
10 ต.ค. 2565 – นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการ DIPROM AgriBiz Scale Up ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน (สิงหาคม-กันยายน 2565) เป็นการบ่มเพาะและเสริมแกร่งศักยภาพสู่การปั้นนักธุรกิจเกษตรยุคใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมีพันธมิตรจากภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับโครงการ 88 SANDBOX: Startup Ecosystem พื้นที่แห่งโอกาสในการบ่มเพาะผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ทอัพ และ SCB SME พร้อมด้วย WOODY WORLD เพื่อร่วมกันสร้างและขยายธุรกิจ ให้เติบโต 10X และเพิ่มโอกาสในการขยายต่อยอดไปสู่การทำตลาดต่างประเทศต่อไป
นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จของโครงการฯ ซึ่งได้สร้างและขยายธุรกิจเอสเอ็มอี (Scale Up SME) ด้านการเกษตรให้เติบโตและยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายต่อยอดไปสู่การทำตลาดต่างประเทศ สำหรับนักธุรกิจเกษตรรุ่นใหม่ ที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการกว่า 50 ธุรกิจ ได้รับการบ่มเพาะและนำเสนอผลงานที่โดดเด่นถึง 12 ผลงาน จาก 16 บริษัท ซึ่งผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 ราย ดังนี้ 1 นายกิตติศักดิ์ พิพัฒน์คณาพรบริษัท ไทย เบสท์ โปรดักส์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้และผักสดไทย ไปทั่วโลก 2. นายกนกพงษ์ พงษ์ธรรมรักษ์ ธุรกิจแพลทฟอร์มนำตลาดสดสู่ออนไลน์ (Fresh Market Transformation Platform) และ 3. นายอัคคภพ จันทรศรีวงศ์บริษัท NGM-X ผู้ผลิตถุงพลาสติก
ทั้งนี้ มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมทั้งหมด 164 กิจการ และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพในโครงการจำนวน 50 กิจการ ซึ่งได้รับการอบรมในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ การปรับแนวคิดให้เป็น Global Mindset เสริมทักษะการพูดและพัฒนา Public Speaking Skills การวางแผนกลยุทธ์ทำ Brand Story telling ให้ทรงพลัง การศึกษารูปแบบธุรกิจยุคใหม่ การหาแหล่งเงินทุน การระดมทุน การเจรจาถ่ายทอดให้นักลงทุนสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ครบทุกมิติ ทั้งนี้ผู้ประกอบการทั้ง 50 กิจการ ที่ได้รับพัฒนาและยกระดับธุรกิจให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันจะมีความพร้อมก้าวสู่ระดับโลกด้วยความแข็งแกร่งบนแนวทางเกษตรวิถีใหม่
โดยภาพรวมผลลัพธ์ของผู้ประกอบการทั้ง 50 ธุรกิจ ที่เข้าร่วมโครงการ DIPROM AgriBiz Scale Up ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างบริษัทในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เปลี่ยนมายด์เซ็ทให้ผู้เรียนออกจากคอมฟอร์ทโซน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม นำประสบการณ์ไปคิดต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มมูลค่าภาคเกษตรไทย นอกจากนี้ ยังได้รับความรู้จากภาคธุรกิจในภาคปฏิบัติและยังเชื่อมโยงกับกลุ่ม Start up Mentor และ Venture Capital ชั้นนำของประเทศไทย เพื่อสร้าง Disruptive Business Model พร้อมหลักสูตรการเรียนรู้ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ธุรกิจเพื่อให้เกิดการเติบโตและเพิ่มโอกาสในการขยายต่อยอดไปสู่การทำตลาดต่างประเทศ
ปัจจุบันข้อมูลจากกลุ่มบริการส่งออกสินค้าเกษตร กรมวิชาการเกษตร รายงานว่าใน 5 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-พ.ค.) มียอดการส่งออกแล้วกว่า 15.27 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 469,178.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 28.57% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประเทศคู่ค้าในการตรวจสอบคุณภาพการผลิตสินค้าพืชของประเทศไทย ตอกย้ำให้เห็นถึงโอกาสและตลาดที่เติบโตของภาคเกษตรกรไทย
นายศุภฤทธิ์ เมฆอรุณกมล SME Business Director ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้เรียนรู้ในหลักสูตร Financial & Scaling โดยผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะได้เรียนรู้และเข้าใจรูปแบบของ Revenue Model ต่าง ๆ ในธุรกิจยุคใหม่ เข้าใจรูปแบบของการหาเงินทุน การระดมทุน เพื่อขยายธุรกิจ ถ่ายทอดให้นักลงทุนสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการ 88 SANDBOX ซึ่งเป็น Ecosystem ในการบ่มเพาะนวัตกรรมและสตาร์ทอัพให้กับประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรธุรกิจหรือ Agri Business เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ มีศักยภาพจะเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่ง และหากจะปักธงไทยในเวทีโลก ประเทศไทยต้องเลิกทำเกษตรราคาถูกและต้องเดินหน้ายกระดับสู่การทำเกษตรเชิงนวัตกรรม สร้างและขยายธุรกิจเข้าถึงยังตลาดทั่วโลก ตั้งเป้าว่าการร่วมมือนี้จะปูทางพานักเกษตรรุ่นใหม่ของประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายการเป็น “ครัวของโลก” หรือ Kitchen of the World ได้
สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล Best of The Best จำนวน 3 กิจการ ดังนี้
1. นายกิตติศักดิ์ พิพัฒน์คณาพรบริษัท ไทย เบสท์ โปรดักส์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้และผักสดไทย ไปทั่วโลก
2. นายกนกพงษ์ พงษ์ธรรมรักษ์ ธุรกิจแพลทฟอร์มนำตลาดสดสู่ออนไลน์ (Fresh Market Transformation Platform)
3. นายอัคคภพ จันทรศรีวงศ์บริษัท NGM-X ผู้ผลิตถุงพลาสติก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดีพร้อม’อัดสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอี
‘ธนกร’ สั่ง ‘ดีพร้อม’ เร่งเดินหน้า Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ ‘เงินไว by DIPROM’ ช่วยเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%
‘ดีพร้อม’ ปิดฉาก ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ อย่างสวยงาม ตอกย้ำพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย ดึงคนร่วมงานล้นหลาม สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 330 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 27 ตุลาคม 2568 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อมประกาศความสำเร็จการจัดงาน ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
‘ดีพร้อม’ ชวนเที่ยวมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM)’ พบ 4 โซนไฮไลท์ 400 ร้านค้า สัมผัสเสน่ห์อาหาร แฟชั่น วัฒนธรรมไทย ตั้งแต่วันนี้-12 ต.ค.นี้ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือดีพร้อม จัดงานมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) รสและศิลป์ไทย ก้าวไกลสู่สากล’ ระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย หรือซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภายใต้นโยบาย ‘ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้
ดีพร้อมจัดใหญ่ ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ โชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย สร้างอนาคตใหม่ให้ SMEs คาดดึงคน 30,000 รายเข้างาน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
มหกรรมไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่ยกระดับเสน่ห์ไทยสู่เวทีโลก โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจับมือจุฬาฯ เผยแพร่ความสำเร็จของโครงการพัฒนาผลิตภาพ สำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย (แผนธุรกิจและการตลาด) มอบรางวัล 4 ธุรกิจต้นแบบอุตสาหกรรมโกโก้ไทย
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาฯ จัดพิธีปิดและเผยแพร่ความสำเร็จของกิจกรรมพัฒนาผลิตภาพสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูปเป้าหมาย


