสูตรบางขุดร้อยใจ ทำจากแป้งข้าว กข 43 ที่มันมีคุณสมบัติคือ มีน้ำตาลต่ำ และผสมแป้งกล้วยลงไป เราเอากล้วยดิบที่สุก 70% มาฝาน อบ แล้วก็ปั่นเป็นผง  ทั้งหมดเกิดจากทางเกษตรอำเภอและกรมการข้าว มาสอนเราทำและสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระป๋องด้วย

ทางกลุ่มจะจัดสรรให้สมาชิกหมุนเวียนกันมาทำงานวันละ 2-3 คน และมีการจ้างสมาชิกสูงวัยมาช่วยงานด้วย โดยสมาชิกจะได้รับค่าแรงรายวัน การแปรรูปและการแพ็คสินค้าทั้งหมดจะทำร่วมกันที่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บางขุด ซึ่งก่อตั้งโดยมูลนิธิป๋วยอึ๊งภากรณ์และได้รับการปรับปรุงให้เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้ สถานที่ประชุม และสถานที่ผลิต โดยความช่วยเหลือจากบริษัทแปลน

ศรีไพร ชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของสมาชิกเกิดจากการที่ กลุ่มจัดหาปัจจัยการผลิตสำหรับการทำนาปลอดภัยให้ และรับซื้อผลผลิตในราคาที่สูงกว่าตลาด โดยใช้เงินรวมหุ้นของสมาชิกและกองทุนหมุนเวียนจากมูลนิธิชีวิตไท ผลกำไรแต่ละปีก็มีการปันผลให้กับสมาชิกที่ลงหุ้น  แม้สมาชิกเกือบทั้งหมดเป็นนาเช่า และมีภาระต้นทุนสูง แต่กลุ่มพยายามสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรแบ่งพื้นที่มาทำนาปลอดภัยเพียงแปลงเดียว เพื่อเก็บไว้บริโภค

“ตอนนี้เราก็ได้สมาชิกใหม่เพิ่ม จากเดิมทำกันอยู่แค่ 2-3 คน แต่พี่ใช้วิธีว่า ขอสักแปลงได้มั้ย ที่มาทำปลอดภัยเอาไว้กิน ผลคือตอนนี้สมาชิกในกลุ่ม มีข้าวเก็บไว้กินเองกันแทบทุกบ้านแล้วนะ อันนี้คือความภูมิใจ แม้หนี้สินยังไม่หมด แต่ขอให้เรามีข้าวกิน นอกจากนี้ กลุ่มยังรณรงค์ให้สมาชิกเริ่ม หยุดเผาฟางข้าว โดยหันมาใช้น้ำหมักฉีดใส่ตอซัง ซึ่งแม้จะเป็นวิธีที่ยากกว่าและใช้เวลา แต่กลับช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยและทำให้ดินดีขึ้น และยังเป็นการช่วยลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุของภัยแล้งและน้ำท่วม” ศรีไพร ระบุ

ศรีไพร กล่าวด้วยว่า ผลผลิตที่ช่วยแก้หนี้ให้กลุ่มเกษตรกร ยังสร้างพลังทบทวีจากการส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ภายใต้โครงการ “Save the South” สู้ภัยน้ำท่วมภาคใต้ โดย แปลนอาสา เริ่มแรกปลายปีที่แล้ว โดยบริษัทแปลน สั่งข้าวจากเรา ไปช่วยช่วงน้ำท่วมยะลา 3 ตัน เดือนตุลาคมก็รวมกับทางสุพรรณส่งข้าวไป จ.น่าน 3 ตัน ทองม้วน 300 กระป๋อง และล่าสุดน้ำท่วมภาคใต้ ทางกลุ่มได้ส่งข้าวสาร 2 ตัน และขนมทองม้วน จำนวน 150 กระปุก ไปยังปัตตานี และต้นเดือนธันวาคมนี้มีกำหนดส่งอีก 2 ตัน

ศรีไพร กล่าวย้ำถึงความตั้งใจในการส่งมอบอาหารที่ดี นั้นคือ เรากินยังไงเราก็ให้เขาแบบนั้น เราไม่หลอกเขา ให้เขาได้กินข้าวที่ดีแบบที่เราได้กิน การซื้อข้าวจากเรา เท่ากับได้ช่วย 2 ทาง เป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยผู้ประสบภัย แล้วก็ช่วยเกษตรกรชาวนาแก้หนี้สินไปด้วย และความสำเร็จของชาวนาบางขุดจึงไม่ใช่แค่การแปรรูปเพื่ออยู่รอด แต่คือการส่งมอบความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของชาวนาไทย ที่วันนี้มีศักยภาพพอที่จะผลิตอาหารดี ๆ ส่งต่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องร่วมชาติ และเป็นทางเลือกที่ทรงคุณค่าสำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์ปัจจุบัน .

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้

ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง

อุตุฯ เตือนใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เหนือ-อีสาน-กลางอุณหภูมิลดลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

‘อรรถพล’สั่งระดมกำลังเร่งฟื้นฟูน้ำท่วมใต้ยันขนส่งน้ำมันไม่กระทบ

‘อรรถพล’ ยังคงติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมันในปั๊มและการขนส่งน้ำมัน-ก๊าซหุงต้มอย่างใกล้ชิด เร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ส่งมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าแก่อาคารและบ้านเรือนประชาชน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองรถยนต์และรถจักรยานยนต์