ถกแผนเปิดการบิน ’ไทย – จีน’ เตรียมเพิ่ม 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

‘สำนักงานการบินจีน’แจ้ง กพท.เสนอขอเพิ่มเที่ยวบินโดยสารระหว่าง’ไทย – จีน’เป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ด้าน กพท.เร่งทำแผนหารือสายการบินคาดพร้อมบริการได้ตั้งแต่ก.ย.นี้

19 ส.ค.2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) สอบถามสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ถึงความต้องการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศจากเดิมอยู่ที่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ หากไทยตอบรับ คาดการณ์เพิ่มจำนวนเที่ยวบินได้ราวเดือนกันยายนเป็นต้นไป

ทั้งนี้ กพท.ได้รับการสอบถามจากสำนักงานการบินพลเรือนจีน ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 17ส.ค. 2565 เรื่องความเป็นไปได้ในการเพิ่มเที่ยวบินโดยสารระหว่างจีนและไทย ซึ่งเนื้อหาระบุถึงการเพิ่มจำนวนความถี่เที่ยวบินระหว่างสองประเทศ โดยจีนเสนอว่าอาจปรับให้ประเทศไทยจัดสรรเที่ยวบินเข้าประเทศจีนได้ถึง 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยได้ 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เช่นกัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

อย่างไรก็ตามCAAC ได้ขอให้ กพท.จัดทำแผนการบินสายการบินของไทยที่ต้องการทำการบิน เพื่อที่ CAAC จะนำไปใช้ตรวจสอบความพร้อมของสนามบินจีนในการรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันจีนยังไม่อนุญาตให้เพิ่มเที่ยวบินไปยังบางเมือง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว เนื่องจากจะเกินขีดความสามารถของสนามบินในเมืองดังกล่าวและให้เปิดทำการบินในเมืองอื่น ๆ แทน

ทั้งนี้หากแผนการบินของไทยจาก กพท. ที่จัดส่งให้เป็นไปตามความสามารถในการรองรับของสนามบินจีน ทางจีนจะได้ตอบรับอย่างเป็นทางการและสายการบินของไทยจะสามารถเริ่มทำการบินได้ตามโควตาที่กำหนด

ดังนั้น ในเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 กพท.จึงได้เชิญสายการบินของไทยประชุมเพื่อถามถึงความต้องการปฏิบัติการบิน โดยจะนำข้อมูลมาจัดสรรเส้นทางบินร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศสูงสุด คาดว่าจะส่งแผนให้กับสำนักงานการบินพลเรือนจีน ได้ภายในสัปดาห์หน้า และอาจได้รับการตอบรับจาก CAAC ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งสายการบินของไทยจะได้เร่งทำการตลาดและเริ่มให้บริการเที่ยวบินโดยใช้สิทธิใหม่นี้ในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป

โดยกพท.ทราบดีว่าจีนยังคงมาตรการเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งการเพิ่มเที่ยวบินในรอบนี้จึงยังคงเป็นไปเพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่มีความสำคัญ เช่น การเดินทางด้านธุรกิจ การเดินทางกลับภูมิลำเนา และกรณีที่มีความจำเป็นอื่น ๆ ระหว่างทั้งสองประเทศ

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถเป็นจุดขนส่งผู้โดยสารเข้าออกประเทศจีนเมื่อจีนพิจารณาเปิดให้ทำการบินเพิ่มขึ้นหากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น