
“สรรพากร” เปิดโหมดโหดตรวจสอบข้อมูลคืนภาษีเข้มข้น หลังมีผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทะลุ 2.4 ล้านราย แจงดำเนินการคืนภาษีแล้ว 70% ระบุเจอ 10-15% พบขอคืนภาษีผิดปกติ จากจำนวนผู้ขอคืนภาษี 1.4 ล้านราย พร้อมจับมือ “กรุงไทย” เปิดช่องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง
15 ก.พ. 2566 – นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ประเมินยอดการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยในส่วนของการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเปิดให้ผู้มีเงินได้เข้ามายื่นแบบชำระภาษี ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้ทยอยยื่นผ่านการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ2 ครั้ง และภาษีมูลค่าเพิ่มชำระทุกเดือน กรมฯ จึงเห็นยอดการชำระภาษีที่มีแนวโน้มดีขึ้น
โดยจากรายงานล่าสุดพบว่า มีผู้มายื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วกว่า 2.4 ล้านราย โดยเป็นการยื่นผ่านระบบออนไลน์กว่า 95% ในจำนวนนี้ประสงค์ขอคืนภาษี 1.4 ล้านราย ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินการคืนภาษีแล้วประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
“ปีนี้จะเป็นปีที่กรมฯ ตรวจสอบการคืนภาษีที่มีความรอบคอบและเข้มข้นมากขึ้น โดยระบบAIจะเข้ามาช่วย หากพบความผิดปกติ จะมีการขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้เกิดความล่าช้าในการคืนภาษี จากปกติจะคืนภาษีภายใน 3วันทำการ แต่หากพบความผิดปกติ การคืนภาษีจะล่าช้ากว่านั้นหรือเกินกว่า 7 วันทำการ โดยจากข้อมูล พบว่า ในจำนวนที่ยังไม่ได้ทำการคืนภาษีราว 30% ของผู้ที่ขอคืนภาษีนั้น มีประมาณ 10-15% ที่มีความผิดปกติในการยื่นแบบ ดังนั้น กรมฯ จึงต้องตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น” นายลวรณ กล่าว
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 กรมสรรพากรได้ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยการร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำบริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังมาใช้กับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่กรมสรรพากรได้จัดเตรียมไว้ให้กับผู้เสียภาษี ได้แก่ บริการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) ระบบตรวจสอบข้อมูลทางภาษี (My Tax Account) ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย (e-Withholding Tax) ระบบตรวจสอบเงินบริจาค (e-Donation) ระบบยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ผ่านแอปพลิเคชัน (RD Smart TAX) และระบบรับชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp Duty) รวมทั้งบริการ ทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ของกรมสรรพากรที่จะพัฒนาเพิ่มอีกในอนาคต
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การให้บริการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันเป๋าตังเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย พัฒนาโดย บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เป็นแอปพลิเคชันที่ส่งเสริม ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางดิจิทัลต่าง ๆ รวมถึงเป็นช่องทางการชำระภาษีที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น มีระดับความน่าเชื่อถือของอัตลักษณ์เป็นไปตามกฎหมาย และข้อกำหนดของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA อีกทั้งยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้ในการให้ข้อมูลธุรกรรมภาษีอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุดปัง! ส่งท้ายปี68 ’สนามบินขอนแก่น‘ต้อนรับผู้โดยสารคนที่ 1.7 ล้าน
‘ท่าอากาศยานขอนแก่น’จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับผู้โดยสารคนที่ 1,700,000 ส่งท้ายของปี 2568 มอบของที่ระลึกและตั๋วเครื่องบิน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สะท้อนการเติบโตของการเดินทางบูมการท่องเที่ยวภาคอีสาน
ธุรกิจดาวรุ่งปี 2569 เทรนด์ดิจิทัล-ไลฟ์สไตล์-สุขภาพ มาแรง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังมีแรงส่งจากธุรกิจที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พร้อมจัดอันดับ 3 กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งรวม 10 ประเภทเทรนด์ดิจิทัล-ไลฟ์สไตล์-สุขภาพ มาแรง
‘แบงก์ชาติ’เคาะจีดีพีปีนี้โต2.2% อานิสงส์ส่งออก/จับตาบาทแข็ง!
‘แบงก์ชาติ’ ให้เลยจีดีพีปี 68 โตแน่ 2.2% ชี้เศรษฐกิจเดือน พ.ย. ยังขยายตัว อานิสงส์ส่งออก-รายรับภาคท่องเที่ยวฟื้น พร้อมจับตาสถานการณ์เงินบาทแข็งแข็งค่า
AMATAVทุ่ม5,740ล้านผุด‘อมตะ ซิตี้ ฟู้เถาะ’เวียดนาม
อมตะ วี เอ็น ปักหมุดยุทธศาสตร์ ‘เวียดนามเหนือ’ทุ่ม 5,740 ล้านบาท ผุด ‘อมตะ ซิตี้ ฟู้เถาะ’ รับกระแส กลุ่ม Tech-อิเล็กทรอนิกส์ ย้ายฐานการผลิตตั้งเป้าปั้นนิคมสีเขียวสอดรับเป้าหมาย Net Zero

