
”กรมเจ้าท่า”เดินหน้าพัฒนาท่าเรือรับตลาดท่องเที่ยวเรือสำราญ โตเฉลี่ย 14 % ต่อปี คาดเปิดให้บริการปี71 กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน
4 ก.ค. 2566 – รายงานข่าวจากกรมเจ้าท่า(จท.) เปิดเผยถึงพัฒนาศักยภาพการให้บริการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) สนับสนุนธุรกิจเรือครูสในประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันและสร้างรายได้ ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทย – ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพและทรัพยากรที่เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดเรือสำราญที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในประเทศไทย 14 % ต่อปี และปัจจุบันโควิด-19 ได้คลี่คลายลงส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวเรือสำราญเติบโตอีกครั้ง สร้างรายได้ให้กับภาคธุรกิจการท่องเที่ยว กระจายลงสู่ประชาชนในท้องถิ่น
ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้รับจัดสรรงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2566 ภายใต้แผนงานบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยววงเงินรวม 156.15 ล้านบาท เพื่อพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ จำนวน 3 โครงการ ครอบคลุมเส้นทางเดินเรือผ่านประเทศไทย ทั้งในเส้นทางเดินเรือฝั่งอันดามันซึ่งมีท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ ท่าเรือปลายทางที่จังหวัดภูเก็ต และเส้นทางฝั่งอ่าวไทยมีท่าเรือต้นทางที่สิงคโปร์ และท่าเรือปลายทางที่ฮ่องกง โดยผ่านประเทศไทยซึ่งแวะเข้าจอดที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
สำหรับแนวทางการพัฒนาดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเรือสำราญ พ.ศ.2561 -2570 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผนวกกับผลการศึกษาที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการไว้เดิม ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษา โดยทั้ง 3 โครงการที่ขอตั้งงบประมาณ สนับสนุนครอบคลุมทุกเส้นทางการเดินเรือครูสผ่านประเทศไทย ได้แก่ 1. โครงการศึกษาและวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี 2. โครงการศึกษาวางแผนแม่บทเพื่อพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ และสำรวจออกแบบท่าเรือสำราญขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งอันดามัน และ3. โครงการศึกษาสำรวจออกแบบ ท่าเรือต้นทาง (Home Port) สำหรับเรือสำราญขนาดใหญ่ บริเวณอ่าวไทยตอนบน
ทั้งนี้เมื่อรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการการให้เอกชนร่วมลงทุนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ทั้ง 3 โครงการมีขั้นตอนการดำเนินงาน ได้แก่ ตั้งงบประมาณ พ.ศ. 2567-2568 จัดทำรายงาน EHIA ระยะเวลา540 วัน ตั้งงบประมาณ พ.ศ.2568-2569 คัดเลือกผู้ร่วมทุน (ระยะเวลา 360 วัน) ตั้งงบประมาณ พ.ศ.2569-2571 เริ่มก่อสร้าง ระยะเวลา 900 วัน แผนเปิดให้บริการท่าเรือภายในปี พ.ศ.2571
สำหรับการพัฒนาท่าเรือรองรับเรือครูส จะช่วยสนับสนุนธุรกิจเรือครูสในประเทศไทยได้อย่างครอบคลุมเส้นทางทั้งสองฝั่งทะเล เป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันเพิ่มสัดส่วนรายได้ด้านการท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของประเทศ กระตุ้นรายได้การท่องเที่ยวเรือสำราญทางน้ำ เพิ่มการจดทะเบียนเรือท่องเที่ยวทางน้ำ อีกทั้งเพิ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ผ่านด่านทางน้ำอีกด้วย โดยในแง่เศรษฐกิจเรือครูส 1 ลำ มีนักท่องเที่ยวประมาณ 3,000 คน
ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวใช้จ่ายประมาณ 7,000 บาท/คน/วัน หมายความว่า เรือครูส 1 ลำ นำเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ประมาณ 21 ล้านบาท/วัน/ลำ หากเรือครูสแวะเข้าเทียบท่าจำนวนมากขึ้น และจอดท่องเที่ยวในเมืองไทยนานขึ้น จะสร้างเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวมากขึ้นไปด้วย อีกทั้งในกรณีที่ท่าเทียบเรือได้รับการพัฒนาให้เป็นท่าเรือต้นทาง (Home Port) มูลค่าทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นจากที่ได้กล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 – 8 เท่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนหนัก! ตะวันออก-อันดามันเสี่ยงท่วม คลื่นสูง 2 เมตร
กรมอุตุนิยมวิทยาเผย 24 ชั่วโมงข้างหน้า ไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ขณะที่ทะเลอันดามันและอ่าวไทยคลื่นสูงถึง 2 เมตร ชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงฝนฟ้าคะนอง
ไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อันดามันคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่
ไทยระวัง! ฝนถล่มเหนือ-อีสาน อันดามันคลื่นสูง 3 เมตร
กรมอุตุฯ เตือน 12 ก.ค.นี้ ไทยเจอฝนฟ้าคะนอง-ฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ เหนือ-อีสานเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะทะเลอันดามันตอนบนค
เตือน! เหนือ-อีสานฝนถล่ม เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก อันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 2 เมตร
กรมอุตุฯ เตือน 28 มิ.ย. นี้ เหนือ-อีสาน-กทม. ฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะเชียงราย-น่าน-อุดรฯ-สกลฯ-นครพนม


