
ก.ท่องเที่ยว เตรียมเสนอ ครม. 7 ก.พ.นี้ เคาะอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทางอากาศ300 บาท/คน ทางบก-น้ำ 150 บาท/คน พ่วงเสนอขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น.
31 ม.ค. 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ครั้งที่ 1/2566 โดยที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญ และมีมติเห็นชอบเตรียมผลักดันนำเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาในวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ดังนี้ โดยที่ประชุม ท.ท.ช. ได้เห็นชอบหลักการข้อเสนอการขยายระยะเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น.
ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวสำหรับภาคเศรษฐกิจกลางคืนในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศ มุ่งเน้นการฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว และส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทย โดยจะดำเนินการในพื้นที่นำร่อง ได้แก่ ถนนบางลา ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่แรก และจะมีการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก่อนจะขยายผลไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอื่นๆ ต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พ.ศ. … โดยเห็นชอบให้กำหนดอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านช่องทางอากาศในอัตรา 300 บาท/คน และช่องทางบกและช่องทางน้ำในอัตรา 150 บาท/คน พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้านกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับ (ร่าง) ประกาศฯ ต่อไป
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบการเสนอให้การฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและยั่งยืนในทุกมิติ สอดคล้องกับบริบทและสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปภายหลังการระบาดของโรคโควิด – 19 ทั้งนี้แนวคิดการฟื้นประเทศด้วยการท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นองค์รวม โดยแบ่งการดำเนินงานสำคัญเป็น 3 ระยะ ได้แก่ พร้อมรับ – พัฒนา – พลิกโฉม โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ ทุกหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวคุณภาพสูง มุ่งสู่การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2570
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้กระทรวงท่องเที่ยวฯได้วางไทม์ไลน์ชัดเจนว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2566 จะเริ่มต้นเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศไทยจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (หรือที่รู้จักกันในชื่อ ค่าเหยียบแผ่นดิน) คนละ 300 บาท เป็นอัตราเดียวกันไม่ว่าจะเดินทางเข้าโดยทางบก-น้ำ-อากาศ โดยจะเก็บเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
ทั้งนี้ จะยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศฯให้สำหรับชาวต่างชาติที่เข้าไทยโดยใช้บอร์เดอร์พาสหรือหนังสือผ่านแดน ข้าราชการท้องถิ่นที่อยู่ชายแดน รวมถึงคนที่ถือพาสปอร์ตแต่มีหนังสืออนุญาตทำงานในไทยก็จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมนี้ด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นั่งเรือเฟอร์รี่มาแล้วแวะเที่ยวประเทศไทยแบบเช้า-เย็นกลับ กำลังพิจารณาว่าจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าประเทศฯเช่นกัน โดยหวังให้เกิดความประทับใจและกลับมาเที่ยวประเทศไทยแบบพักค้างคืนในโอกาสต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
จับตา ครม. พิจารณา 4 มาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
การประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณา 4 มาตรการเพื่อฟื้นฟู-เยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

